อาชีพทำสวนกล้วยกำลังได้รับความนิยม ในช่วงอากาศร้อน กล้วยอยู่ในระยะติดผล กรมวิชาการเกษตรเตือนให้สังเกตอาการ 3 โรคสำคัญโรคตายพราย ใบด้านนอกจะเหี่ยวเหลือง และลุกลามเหลืองจากขอบใบเข้ากลางใบ ก้านใบหักพับตรงรอยต่อกับลำต้น และทยอยหักพับ ระยะแรกใบยอดยังเขียวตั้งตรง ต่อมาเปลี่ยนเป็นเหลือง ใบทั้งหมดจะเหี่ยวแห้ง หากตัดลำต้นจะพบเนื้อในของกาบใบเน่าเป็นสีน้ำตาล ต้นกล้วยชะงักการเจริญเติบโตและตายในที่สุดหากพบให้ใช้สาร อีไตรไดอะโซล+ควินโตซีน 6%+24% อีซี อัตรา 30 มล.ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ คาร์เบนดาซิม 50% เอสซี อัตรา 30 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ทีบูโคนาโซล 43% เอสซี อัตรา 30 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร ราดบริเวณกอกล้วยหรือโคนต้นที่เป็นโรค...ถ้าอาการรุนแรงใบเหลืองเหี่ยวตายทั้งต้น ให้ขุดออกไปเผาทำลายนอกแปลง จากนั้นโรยปูนขาวหรือโดโลไมท์ปรับสภาพดินให้ทั่วบริเวณหลุม 1-2 กก.ต่อหลุมส่วนการป้องกันควรทำแปลงปลูกให้ระบายน้ำได้ดี ระมัดระวังการให้น้ำ ไม่ให้น้ำไหลผ่านจากต้นเป็นโรคไปสู่ต้นปกติ ถ้าเกษตรกรต้องการปลูกกล้วยในพื้นที่ใหม่ หลีกเลี่ยงการปลูกในพื้นที่เคยมีการระบาดของโรคมาก่อน เลือกใช้หน่อกล้วยคุณภาพจากแหล่งปลอดโรค หรือชุบหน่อพันธุ์กล้วยด้วยสารกำจัดที่กล่าวมาข้างต้นในอัตรา 30 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร รวมถึงควรสลับเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นหมุนเวียน เพื่อตัดวงจรการระบาดของโรคโรคใบจุดเฟโอเซปทอเรีย ใบจะมีจุดเล็กสีน้ำตาลดำ ต่อมาแผลขยายใหญ่ยาวรี หากความชื้นเหมาะสม กลางแผลจะแห้งสีน้ำตาลอ่อนปนเทา ขอบแผลเป็นแถบสีน้ำตาลเข้ม...โรคใบจุดซิกาโตกาสีเหลือง แรกพบใบจะมีจุดเล็กสีเหลือง ต่อมาแผลขีดสีเหลืองจะยาวไปตามเส้นใบขยายใหญ่ ตรงกลางแผลแห้งเป็นสีน้ำตาลปนเทา แผลคล้ายรูปตา มีวงสีเหลืองล้อมรอบ หากอาการรุนแรง ใบจะเหลือง ขอบใบแห้งและฉีกขาด ทำให้กล้วยเจริญเติบโตไม่เต็มที่ การออกปลีและผลไม่ปกติ ผลเล็กและแก่ก่อนกำหนดการกำจัดโรคทั้งสองนี้ ให้ตัดใบที่เป็นโรคไปเผาทำลายนอกแปลง และตัดแต่งใบกล้วยไม่ให้แน่นเกินไป จากนั้นพ่นด้วยสาร คาร์เบนดาซิม 50% เอสซี อัตรา 30 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ โพรคลอราซ 50% ดับเบิลยูพี อัตรา 30 ก. ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ทีบูโคนาโซล 43% เอสซี อัตรา 30 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ไดฟีโนโคนาโซล 25% อีซี อัตรา 30 มล. ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ แมนโคเซบ 80% ดับเบิลยูพี อัตรา 30 ก. ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่วต้นที่เป็นโรค.สะ–เล–เต