เดินหน้ารันวงการเพลงเต็มพิกัด สำหรับ โหน-ธนากร ศรีบรรจง พระเอกหนุ่มมากความสามารถ นอกจากผลงานละคร “โอป้าลำซิ่ง” ทางช่อง 7HD ที่กำลังออกอากาศให้แฟนๆ ได้ม่วนจอย ล่าสุด ขึ้นแท่นศิลปินเต็มตัว ค่ายโซเมตซาวน์ สังกัด เทโร มิวสิค มาพร้อม ซิงเกิลแรก “รอบเดียวพอ (Enough)” เป็นหนึ่งแพชชันที่อยากทำ พร้อมปรับลุคใหม่ตั้งแต่หัวจดปลายเท้า ทำสีผม ทำเล็บสีสันสดใส ตามประสาคน “อินเลิฟ” ใน “คนดังนั่งคุย”มารันวงการเพลงแล้วเป็นอย่างไรบ้าง“จริงๆแล้วโหนเองหลักๆเลยคือเป็นนักแสดงช่อง 7HD ใช่ไหมครับ ระหว่างทางผู้ใหญ่ให้โอกาสเราได้ร้องเพลงประกอบละครอยู่บ้างแล้ว ทีนี้ผู้ใหญ่เลยบอกว่าถ้าโหนชอบร้องเพลงก็ไปในทางเพลงให้เต็มที่ ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ที่ได้ให้โอกาสให้โหนได้มาเซ็นสัญญากับค่ายเทโรมิวสิค คือค่ายโซเมตซาวน์ เป็นศิลปินอย่างเต็มตัว พร้อมกับออกซิงเกิลแรกคือเพลง รอบเดียวพอครับ”ทำไมถึงชื่อเพลง รอบเดียวพอล่ะ“คือฟังหลายๆรอบก็ได้นะครับ (หัวเราะ) จริงๆคือโปรเจกต์เพลงนี้ได้คนแต่งเพลงคือพี่เอก ซีซันไฟว์ พี่เอกเป็นนักแต่งเพลงอยู่แล้ว จริงๆก่อนปล่อยเพลงก็มีอีกหลายๆเพลงที่เราได้มาคุยกัน แต่เพลงรอบเดียวพอเข้าวินที่สุด ด้วยความหมายของเพลง ที่เปรียบความรักว่าเหมือนกับหนังสือ จบไปแล้วก็เหมือนกับการอ่านจบ ไม่ว่าจะกลับไปอ่านกี่รอบสุดท้ายอย่างไรก็ยังจบเหมือนเดิม เลยเป็นที่มาของเพลงรอบเดียวพอ”เพลงเปิดตัวทำไมเลือกเพลงช้าทั้งที่คนคิดว่าน่าจะเป็นจังหวะโจ๊ะๆ มากกว่า“ด้วยคาแรกเตอร์ที่มีความเป็นตัวเองสูงขึ้น เพราะจากที่ผ่านมาติ๊ต่างว่าเราเป็นน้ำไม่ว่าโปรดิวเซอร์เพลงละครให้เราเป็นอย่างไรเราก็จะเป็นอย่างนั้น อย่างเราไปเล่นละครเพลงหมอลำ เราต้องร้องเพลงลูกทุ่ง เราก็ร้องลูกทุ่ง ไปเล่นละครที่พีเรียดหน่อยเราก็ได้ไปร้องเพลงลูกกรุง แต่อันนี้จะมีความเป็นตัวเราอยู่สูง ฉะนั้นเราชอบเพลงเมโลดี้ประมาณนี้ที่ไม่เร็วไปไม่ช้าไป ภาษาดนตรีเรียกว่ามีความเป็นจังหวะมีเดี้ยมหรือว่ามีสไตล์แบบโซลนิดหนึ่ง ประมาณนี้ครับ”เหมาเกือบทุกหน้าที่ รันเกือบทุกวงการแล้ว“ก็ถือคติที่ว่า เกิดมาครั้งหนึ่งอยากทำอะไรก็ทำให้เต็มที่เลย” เป็นนักร้องถือว่าเป็นฝันสูงสุดของเราไหม“อาจจะยังไม่ใช่ฝันสูงสุด คือทุกคนมีฝันอยู่แล้ว ทุกๆสิ่งที่ผมทำคือก็จะมีฝันที่ได้วางเอาไว้ ซึ่งการร้องเพลงเป็นแพชชันที่วางไว้ตั้งนานแล้ว แต่เพิ่งถูกนำมาขยาย จากผู้ใหญ่ที่ให้โอกาสเราทำตรงนี้ครับ”เพลงต่อไปของค่าย“ก็กำลังพูดคุย น่าจะออกมาเร็วๆนี้ครับ ใช้คำว่าคลอดเลยเพราะน่าจะออกต่อกับแบบต่อเนื่อง (กี่เพลง) น่าจะประมาณ 3-5 เพลงครับ (อัลบั้มเลย) อาจจะไม่ถึงขนาดนั้นครับ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ทยอยๆ ในปี 2 ปีนี้ครับ”จะเป็นเพลงแนวไหน“ป๊อบสไตล์เดิมเลยครับ แต่ตอนนี้ยังไม่มีชื่อเพลง (แร็ปไหม) ตรงแร็ปไม่แน่ใจเลยครับ เพราะยังไม่ทราบเพลงเลย (ได้ร้องแล้วก็สักหน่อย) อาจจะข้ามแนวไปหมอลำเลยก็ได้”เป็นศิลปินคนหนึ่ง คำนี้ทำให้ใจฟูขนาดไหน“เป็นคำที่น่ายินดี และเป็นคำที่น่าตื่นเต้นมากกับคำว่าศิลปินนะครับ แต่ว่าถ้าถามผมตอนนี้ผมคงไม่กล้าเอาไปเปรียบเทียบกับศิลปินท่านอื่น เรายังถือว่าเป็นน้องใหม่ น้องเล็ก เป็นคนหนึ่งที่พอร้องเพลงได้ สร้างผลงานเป็นศิลปะแขนงหนึ่งครับ”ร้องเพลงได้ เล่นตลกได้“ครับ เล่นตลกได้นิดหน่อย”ปล่อยออกมาแล้วฟีดแบ็กเป็นอย่างไร“ดีเลยครับ ได้แฟนคลับ ฐานแฟนเพลงมาใหม่เยอะเลยครับ คือปกติเราก็จะมีแฟนละครอยู่แล้ว เป็นแฟนที่อยู่กันมานาน แต่ครั้งนี้เป็นฐานใหม่ๆที่ตื่นเต้น และดีใจมากๆครับ”ได้ทาเกตกลุ่มไหน“ครั้งนี้เป็นเด็กเจน Z เลยครับ อายุแบบ 17-20 ปี ฐานกลุ่มนี้เลยครับ”คนละฐานกับแฟนละคร“ใช่ครับ คนละฐานอย่างสิ้นเชิงเลยครับ”ทำให้เราต้องกลับไปเป็นเด็กด้วยมั้ย“แน่นอนครับ”ล่าสุดเห็นโหนไปทำเล็บมาด้วยเกี่ยวกับการลดวัยกลับไปเป็นวัยรุ่นมั้ย“ด้วยเทรนด์ครับที่กำลังมา รวมถึงด้วยการทำเพลงของเราที่มีทาเกตกรุ๊ปกลุ่มนี้ด้วย บวกกับละครก็ปิดกล้องไปแล้วด้วยก็เลยอยากลองทำอะไรใหม่ๆบ้าง”เป็นการทำเล็บครั้งแรก“ใช่ครับ คือถ้าเคยทาเล็บจริงๆก็สมัยแบบ 7-8 ขวบเลยครับ ที่ปิดเทอมก็ทาเล็บเล่นๆกับเพื่อน”ครั้งนี้ทาเล็บ 10 นิ้ว 10 ลาย“คือพอทำแล้วทำให้รู้ว่าผู้หญิงมีความอดทนสูงมาก คือทำที 2-3 ชั่วโมงต้องอยู่ในร้าน อย่างของผมนี่ก็ 2 ชั่วโมง นั่งกันเมื่อยเลยครับ นี่ก็มีนัดจะเข้าไปซ่อมอยู่ (ยิ้ม)”พอทำมาแล้วกระแสคนรอบข้างว่าไงบ้าง“ก็บอกว่าน่ารักครับ แปลกดี จริงๆ คือปฏิเสธไม่ได้ว่ายุคนี้เป็นยุคที่ผสมผสานทุกอย่างหมดแล้ว เป็นยูนิเซ็กส์หมดเลย ผู้หญิงใช้ของผู้ชายได้ ผู้ชายก็ใช้ของผู้หญิงได้ ทุกเพศทุกวัยสามารถใช้ของร่วมกันได้เพราะฉะนั้นเล็บก็เหมือนกัน ผู้ชายก็มีสิทธิ์ทาได้ ไม่ได้แบ่งแยก”เหมือนโหนได้ก้าวข้ามเซฟโซนของตัวเองออกมา“แรกๆ ก็เขินๆ อยู่ครับ อย่างไปคุยงานกับผู้ใหญ่ก็กลัวว่าจะดูมีความน่าเชื่อถือไหมแต่จริงๆ ผู้ใหญ่เขาก็ไม่ได้มองตรงนี้หรอกครับ คือเป็นความคิดของเราแบบขำๆ”นี่คือสิ่งหนึ่งที่ทำให้เด็กลง“ใช่ครับ ก็ปรับให้เด็กลง อย่างเสื้อผ้าก็มีเปลี่ยนแนวบ้าง จริงๆผมก็เปลี่ยนแทบจะทุกซีซันอยู่แล้ว”กล้าใส่สีสันมากขึ้น“ใช่ครับ มีความเป็นคัลเลอร์นิดนึง ถามว่าเริ่มเปลี่ยนตอนไหน คือถ้าไปดูหน้า IG ผมจะเห็นว่าผมเปลี่ยนมาสักพัก คือตามยุค ตามสมัย ตามแฟชั่น คือให้เราแต่งเรียบร้อย เราก็แต่งได้ แต่ถ้าให้เป็นสไตล์เรา เราก็อยากสนุกกับมัน หรือมองว่าถ้าชีวิตช่วงนี้เราเครียด เราอยากเอนจอยกับการแต่งตัว การใช้ชีวิตประจำวัน” เป็นเพราะความรักหรือเปล่า ถึงลุกมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง“อาจจะไม่น่าเกี่ยวครับ ความรักก็เป็นอีกพาร์ตหนึ่งที่เราก็ต้องดำเนินไป มีการซัพพอร์ตกันเกิดขึ้น มาจากตัวเราล้วนๆ”ตอนนี้นอกจากงานแสดง งานเพลง รันวงการไหนอีก“ผมไม่อยากพูดเลยว่า เดี๋ยวหาว่าผมงานเยอะ ก็มีละครเล่น เป็นศิลปินแล้ว มีงานพิธีกรที่ช่อง 7HD มีทำธุรกิจเปิดบริษัท จัดออร์กาไนซ์ ชื่อบริษัท สวนหลังบ้าน เรคคอร์ด อีกหนึ่งสาขาก็คือ สวนหลังบ้าน โปรดักชัน ถ่ายงานโปรดักชัน ถ่ายเอ็มวี โฆษณา ผลิตสื่อต่างๆ”ทำงานหนักขนาดนี้ ทำเหมือนร้อนเงิน“ครับ ไม่เถียงครับ เร็วๆนี้ก็จะมีโปรเจกต์งานกับช่อง 7HD ครับ ของสวนหลังบ้าน เรคคอร์ด แต่ยังพูดไม่ได้ โปรดติดตามนะครับ” อัปเดตเรื่องความรัก สถานะตอนนี้หัวใจ“หัวใจสีชมพูครับ เป็นความรักที่ดีเขาเป็นคนนอกวงการ”อะไรทำให้ถูกใจแล้วสานต่อจนตัดสินใจคบกัน“เวลาเราคุยกับใครเราก็ไม่ทราบหรอกว่าใครเป็นอย่างไร เพราะนิสัยเราก็ไม่ทราบอยู่แล้ว แต่พอเรามาเริ่มศึกษา เริ่มมารู้จักกัน ก็เป็นไปในทางที่ดี เป็นผลบวก ทั้งเราทั้งเขาก็เดินหน้าความสัมพันธ์กันต่อไป คบกันเขาจะเป็นฝ่ายซัพพอร์ตได้ดี ทั้งเรื่องงานและเรื่องอะไรต่างๆ เขาเป็นคนใจเย็นครับ”ต้องปรับจูนอะไรไหม“ไม่มีนะ เขาก็ให้เราเป็นเราเนี่ยแหละครับ เขาจะช่วยเตือนเรื่องงาน เรื่องอะไรแบบทำนั่นหรือยัง ทำนี่หรือยัง”ยังไม่ลงรูปคู่ในโซเชียลเท่าไหร่“ครับ ค่อยๆ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นอินเลิฟแมน จริงๆ เขาเป็นคนขี้อายด้วยครับ”ที่ทาเล็บเขาแซวโหนไหม“เขาพาไปทำด้วยครับ”ซัพพอร์ตกันขนาดนี้ เริ่มมองอนาคตยัง“แน่นอนครับ ถ้าความรักของเราทั้งคู่เห็นตรงกัน ความสัมพันธ์ดีเยี่ยมไปเรื่อยๆ จะต้องมีแนวคิดแบบนั้นแน่นอนครับ”คบกันทำให้เราใจเย็นมากขึ้นไหม“ผมเข้าใจมากขึ้น คือเด็กๆเราก็จะคิดแบบหนึ่ง โตมาเราก็จะคิดอีกแบบหนึ่ง นิ่งขึ้นเรื่องงานด้วย หลายๆอย่างคือเราไม่สามารถกำหนดอะไรได้เลยชีวิตเรา”อายุต่างกันเยอะไหม“ประมาณหนึ่งครับ”โหนถือว่าเป็นสายคลั่งรักด้วยไหม“ก็ทั่วไปนะครับ คนชอบกัน จีบกัน เป็นเพื่อนกัน หวานๆอะไรแบบนั้น”ถึงขั้นใส่เสื้อคู่“ไม่มีครับ แต่ถ้าแต่งตัวคล้ายๆกันอาจจะมีบ้างตามสไตล์ครับ”โทร.คุยก่อนนอนทุกคืนมั้ย“อันนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วครับ”.เรื่อง: วรรณีห่อวโนทยานอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม