“ทำนา 25 ไร่ มาตั้งแต่เป็นวัยรุ่นร่วม 20 ปี ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้น เพราะต้องรอฝนทำได้ปีละครั้ง ช่วงมีรับจำนำข้าว เห็นราคาดี ลงทุนซื้อปั๊มสูบน้ำบาดาลมาทำนา ได้สักพักเจ๊ง ค่าน้ำมันไม่คุ้มทุน แต่พอเปลี่ยนมาขุดบ่อ 1 ไร่ ทดลองเลี้ยงปลาช่อนแทน กำไรเห็นๆ ปีเดียวได้หยิบเงินแสน เลยขยายพื้นที่มาเรื่อยๆ จนเต็ม 5 ไร่ ทำเป็นฟาร์มเพาะเลี้ยงปลาช่อนแบบครบวงจร ทั้งเพาะเอง เลี้ยงเอง แปรรูปขายเอง” อนุชา บุญสินชัย หรือ “โดโด้” เกษตรกรวัย 35 ปี ผู้ผันชีวิตมาเลี้ยงปลาช่อนในนาข้าว ม.6 ต.สลกบาตร อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร บอกว่า เลี้ยงปลาช่อนรายได้ดี เพราะคนเลี้ยงกันน้อย เลี้ยงยาก และเลี้ยงไม่ค่อยเป็นกันแต่จะเลี้ยงให้ประสบความสำเร็จ โดโด้ แนะว่า สิ่งแรกที่ควรรู้บ่อเลี้ยงจะต้องขุดลึกอย่างน้อย 3 เมตร และเสริมคันดินยกปากบ่อให้สูงขึ้นอีก 2 เมตร เพื่อป้องกันปลาช่อนกระโดดออกมา แล้วเถลือกตัวไปหาแหล่งน้ำใหม่ เนื้อที่ 1 ไร่ บริเวณใจกลางพื้นที่ ขุดเป็นบ่อเลี้ยงแค่ 2 งานกว่า เพื่อจะได้มีพื้นที่เหลือให้เสริมคันบ่อได้ จะเลี้ยงลูกปลาช่อนขนาด 2-3 นิ้ว ได้ประมาณ 10,000-15,000 ตัวให้อาหารเม็ดวันละ 2 มื้อ ในช่วงเช้ากับเย็น เพราะตอนกลางวันอากาศร้อนปลาไม่ขึ้นมากินอาหาร บางครั้งอาจให้อาหารเสริมเป็นของสด เช่น ไก่บด ปลาเป็ดบดผสมรำข้าว เพื่อเพิ่มโปรตีน แต่ไม่ควรบ่อย เพราะอาจทำให้เกิดน้ำเน่าเสียได้...ยิ่งบ่ออยู่ไกลจากแหล่งน้ำ ไม่สามารถถ่ายน้ำเข้าออกได้ทัน ไม่ควรให้อาหารสดเลย ข้อสำคัญต้องรู้ว่า ถ้าให้อาหารไม่เพียงพอ ลูกปลาได้อาหารไม่เท่ากัน จะเกิดการแตกไซส์ มีขนาดโตไม่เท่ากัน ตัวใหญ่จะกินตัวเล็ก ฉะนั้นควรให้อาหารอย่างเพียงพอ...สังเกตได้จากหมั่นช้อนลูกปลาช่อนขึ้นมาดูขนาดว่ามีการแตกไซส์มากแค่ไหน ถ้ามีขนาดต่างกันมากควรให้อาหารเพิ่มที่สำคัญบ่อควรใช้ตาข่ายแดงคลุมบ่อเพื่อกันนกมาจิกกินลูกปลา...นี่แหละปัญหาใหญ่เลี้ยงไปได้ 3-4 เดือน สามารถขายเป็นปลาเค็มตากแห้ง ขนาดตัวละ 3-4 ขีด ได้ราคา กก.ละ 70-80 บาท เมื่อถึง 5-6 เดือน ขายเป็นปลาขนาดกลางตัวละ 5-6 ขีด ราคา กก.ละ 80-90 บาท เลี้ยงจนเป็นปลาโบ้ ขนาดใหญ่ตัวละ 8-9 ขีดขึ้นไป จะได้ราคาหน้าบ่ออยู่ที่ กก.ละ 105 บาท เมื่อคิดคำนวณค่าใช้จ่ายการเลี้ยงปลาช่อน 1 บ่อ 1 ไร่ ปล่อยปลา 1-1.2 หมื่นตัว โดโด้ บอกว่า มีต้นทุนค่าพันธุ์ปลา 1-1.2 หมื่นบาท ค่าอาหารไม่เกิน 60,000 บาท จะได้ปลาโบ้ประมาณ 1,000 กก. ขายได้ 105,000 บาท ยังเหลือกำไร 50,000 บาท...นี่ยังไม่นับรายได้จากการขายปลาเค็มตากแห้ง ปลาขนาดกลางอีกประมาณ 40,000 บาท และขายลูกพันธุ์ที่เพาะได้เองตัวละ 1 บาท ไม่รู้กี่แสนตัวอีกต่างหาก เปรียบเทียบกับปลูกข้าวที่ผ่านมา หักลบต้นทุนแล้วเคยได้กำไรสูงสุดไม่เกินไร่ละ 4,000 บาท...รายได้ต่างกันหลายสิบเท่าตัว สนใจอยากเอาอย่าง สอบถามได้ที่ 09-2359-4633.ไชยรัตน์ ส้มฉุน