งานหลากหลายทั้งการแสดงและรายการช่อง ยูทูบ เลยได้เห็นมุมหลากหลายของหนุ่ม “แบงค์–ธิติ มหาโยธารักษ์” ล่าสุดรับบทเจ้าชายยุคใหม่ซีรีส์วัยทีน “My Sassy Princess เจ้าหญิง 2022” ทางช่องวัน 31 ฉีกทุกกฎความเป็นเจ้าหญิงในเทพ นิยายที่ทุกคนเคยรู้จัก ประกบสาว เอินเอิน–ฟาติมา ในตอน “ซินเดอเรลล่า” เลยมาอัปเดตพร้อมเผยความรักกับหวานใจ “พิมฐา–ฐานิดา” ที่ ยิ่งมาทำคอนเทนต์ด้วยกันในยูทูบยิ่งทำให้รู้จักรู้ใจมากขึ้น แบงค์ เล่าว่า “My Sassy Princess เป็นเรื่องราวเจ้าหญิง 2022 เอาคอนเซปต์ ของเจ้าหญิงในนิยายมีปรับใหม่ 3 เรื่อง เน้นเรื่อง Girl Power ผู้หญิงยุคนี้ยืนหยัดด้วยตัวเอง ไม่ต้องรอแต่เจ้าชาย อย่างซินเดอเรลล่า เป็นผู้หญิงที่ไม่ได้รอให้เจ้าชายมาสวมรองเท้าให้ ตัวผมเจ้าชายยุค 2022 จะมีภาระหน้าที่ ทำธุรกิจหมื่นล้านรอรับตำแหน่ง CEO ต้องมีบทพิสูจน์ตัวเอง” ความยากล่ะ? “คือ ต้องฝึกเปย์เงินสาวครับ (หัวเราะ) ใช้เงินในการแก้ปัญหา ผมค่อนข้างทำตัวไม่ค่อยถูกเวลาซื้อของแพงๆ ให้สาวๆ พอเราเจอในบทก็แอบตกใจนะว่าขนาดนี้เลยเหรอ ก็ต้องหาเรฟเฟอเรนซ์ ถามเพื่อนๆที่ชอบเปย์ ท่าทางเป็นยังไงตอนจับบัตรเครดิตมารูด ต้องติดตามว่าสุดท้ายเงินคือความสุขของทุกคนจริงรึเปล่า เมื่อต้องแลกกับคำว่าความฝัน”ร่วมงานกับน้องเอินเอิน ใครๆก็แซวว่าเป็นป๋าดัน? “สนุกดีครับ น้องตั้งใจในการทำงานมากๆไม่ต้องคอยมาปรับจูนมาก เพราะเค้าเตรียมตัวมาเป็นคาแรกเตอร์ซินได้อย่างดี”แนะนำอะไรน้องมั้ย? “ส่วนมากผมจะช่วยอ้อมๆ ทำตัวไร้สาระทำให้น้องไม่กดดันเวลาอยู่ในกอง เราเคยผ่านมาแล้วว่าถ้าเรายิ่งเครียดเราจะแสดงไม่ได้”ช่วงหลังเรายิ่งมาทำยูทูบคนได้เห็นเราในอีกมุม? “เป็นความตั้งใจอีกอย่างนึงด้วย ก่อนหน้านี้อาจจะมีช่วงที่หายจากจอไปบ้าง ถ้าเรามีสื่อของเราที่ทำให้เห็นตัวตนของแบงค์ก็คงจะดี ว่าแบงค์เวลาอยู่บ้านมันเป็นยังไง ทำให้แฟนๆที่ติดตามเราได้เห็นเราบ่อยขึ้นด้วยเข้าถึงเราได้ง่ายขึ้น”ตอนนี้ทำช่องคู่กับพิมฐา? “ใช่ครับ สนุกดีแอบเซอร์ไพรส์เหมือนกันที่มีคนดูเยอะ ตอนแรกเราไม่ได้คิดนะว่าจะมีคนดูเป็นแสน”ทีมงานใหญ่มั้ย? “มีผมกับพิมสองคนนี่ล่ะครับ มีกล้องฟิล์ม กล้อง ใช้ถ่ายก็เก่า อยากให้รายการออกมาเป็นแนวเฟรนด์ลี่เข้าถึงง่าย พอเราทำงานกัน 2 คนมันจัดการอะไรได้ง่ายกว่า” เป็นคู่ที่เหมือนเพื่อนกันมากแต่บางทีก็หวานมาก? “(หัวเราะ) มันก็หลากหลายรสชาติเป็นเหมือนเพื่อน เหมือนพาร์ตเนอร์มากกว่า”บางทีเรียกแกๆ เคยลืมว่าเราคุยกันเป็นคนพิเศษมั้ย? “ไม่นะครับ มันเป็นความสบายใจ สรรพนามที่เรา เรียกกันมันเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้วด้วย ไม่ได้เปลี่ยนอะไร”แพลนคอนเทนต์ต่างๆยังไง? “เราก็มานั่งคุยกันว่าอยากทำอะไร อะไรที่เราทำแล้วสนุก เรารู้สึกว่าอยากทำอะไรที่ไม่เครียด เราสนุก อยากทำและเป็นตัวเรา เป็นแนวไลฟ์สไตล์”มีเถียงกันเวลาออกความเห็นมั้ย? “ไม่ครับ เวลาไปไหนก็ช่วยๆกัน ในการวางแผนจะเป็นพิม ผมอาจจะช่วยขับรถ ดูแมพ เค้าก็จะคอยหาสถานที่แปลกๆสวยๆ เค้าหาข้อมูลเก่ง ผมก็พาไป”ทำงานด้วยกันยิ่งทำให้เห็นอะไรในตัวเค้ามากขึ้นมั้ย? “ก็เป็นอีกสเต็ปทำให้เห็นว่าเราทำงานด้วยกันได้รึเปล่า จะช่วยกันแก้ปัญหายังไง เป็นอีกเวย์ที่ดีที่ได้ศึกษากัน ขนาดคนเป็นพี่น้องกันยังทะเลาะกันได้ แล้วเราสองคนมาจากคนละครอบครัว มาอยู่ด้วยกันมีอะไรก็ต้องปรับจูน”ใครยอมใครมากกว่า? “ผมก็ไม่เชิงยอมขนาดนั้นแต่ตอนนี้มันไม่ได้มีปัญหาอะไร เราสองคนเป็นคนเปิดทั้งคู่เลยรู้สึกว่ามีอะไรยิ่งคุยกันยิ่งดี”มีมุมไหนมั้ยที่ไม่คิดว่าเค้าจะเป็นคนแบบนี้? “ผมว่าจริงๆคนน่าจะรับรู้ได้ว่าเค้าเป็นคนที่ชอบดูแล คอยเทกแคร์คนอื่น เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆในความสัมพันธ์และในการเดินทาง ซึ่งเราก็ประทับใจตรงนั้น”มีแต่คนแซวว่าคู่เราคลั่งรัก? “ไม่คลั่งๆ มีแต่คนแซว ผมไม่ได้เป็นคนมีเซอร์ไพรส์อะไรสวีตหวาน แต่มันเป็นอะไรที่เราอยากทำโดยที่เราไม่ได้คิดว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่คนมองแล้วมันจะหวาน เช่น การเซอร์ไพรส์ใต้น้ำ ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันหวานแต่คิดว่าเรามีไอเดียว่ามันน่าจะดีนะ ไม่ค่อยเห็นมีใครทำ ทำแล้วเค้าก็ตลกดี ฮาๆ แต่ก็ประทับใจ”.เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ