บทที่ 56 หนังสือ คารมคมปัญญา (สุขภาพใจพิมพ์ ม.ค.2568) ประสิทธิ์ ฉกาจธรรม เรียบเรียงจาก “ปกิณกะสิบเรื่อง” ยุคราชวงศ์ชิง และตั้งชื่อเรื่องว่า สุนัขกับมนุษย์ชายชาวบ้านผู้หนึ่ง แม้ว่าครอบครัวจะยากจน แต่ก็ยังอุตส่าห์เลี้ยงสุนัขไว้หนึ่งตัว แต่ความยากจนทำให้แต่ละวันๆ เขาไม่มีเศษอาหารเหลือพอเลี้ยงดู สุนัขตัวที่นอนนอกบ้านตัวนี้จึงผอมโซตลอดมากลางดึกคืนนั้น บ้านที่อยู่ข้างเคียงไฟไหม้ เปลวไฟลามมาถึงบ้านของชายที่เลี้ยงสุนัข แต่คนทั้งบ้านหลับสนิทไม่รู้เรื่อง แม้สุนัขตัวนั้นจะพยายามเห่าเตือนเท่าไร คนในบ้านก็ไม่ยอมตื่นไฟลุกลามมากขึ้น เจ้าสุนัขผอมโซก็กระโจนเข้าไปในบ้าน ใช้ปากคาบผ้าห่มดึงออกจากตัวคนทุกคน...แล้วก็เปลี่ยนไปเห่าเสียงดังข้างหูชายผู้เป็นเจ้าของถึงขั้นนั้น เจ้าของบ้านจึงตื่น เขาลุกขึ้นตาลีตาเหลือก พาบุตรภรรยาหนีออกบ้านขณะเขายืนมองเปลวไฟที่ลามไหม้ขึ้นหลังคา บ้านทั้งหลังกำลังจะกลายเป็นเถ้าถ่าน ชายเจ้าบ้านเหลือบมองหมาข้างตัว แล้วรำพัน “ข้ายากจน เลี้ยงเจ้าไม่เคยได้กินอิ่ม นึกไม่ถึง ข้า ลูกเมียข้า รอดชีวิตได้เพราะเจ้า”จบประโยคที่ชายเจ้าของบ้านรำพึงถึงสุนัข ประสิทธิ์ ฉกาจธรรม ก็รำพึงถึงตัวเอง“ผมไม่ค่อยถูกชะตากับสุนัข ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์เทศหรือพันธุ์ไทย เพราะตอนเป็นเด็กเคยถูกสุนัขไล่กัดจนฝังใจ แม้โตเป็นหนุ่มแล้วก็ยังไม่อยากจะเข้าใกล้เวลาได้ยินเสียงผู้หญิงคนไหน ร้องเพลง LOVE ME LOVE MY DOG “ผมก็จะบอกกลับทันที” ก็ LOVE YOUR DOG ต่อไปคนเดียวก็แล้วกัน!”ต่อมาครั้นอายุมากๆขึ้น ทำงานพบปะกับผู้คน ประสิทธิ์เริ่มตระหนักว่ามนุษย์นั้นร้ายกาจกว่า แม้จะไม่มีเขี้ยวเล็บแหลมคม แต่สามารถขบกัดได้รุนแรงกว่า แม้เห่าหอนไม่ได้ แต่ส่งเสียงเสียดแทงหัวใจได้ล้ำลึกกว่าความต่างนอกจากนี้ สุนัขยังมีความซื่อสัตย์ จงรักภักดีมากกว่าสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “คน”มีคำพังเพยจีนบทหนึ่งกล่าวว่า “ทารกไม่รังเกียจมารดาอัปลักษณ์ สุนัขไม่รังเกียจเจ้าของยากจน”เด็กทารกที่รู้ว่าใครเป็นแม่ แม้หน้าตาจะไม่สวยงาม แต่เด็กก็รักและติดเธอคนนั้น ต่อให้คนหน้าตาดีมาอุ้มไปก็ยังร้องหาแม่อยู่วันยังค่ำสุนัขที่รู้ว่าใครเป็นเจ้านายก็จะรักใคร่ผูกพันไม่ยอมละทิ้ง ไม่ว่าจะอดอยากหรือถูกเจ้าของเฆี่ยนตี ก็ไม่หนีไปไหน เราไม่เคยได้ยินข่าวสุนัขเก็บข้าวของหนีตามเจ้านายใหม่ ที่รวยกว่าหรือหน้าตาดีกว่า เจ้านายเก่ามีใครเคยเห็นสุนัขที่อยู่กระท่อมซอมซ่อ คอยตะกายกำแพงเข้าไปอยู่ในคฤหัสถ์โก้หรูบ้างไหม?เมื่อเริ่มมีความเข้าใจข้อนี้ ประสิทธิ์ ฉกาจธรรม จึงสารภาพ “ผมค่อยๆมีความรู้สึกที่ดีกับเจ้าสัตว์สี่ขาหน้าขนเหล่านี้เพิ่มขึ้นทุกวัน ตรงกันข้ามกับมนุษย์สองขาหน้าซื่อใจคด ที่ชวนให้ผมสลดใจอยู่ไม่ขาด” ประสิทธิ์ ฉกาจธรรม จบข้อเขียนนี้ เดี๋ยวนี้ ถ้ามีหญิงสาวคนไหนมาร้องเพลง “LOVE ME LOVE MY DOG” ผมจะรีบบอกเธอด้วยความจริงใจ “ร้องให้ฟังอีกครั้งสิครับ!”อ่านข้อเขียนเรื่องมนุษย์กับสุนัขของคุณประสิทธิ์แล้ว ผมก็นึกถึงความผิดพลาดของนายกฯอนุทิน เรื่องปัญหามหาอุทกภัยที่หาดใหญ่ ซึ่งตอนแรกๆผมก็ไม่แน่ใจว่า คนที่เลือกไปทำงานก็ตั้งใจทำงานกันสุดฤทธิ์เดช สุดปัญญาบารมีทุกคนแล้วนี่นา!แต่กระนั้น ข้อผิดจะมีอยู่ที่ไหน...ผิดระดับพื้นฐาน ประการแรก คือเลือกคนคนเก่งคนกล้าคนหนึ่ง...ที่ตั้งใจใช้ เขารู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง ทิ้งนายเก่ามาอยู่กับนายใหม่...ชัดๆ แล้วก็สามคน...คนมีหัวใจกลอกกลิ้ง ยังกะลิงหลอกเจ้า...อย่างนี้ คือที่มาของความล้มเหลวทั้งหลายทั้งปวง.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม