4 มาตรการ และ 1 องค์กรใหม่ จากสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อแก้ปัญหาอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ไม่ทราบที่มาในหลายพื้นที่สำคัญของประเทศ ทั้งบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จังหวัด แท่นขุดเจาะน้ำมัน หรือเขตเมืองชั้นใน บริเวณสนามบิน แม้ยังไม่ถึงขั้นวัวหายแล้วล้อมคอก แต่ก็มองได้ว่าเป็นการไล่ตามปัญหาเพราะอันที่จริง 4 มาตรการที่ออกมา ทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดการโดรนในพื้นที่ควบคุม ผ่อนคลายมาตรการให้หน่วยงานจัดหาแอนตี้โดรนที่เป็นยุทธภัณฑ์ได้ หรือเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบการนำเข้า การสื่อสารให้ประชาชนรับทราบว่าการใช้โดรนในพื้นที่เสี่ยง ผิดกฎหมาย มีโทษรุนแรง ทั้งหมดควรต้องทำมาก่อนหน้านี้เพราะตั้งแต่การปะทะกับกัมพูชาตั้งแต่ระลอกแรกช่วงกลางปี ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ก็จะพบว่าโดรนเป็นอีกภัยคุกคามความมั่นคง ประเทศเพื่อนบ้านใช้โดรนเป็นอุปกรณ์ตามยุทธวิธีทางการทหารที่สำคัญ ทั้งการลาดตระเวน สอดส่องเก็บข้อมูลที่ตั้งต่างๆ กระทั่งใช้การติดระเบิดมุ่งทำลายเป้าหมายตามรูปแบบการรบสมัยใหม่ไม่เท่านั้น หน่วยงานในประเทศ ไทยก็ตรวจสอบพบการบินโดรนปริศนาเข้ามาในหลายสถานที่สำคัญที่มีความอ่อนไหวและมีความเสี่ยงสูง แม้กระทั่งที่ตั้งของหน่วยทหาร คลังอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ แต่หลายกรณีที่ผ่านมาก็ยังไม่สามารถระบุข้อมูลที่มาที่ไป หรือจัดการโดรนปริศนานั้นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพมากนักนอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบพบโดรนเถื่อนอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงาน กสทช. สำนักงานการบินพลเรือน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทางหนึ่งต้องถือว่าเพิ่มความเข้มข้นในการป้องกัน ตรวจสอบและจัดการ แต่อีกทางก็มีคำถามถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ผ่านมาปล่อยปละละเลยหรือไม่ ถึงยึดโดรนเถื่อนได้มากเช่นนี้ อย่างไรก็ดี เมื่อวันนี้ทางหน่วยงานต่างๆ ในสมช.ตื่นตัว และร่วมมีมติให้เร่งจัดตั้งองค์กรใหม่ คือ “ศูนย์บริหารจัดการควบคุมต่อต้านอากาศยานไม่มีคนขับแห่งชาติ” ตามที่ สมช.เคยมอบหมายให้กองทัพอากาศเป็นหน่วยงานหลักประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องดีต่อการแก้ปัญหาระยะยาวเนื่องจากหากมีการรวมศูนย์ บูรณาการการทำงานทั้งระบบ ทั้งการวางแผน กำหนดนโยบาย การจัดเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัย การพัฒนาบุคลากร หรือปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับอากาศยานไร้คนขับ ก็จะส่งผลให้การควบคุมดูแลโดรนที่เป็นทั้งอุปกรณ์การบิน และยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม