จะมีสักกี่เพลงกันหนอในชีวิตนี้ที่เมื่อเราได้ (กลับมา) ฟังอีกครั้ง เมื่อวันเวลาได้ล่วงผ่านเลยไปเกือบครึ่งทศวรรษ แล้วบอกตัวเองอย่างชื่นล้ำในหัวใจสุดประมาณทำไมเขา-เธอช่างนำกลับมาร้อง (ใหม่) อีกครั้งในวันนี้ ได้ล้ำเลิศประเสริฐชีวิตเหลือเกิน ไพเราะปวดร้าวเศร้าล้ำ ช่างเป็นบุญที่ได้ฟังจริงๆหาได้ยากยิ่งและหาแทบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ กับปรากฏการณ์อัศจรรย์ดังว่านี้ ทว่ามันได้เกิดขึ้นจริงแล้วกับการร้องเพลงร้องชีวิตของผู้หญิงคนนี้ “หมิว ชนิตา แดงสำราญ” กับเพลง “ตะแลงแกงแทงใจ”แทงลึกลงไปเพียงใด-เท่าไหร่ ก็ไม่ระคายผิวหัวใจกรรมการ หมิวจึงคว้าชัยนักสู้ 3 ฤดูกาล มาได้เพียงรองชนะเลิศอันดับ 2 ในโกลเด้น ซอง ซีซัน 3 ที่เพิ่งจบลงไป“ตะแลงแกงแทงใจ” งานเขียนเพลงอมตะคลาสสิกสุดล้ำของ “หมอวราห์ วรเวช” ที่เขียนให้นักร้องรางวัลเสาอากาศทองคำ 3 ปีซ้อน “ศรวณี โพธิเทศ” ร้องกรีดกระหน่ำ แทงใจกระเจิง เมื่อกว่า 45 ปีที่ผ่านมาหมิว ชนิตา ในชุดเจ้าสาวสีดำ กับดอกไม้ช่อบูเก้ 1 ช่องาม พร้อมแหวนสวมนิ้วนาง 1 วง กรีดชีวิตร้องเพลงสุดท้ายของเธอบนเวทีนั้นได้อย่างกระชากวิญญาณเป็นการร้องเพลงที่ดีที่สุดในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งสูงค่ากว่าทุกรางวัลใดๆ ที่เธอควรได้รับ สูงค่ากว่าทุกการตัดสินใดๆที่มีนับวันเวลาจากนี้ไป ชีวิตของเธอจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ไฟชีวิตและโชคชะตาจะสาดโชนโหนกล้า มาส่องสาดฟาดฟุ้งดวงชีวิตเธอให้ก้าวแกร่งเกริกไกรไม่ต้องมีรางวัลนามสกุลของสถาบันใดๆ มาหาญกล้าประทับตราการันตีให้มากความ เพราะเธอประทับตราประทับมั่นแม่นแน่นหนักแล้ว ในดวงใจของผองชนนับไปอีกสิบๆทศวรรษ ก็ยากยิ่งจะหาใครมาร้องได้อย่างเธอ–มาแทนที่เธอ เป็น “ชนิตากล้าหาญ-แดงสำราญดวงงาม” ตลอดกาลทุกวารกาลสมัย...ชั่วอายุขัยแห่งเธอ...นิรันดร์.“ดร.ศาสตร์ธนิก จุลมณี”‘‘แจ๋วริมจอ’’jaewrimjor@gmail.com