ออร่าว่าที่เจ้าสาวจับ สำหรับ พระพาย-รมิดา ธีรพัฒน์ นางเอกหน้าหวาน จากละครเรื่อง “ภูเขาเงาพยัคฆ์” ทางช่อง 7HD ยอมรับตื่นเต้นได้เล่นบู๊ครั้งแรก ประกบคู่ ภูมิ เกียรติภูมิ พระเอกรุ่นน้อง โชคดีต่างคนต่างไม่มีกำแพงทำให้ทำงานง่ายขึ้น พร้อมเล่าโมเมนต์ หนุน-ชนน์ชนก ชิดชอบ ทายาทคนรองของ เนวิน ชิดชอบ ทำเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน หลังคบหาดูใจมายาวนานถึง 6 ปี ใน “คนดังนั่งคุย”ความบู๊ความห้าวในเรื่องนี้ขนาดไหน“พอตัวค่ะ ไม่ได้ห้าวจนน่ารำคาญ ยังมีความเป็นผู้หญิงอยู่ แค่เราถูกเลี้ยงมาจากพ่อคนเดียว ทำให้คาแรกเตอร์นี้เข้มแข็ง ไม่หวานมาก”บู๊เยอะที่สุดเท่าที่เคยเล่นมา“ใช่ค่ะ ค่ายพี่เวอร์ (โอลิเวอร์ บีเวอร์) บู๊หนักสุดๆ”โดนรับน้องยังไงบ้าง“จำได้เลยว่าถ่ายฉากวันแรกไม่ได้บู๊หรอกเป็นอารมณ์ดราม่า วิ่งหนีพ่อออกมาร้องไห้คนเดียว เรายังไม่อิน ยังไม่เข้าใจตัวละครขนาดนั้น พี่บุ๋ม-ปกาศิต ผกก. ก็บรีฟเรา มันเป็นแบบนี้นะ เราก็คิดถาม วิ่งออกมาร้องไห้ปาโน้นปานี่เป็นอะไรที่ท้าทาย”ร่วมงานกับน้องๆ ทั้งนั้นเลย กับภูมิล่ะ“เป็นเรื่องแรกที่เล่นกับภูมิ ตัวน้องเป็นคนน่ารักอยู่แล้ว”ทางภูมิเค้าเล่าว่าขอไม่เรียกพระพาย ว่าพี่ได้มั้ย“ใช่ค่ะ คือเขาอยากได้ความเป็นกันเองก็บอกเค้าว่าไม่ต้องเรียกพี่ก็ได้ ไม่ได้อยากแก่ (ยิ้ม) ไม่ได้อยากให้เรียกพี่อะไรประมาณนั้น แล้วแต่เลย ถ้าเรียกพี่ก็อาจจะดูห่างเหินเกินไป น้องก็เป็นคนน่ารักดี”มีการทำลายกำแพงกันยังไง“อาจจะดูไม่มีกำแพงเพราะกำแพงมันบางมากๆ เราต้องปรับตัว วางตัวยังไงให้อีกคนไม่เกร็ง มีการพูดคุย มีการฟิตติ้ง เราเฮฮากันก่อน พอถ่ายจริงเราจะได้รู้จังหวะกันในระดับนึง ภูมิจะรู้ว่าจังหวะไหนที่พายเริ่มงอแงแล้ว ไม่ไหวแล้วเค้าจะ เห้ย! พาย สู้หน่อย เขาจะมาบิลต์ให้เราสู้ พูดตรงๆโลเกชันคือร้อนมาก อาจจะมีบ่นบ้างนิดๆ หน่อยๆ แต่ว่าภูมิเค้าจะบอกเอาหน่า พี่สู้ๆ”กับฉากมุ้งมิ้งเลิฟซีนหวานๆ กับภูมิล่ะมีเขินกันบ้างมั้ย“เลิฟซีนเรื่องนี้ไม่ได้หวือหวา จะแนวน่ารักๆ เล่นด้วยความสบายใจ ไม่ได้ร้อนแรง อินเนอร์ไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น พายสบายใจที่จะเล่นแบบนี้ก็เลยไม่ได้เคอะเขินอะไรขนาดนั้น น้องเองก็มีความเป็นมืออาชีพ” ทางพี่หนุนมีแวะเวียนมาให้กำลังใจที่กองบ้างมั้ย“ไม่ได้ให้เค้ามาเพราะถ้าพี่เค้ามาเราก็จะต้องเป็นห่วงเค้าอีก กองมันร้อนเค้าจะอยู่ได้มั้ย จะทนได้มั้ย แต่เขาก็เคยมารับเฉยๆ ไม่ได้มาเฝ้าอะไร”มีอัปเดตมั้ยวันนี้ถ่ายฉากนั่นฉากนี่นะ“ไม่ค่ะ จะแค่บอกวันนี้ทำงานถ่ายละคร ถ้ามีเลิฟซีนก็จะบอก เขาก็โอเคๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไรเขาแค่ไม่ชอบดูเฉยๆ ละครเค้าก็ดูนะแค่เลิฟซีนเขาจะไม่ดู เราก็ไม่อยากให้ดูเพราะถ้าดูแล้วเค้าอารมณ์ไม่ดี (หัวเราะ)”เห็นบอกว่าตอนนี้พระพายเริ่มทำธุรกิจ“เป็นการเตรียมงานเฉยๆ และไปเรียนเพิ่มเติมในสิ่งที่เรายังไม่เคยทำ เกี่ยวกับด้านมาร์เกตติ้ง อยู่ในขั้นตอนการเรียนรู้อยู่ และยุ่งมากๆพอสมควร”กับงานในวงการบันเทิงล่ะ“ตอนนี้ยังไม่มีละครเข้ามา (ยิ้ม) ก็เลยมีเวลาที่จะไปเรียนรู้อะไรใหม่ๆ แค่ก็ไม่ได้อยากทิ้งงานวงการบันเทิง เพียงแค่โอกาสมันยังไม่มาเราก็ต้องหาอย่างอื่นที่มาต่อยอดอะไรให้กับตัวเองไม่ใช่จะรอแต่โอกาสอย่างเดียว ถ้ายังมีงานเข้ามาพายก็ยังทำไปเรื่อยๆ”โมเมนต์ถูกแฟนขอแต่งงานตัวเองตกใจมั้ย“ตกใจเหมือนกันค่ะ ไม่ได้คิดว่าเค้าจะมาขอเหมือนกัน ไม่ได้มีการคุยกันก่อนหน้านี้” ไม่มีเซ้นส์หรือจับโป๊ะได้ก่อนเหรอ“ไม่มีค่ะ ปกติพายจับได้ตลอดแต่รอบนี้ไม่ได้เลยเนียนมากจริงๆ พูดตรงๆ ถ้ารู้เค้าจะมาขอแต่งงานพายคงแต่งตัวดีกว่านี้ วันนั้นไม่ได้แต่งตัวอะไรเลย ไปแบบผมไม่ได้สระผม หัวมันมาก รองเท้าแตะ กางเกงยีนส์ แต่ก็ดีนะคะเพราะมันดูเป็นธรรมชาติดีค่ะ หน้าแต่งเบาๆ เลยลงรูปเล็กๆ ไป”วันนั้นเขาใช้มุกหลอกเรายังไงบ้าง“เขาบอกว่าเขาจะจัดงานคอนเสิร์ตปีใหม่ตรงนี้ อยากเข้าไปที่สถานที่ลองเทสต์เสียงดู เราไม่ได้เอะใจ เพราะปกติเขาก็จัดตรงนั้นจริงๆ ทุกปี เลยเดินเข้าไปตอน 4 ทุ่มกว่าๆ เขาก็ค่อยๆเทสต์ไมค์ อยู่ดีๆก็เพลงขึ้นตามที่เห็นเลย จนพี่หนุนยื่นไมค์มาอันนั้นเริ่มเอ๊ะ ปกติพี่หนุนจะไม่ได้เป็นคนมาเทสต์เสียงอะไรแบบนี้”จริงๆ ตัวเราพร้อมอยู่แล้วหรือไม่“เอาตามจริง ใจนึงก็พร้อม ใจนึงยังไม่พร้อม ใจนึงก็คิดว่าตัวเองยังเด็กอยู่ ยังมีหลายอย่างที่อยากทำมากๆ ด้วยความที่เขาขอแต่งงานแล้วเนอะและเราก็คบกันมาในระดับนึงแล้ว เป็นระยะเวลานานแล้วก็มั่นใจเลยเซย์เยสไปค่ะ”ได้ถามพี่หนุนมั้ยอะไรที่ทำให้เขาตัดสินใจขอเราแต่งงานแล้ว“เคยถามนะคะ เขาตอบแบบเดิมว่ามั่นใจในตัวหนูนี่แหละ เขาบอกไม่ได้มองหาใครแล้วมีแค่หนูค่ะ เขินเนอะที่จะต้องพูดอะไรแบบนี้เอง ควรจะเป็นเค้าพูดมั้ย (ทำหน้าเขิน) แค่รู้สึกพี่เค้ามีความเสมอต้นเสมอปลายค่ะ”หลังจากนี้มีแพลนอะไรแล้วบ้าง“ยังไม่มีแพลนอะไรเลยค่ะ ยังงงอยู่ทำไมขอตอนนี้เพราะยังไม่ได้มีการคุยกันเลยแต่งตอนไหน ยังไม่ได้คุยเลยค่ะ” เรามองภาพแต่งงานธีมยังไง“ยังไม่มีเลยค่ะ คู่ของเราจะเป็นคนชิลๆ สบายๆ มากเลยค่ะไม่ได้หวือหวาอยู่แล้ว”ปกติพี่หนุนเซอร์ไพรส์เก่งมั้ย“ไม่ใช่คนชอบทำเซอร์ไพรส์อะไรเลยค่ะ จะเป็นความเสมอต้นเสมอปลาย เป็นความสบายใจที่มอบให้กัน และกันมากกว่าค่ะ”หลายคนแอบคิดงานล่วงหน้าแต่งยิ่งใหญ่มากๆ ทายาทคนดัง“อันนี้ไม่ทราบ ในความต้องการของพายอยากจัดงานเน้นสบายๆ ชิลๆ มองลงจากเวทีแล้วรู้จักทุกคน อยากเป็นแบบนั้นมากกว่า”อนาคตแต่งงานไปแล้วกับงานในวงการบันเทิง มีพูดคุยกันมั้ยจะรับงานน้อยลง“มีพูดคุยกันพี่หนุนเองอยากให้เราโฟกัสงานส่วนตัวมากขึ้น งานละครต้องใช้เวลาถ่ายมันก็ต้องมีอะไรหลายๆอย่าง เคยคุยไว้บ้างแต่ก็เคลียร์กันได้ จริงๆยังอยากทำงานตรงนี้อยู่แต่ปัจจัยอะไรหลายๆอย่าง อะไรคือความแน่นอน ความมั่นคง ความชอบส่วนตัวตอนนี้เพิ่งจะเรียนรู้อะไรใหม่ๆหลายอย่างต้องใช้เวลานิดนึง อนาคตของพายก็ยังไม่รู้เหมือนกันจะเอายังไงต่อเชื่อว่าสุดท้ายก็จะมีทางของมัน เหมือนทุกครั้งที่พายเข้ามาอยู่ตรงนี้มีหนทางและโอกาสเข้ามาเอง ทำวันนี้ตรงนี้ให้ดีก่อน ถ้ามีอะไรเข้ามาพร้อมเปิดใจทุกอย่างคุณแม่ก็สอนมาตั้งแต่เด็กว่าให้ลองทำอะไรหลายๆอย่างจะได้รู้ว่าเราชอบ หรือถนัดแบบไหนมากกว่า เราต้องเปิดโอกาสให้กับตัวเอง”คู่เราคบกันมานานขนาดไหน“6 ปีแล้วค่ะ ก็นานมากแล้วค่ะ”จะไม่ค่อยเห็นพายโพสต์ภาพคู่หวานๆเลย เป็นเพราะอะไร“ไม่ได้โพสต์เลยค่ะเพราะเป็นคนคิดเยอะ ถ้ารูปมันออกไปแล้วส่งผลกระทบ ถ้าสมมติวันนึงเราเลิกกันผู้หญิงก็จะมีแต่เสียกับเสียแล้ว คือปกติเรื่องส่วนตัวพายไม่ค่อยโพสต์อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นหน้าที่การงานก็โพสต์ค่ะ”เป็นเพราะเราคบกับทายาทนักการ เมืองคนดัง ทำให้เราถูกโฟกัสเลยต้องระวังตัวไปด้วยหรือเปล่า“ไม่ได้เกี่ยวค่ะแต่มันเกี่ยวกับความคิดของพายเอง คือคบกับใครเราไม่เคยโพสต์เลยเพราะถ้าเราโพสต์ไปมันจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต จะอยู่ในเพจนั้นเพจนี้ ตลอดไปในเน็ต ถ้าต่อไปในอนาคตเราแต่งงานมีสามีมีลูกแล้วเค้ามาเสิร์ชชื่อเรารูปเรากับแฟนเก่า เลยคิดว่าไม่เอาดีกว่ามั้ย แล้วผู้ชายคนใหม่ที่เป็นสามีเราเขาจะรู้สึกยังไง มีพี่ในวงการสอนหนูมา ให้เรามั่นใจก่อนค่อยเปิด พี่หนุนบอกว่าพี่ขอแต่งงานแล้วโพสต์ได้แล้วนะ (หัวเราะ) แต่เค้าก็โพสต์รูปพายอยู่นะแต่ตัวพายเองจะไม่โพสต์รูปเค้าเลย แต่ตอนนี้ก็โพสต์ได้ค่ะเป็นครั้งๆไปมากกว่า” มีภาพในหัวเรื่องงานแต่งในฝัน“จริงๆแค่คิดก็เหนื่อยแล้วค่ะ ไม่ได้คิดจะต้องจัดงานแต่งใหญ่โตอะไร มองลงไปจากเวทีมีแต่คนรู้จัก ในมุมของพายการแต่งงานแค่ให้ผู้ใหญ่รับรู้ คนรอบตัวเรารับรู้ก็พอแล้วไม่จำเป็นจะต้องจัดงานใหญ่โต เน้นอบอุ่นๆดีกว่า ให้เป็นการแต่งเรียบง่ายที่สุดดีกว่า พี่หนุนก็คิดเหมือนกันเค้าก็ยกหน้าที่ให้หนูจัดการเลย แต่พูดตรงๆ คงตามใจผู้ใหญ่ให้ท่านมีความสุขดีกว่า คงจัดงานวันเดียว หมั้นเช้าแต่งเย็นให้จบในวันเดียวกันไปค่ะ”.เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยานอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่