อยู่ที่ผลเลือกตั้ง...พรรคไหนหวังจะได้นายกรัฐมนตรีและเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ทางเดียวก็คือชนะเลือกตั้งให้มากที่สุด เพราะไม่ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ “อำนาจ” อยู่ในมือคือจุดชี้ขาดแน่นอนว่าพรรคอันดับ 1 ย่อมได้เปรียบสูงสุด แต่ก็ไม่สามารถการันตีว่าจะเป็นแกนนำรัฐบาลหากไม่สามารถรวมเสียงสนับสนุนได้มากที่สุดพูดง่ายๆ ชนะ สส.แต่ไม่ชนะเสียงข้างมากพรรคที่ 2 อาจจะรวมเสียงได้มากกว่าก็คว้าเก้าอี้นายกรัฐมนตรีไปครองมันเป็นเรื่องของตัวและสำคัญยิ่ง!ประเด็นที่กำลังพูดถึงกันมากก็คือพรรคการเมืองบางพรรคประกาศที่จะไม่ร่วมรัฐบาลกับบางพรรคถึงขั้นจะฟ้องร้องกันเลยทีเดียวเพราะทำให้เสียชื่อเสียงและดิสเครดิตทางการเมืองแต่ประเด็นที่จะเกิดผลตามมาก็คือ ทำให้พรรคการเมืองที่หวังจะเป็นแกนนำรัฐบาลและหวังดึงพรรคอื่นมาร่วมรัฐบาลอย่างสมมติ “ภูมิใจไทย” จะตั้งรัฐบาลหวังจะเอา “กล้าธรรม” มาร่วมบวกกับ “ประชาธิปัตย์” ก็ทำไม่ได้ เพราะพรรคหนึ่งยอมแต่อีกพรรคหนึ่งไม่ยอมเพื่อแก้ไขปัญหานี้จึงต้องได้เสียงมากที่สุดจนสามารถกำหนดเงื่อนไขด้วยตนเองไม่ต้องหวังพึ่งพรรคอื่นมากนักหรือมิฉะนั้นก็ต้องเอาพรรคหนึ่ง ตัดทิ้งอีกพรรคหนึ่งออกไปยิ่งแคบเข้ามาก็ยิ่งถูกบีบให้ตัดสินใจด้านใดด้านหนึ่งอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงอย่างพรรคประชาชนนั้นประกาศชัดเจนแล้วว่าขอให้ได้ 250 เสียงขึ้นไป พร้อมจะตั้งรัฐบาลพรรคเดียวไม่ต้องพึ่งพาใครก็เป็นสิทธิที่จะทำได้หากประชาชนลงคะแนนให้ที่สำคัญก็คือจะทำได้หรือเปล่าเท่านั้น!ด้วยสมการทางการเมืองที่เป็นตัวแปรอย่างนี้ แต่ละพรรคจึงไม่ต้องการให้พรรคหนึ่งพรรคใดได้เสียงห่างกันมากนักเพราะจะมีอำนาจต่อรองเหนือกว่าทุกด้าน1.สามารถตั้งรัฐบาลด้วยตัวเองหรือรวมกับพรรคอื่นที่ตัวเองต้องการ2.สามารถสร้างเสถียรภาพทำให้อยู่นานได้3.เลือกตำแหน่งรัฐมนตรีได้ตามชอบใจความต่างดังที่กล่าวมานั้นทำให้เห็นว่าการบริหารประเทศโดยมีพรรคใหญ่พรรคเดียวจึงมีความได้เปรียบสามารถกำหนดทิศทางได้ทั้งหมดอย่าง “ไทยรักไทย” ที่ “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรีสามารถควบคุมทุกอย่างแบบเบ็ดเสร็จ ไม่มีใครกล้าหือจนประสบความสำเร็จแต่พอมาถึงรุ่นลูก “แพทองธาร ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรีแต่เสียงสนับสนุนของ “เพื่อไทย” ไม่เพียงพอต้องอาศัยพรรคอื่นมาร่วม“ทักษิณ” ก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน!เพราะจะทำอะไรก็มีพรรคอื่นคอยขวางหรือคดคั่นหรือไม่สนับสนุน จะเก่งกาจแค่ไหนก็ไปไม่ได้ ทำให้ “ทักษิณ” ต้องพังไม่เป็นท่า นโยบายที่คิดได้แต่ทำไม่ได้ก็ไม่ใช่ใคร “ภูมิใจไทย” นี่แหละหาก “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นนายกรัฐมนตรี มี “เพื่อไทย” ร่วมรัฐบาลก็ต้องเจอไม่ต่างกัน“ทีมึงกูไม่ว่า ทีข้ามึงอย่าโวย”...ก็เป็นอย่างนี้แหละ...!"สายล่อฟ้า"คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม