ทั้งตื่นเต้นและดีใจที่ได้โอกาสใหม่ เปา–กิ่งกาญจน์ ส่องสว่าง นักร้องสวยแซ่บ เจ้าของเพลงดัง “มงลง” ประเดิมงานแสดงครั้งแรก กับภาพยนตร์เรื่อง “รักได้แรงอก” ค่าย M39 ร่วมกับไผ่ร้อยกอโปรดักชั่น เจอบทหนัก จัดเต็ม จนถึงขั้นเสียน้ำตา แต่หลังจากภาพยนตร์เข้าโรงฉาย ปรากฏว่ากระแสตอบรับจากทางภาคใต้มาเต็มคาราเบล! แต่ถึงเป็นหนังใต้แต่มีซับภาษาภาคกลางให้คอหนังได้อุ่นใจ กว่าชีวิตจะมาถึงจุดนี้ได้ สาวเปายอมรับไม่ได้ง่ายเลย!โดยเริ่มจาก ได้เป็นนางเอกหนังแล้วรู้สึกยังไงบ้าง เปาเผยว่า “เป็นเรื่องแรกที่เป็นนางเอกหนัง ดีใจและตื่นเต้นมาก ตอนแรกไม่กล้า ไม่มีความมั่นใจเลยว่าจะทำได้หรือเปล่า ณ ตอนนั้นคิดกลับกัน พอเราได้ไปเรียนไปฝึกการแสดง ได้ทำลายกำแพงความกลัว เออ เราสามารถทำได้ เลยดีใจที่ทำได้กลายเป็นชอบการแสดงไปเลย”บทในเรื่องนี้ได้ทำหลายอย่างมาก มีอะไรที่ไม่ชอบแต่ต้องทำ “ว่ายน้ำค่ะ เพราะเปาว่ายน้ำไม่เป็นเลย มีประสบการณ์จมน้ำมาตั้งแต่ เด็กๆ เลยกลัวน้ำมาก แต่ในเรื่องนี้มีฉากใต้น้ำ เราจมน้ำ ถ่ายทะเล แต่ตอนถ่ายต้องถ่ายในสระแต่ลึกมาก มีจมจริงๆ พี่เค้าช่วยพยุงขึ้นมา ตอนนั้นร้องไห้เลย กลัวจริงๆ แต่ก็ผ่านได้ด้วยดี ตอนนี้เราได้เปิดใจ เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ดำน้ำได้แต่ว่ายน้ำยังไม่ได้แต่ชอบแล้ว เริ่มไม่ได้ปิดกั้นตัวเองเหมือนเมื่อก่อน”แสดงว่าตอนนี้ไปทะเลก็ชิลแล้ว “เป็นคนชอบไปทะเลมากแต่ไม่ชอบลงน้ำ อยู่แค่กองทราย ชุดว่ายน้ำมี อุปกรณ์ครบแต่ไม่ลงน้ำเลย (หัวเราะ)”ไม่ชอบลงน้ำแล้วซื้อชุดว่ายน้ำสะสมเยอะแยะ “ชอบไปทะเลค่ะ (หัวเราะ) ตอนนี้ได้เอามาใช้แน่นอน”พอได้แสดงกับร้องเพลงแตกต่างกันยังไงบ้าง “นักร้องสำหรับเปา มันง่ายมากเลย มาเป็นนักแสดงฉีกอีกบท ต้องมีวินัย” ทุกคนเรียกเราว่านางเอก ดีใจขนาดไหน “รู้สึกดีใจ มีบ้างค่ะ มีคำบูลลี่ เป็นนางเอกได้ยังไง น้อยใจนิดนึงแต่จริงๆคิดว่าอยากให้ทุกคนเปิดใจลองดูหนังเรื่องนี้ก่อน อาจให้เห็นเราหลายๆมุมของเปาไม่ใช่แค่ที่เป็นข่าว”เปาทำไรเจอกระแสดราม่า “ก็น้อยใจบ้าง มีข่าวลบๆ แต่ตอนนั้นเรายังเด็ก เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่เป็นไรตอนนี้เราโตแล้วปรับปรุงตัวใหม่ก็อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้ อยากทำผลงานให้ดีที่สุด”ตอนนั้นคอมเมนต์แรงๆที่ทำให้เราถึงขั้นสะอื้นเลย “จะเป็นด่าพ่อล่อแม่ อ่านแล้วไม่โอเคเท่าไหร่ ด่าสิ่งที่เราทำเปาเข้าใจแต่พอไปพาดพิงพ่อแม่ เค้าไม่รู้เรื่องอะไรเลย”ก้าวข้ามคำด่า ดราม่า คำบูลลี่ต่างๆ จนวันนี้เปา ดูสตรองมาก “จริงๆแล้วที่วันนี้แข็งแรงได้เพราะครอบครัวเลย เป็นแรงผลักดันมาถึงวันนี้ พ่อแม่จะสอนตลอดจงมั่นใจและเชื่อมั่นในตัวเอง ทำงานที่เรารักของเราต่อไป ทุกคนผิดพลาดกันได้ ไม่มี คำว่าสายเกินไป”ลุคเปาคนภายนอกไม่รู้จักจะมองเป็นคนแรงๆ รู้สึกยังไงบ้าง “จริงๆแล้วทุกคนมีตัวตนของตัวเอง แล้วแต่เราจะใช้กับใครยังไง ตอนนี้เปาคิดว่าเปาหาตัวเองเจอแล้ว จริงๆไม่ใช่คนแรงแค่อาจจะมีคำพูดบางคำ ส่วนหนึ่งเพราะเป็นคนใต้ เวลาพูดอะไรจะเป็นคนตรงๆนิดนึง พอเริ่มโตขึ้นจะเข้าใจ ไม่ต้องตรงไปขนาดนั้นก็ได้ ดูอ่อนโยนละมุนขึ้น ทุกๆอย่างมันมาเอง มาตามกาลเวลาของมันเมื่อเราพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น”อัปเดตความรักสถานะหัวใจกันนิดนึงเป็นยังไงบ้าง “คุยกับคนเดิมมา 4 ปีกว่าแล้วค่ะ คุยอยู่เรื่อยๆ”อะไรที่ทำให้คบกันได้นานขนาดนี้ “จริงๆแล้ว พูดง่ายๆเลยเราลำบากมาด้วยกัน จับมือก้าวผ่านมาด้วยกัน”ยิ่งคบกันนานความหวานขึ้นบ้างมั้ย “เป็นเพราะความเข้าใจมากกว่า มีบ้างที่มีน้อยใจกัน ทะเลาะกัน เราทำงานตรงนี้ หนูไม่ได้เปิดหรือปิด ก็ช่วยกัน คนที่รักเราจริงๆ ส่วนใหญ่รู้ว่าเราคุยกับใคร”คบกันนานขนาดนี้ ถามจริงๆ ทะเลาะกันบ่อยมั้ย “ไม่บ่อยส่วนใหญ่เขาเข้าใจ จะคอยซัพพอร์ตกันมากกว่า”เริ่มมองอนาคตคุยๆเรื่องแต่งงานกันบ้างมั้ย “หนูยังไม่รีบเลยค่ะ ยังอยากทำงาน อีกสัก 5-6 ปี ตอนนี้เพิ่งอายุ 23 เอง ไม่รีบค่ะ”ความหวานความโรแมนติกล่ะเพิ่มขึ้นมั้ย “ก็ยังเหมือนเดิมทุกวันค่ะ วันแรกเป็นยังไง วันนี้ก็ยังเหมือนเดิม”กับแพลนแต่งงานที่วางไว้ไกลอีก 5–6 ปี คิดว่านานไปมั้ย “ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตเพราะตัวหนูไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจเหมือนกัน แต่อยู่ด้วยกันแบบนี้จะทำตรงนี้ให้มันดีที่สุด ตอนนี้อยากทำงานมากกว่า ถ้าเราตั้งใจจะแต่งงานจริงๆต้องมีอะไรครบแล้ว บ้าน รถ มีเงิน มีอะไรให้ลูกเหมือน ถ้าหนูจะแต่งงานอีก 1 ปีหนูจะมีลูกเลย คือจะได้ทันใช้ก็ต้องคิดวางแผนชีวิตดีๆไม่ได้ตั้งเป้าต้องมีร้อยล้าน ช่วงนี้จะเป็นช่วงสร้างเนื้อสร้างตัวมากกว่า”.