“จิสด้า” อัปเกรดเพิ่มดาวเทียมตรวจจับฮอตสปอตถี่ยิบ ชี้เป้าหน่วยงานภาคพื้นสามารถตรวจสอบจุดความร้อนหรือพื้นที่เผาไหม้ได้ในทุกพื้นที่ โดยเริ่มพบฮอตสปอตจากการเผาในที่โล่งบางจังหวัดแม้จะยังไม่เข้าสู่ช่วงฤดูฝุ่นเต็มตัว เชียงใหม่ค่าฝุ่น PM 2.5 เริ่มขยับสูงขึ้นและเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพบางพื้นที่ กระทรวงสาธารณสุขเตือนประชาชน-กลุ่มเสี่ยงงดกิจกรรมกลางแจ้งผู้ว่าฯ กทม.เผยไม่เฉพาะ 50 เขตในเมืองกรุงที่มีค่าฝุ่นเป็นสีส้ม แต่หลายจังหวัดภาคกลาง อาทิ นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสงคราม ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี ล้วนมีค่าฝุ่นในระดับสีส้มด้วย ส่วนสาเหตุที่ทำให้มีค่าฝุ่นเป็นสีส้มเกิดจากสภาพอากาศปิด มีมวลอากาศเย็นกดทับลักษณะคล้ายฝาชีครอบกรุงเทพฯหลังจากคนไทยเผชิญฝนหนักมาหลายเดือนช่วงฤดูฝนในรอบปีที่ผ่านมา แต่พอถึงช่วงปลายปีที่เข้าสู่ฤดูหนาวกลับต้องเผชิญปัญหา PM2.5 ที่ส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า เมื่อเช้าวันเดียวกันนี้ พบ 15 จังหวัดมีค่าฝุ่นอยู่ระดับสีแดง ได้แก่ สมุทรสาคร นนทบุรี นครปฐม กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ปทุมธานี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง ราชบุรี จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี สมุทรสงคราม และเพชรบุรี จึงขอให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ที่อาจเจ็บป่วยหรือได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากฝุ่น PM2.5 รุนแรงกว่าประชาชนทั่วไป ตรวจสอบคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน ผ่านแอปพลิเคชัน Air4Thai, AirBKK, Life D หรือเช็กฝุ่น การปฏิบัติตัวเมื่อค่าฝุ่นระดับสีส้ม กลุ่มเสี่ยงให้จำกัดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก หากจำเป็นต้องออกนอกอาคารให้สวมหน้ากากอนามัย หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ อยู่ในอาคารหรือห้องปลอดฝุ่น ผู้มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็น ลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่นในบ้าน แต่หากค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีแดง ขอให้งดกิจกรรมกลางแจ้งรมว.สาธารณสุขกล่าวต่อว่า กระทรวงฯเตรียมมาตรการรองรับ ได้แก่ 1.ติดตามสถานการณ์และประชาสัมพันธ์เชิงรุก เน้นสื่อสารและแจ้งเตือนผ่านระบบดิจิทัล เช่น Platform หมอพร้อม SMART อสม. 2.เฝ้าระวังและติดตามผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจาก PM2.5 จัดทำห้องปลอดฝุ่นในสถานบริการและพื้นที่เสี่ยง สนับสนุน “มุ้งสู้ฝุ่น” รวมถึงพิจารณาใช้มาตรการ Work From Home สำหรับกลุ่มเปราะบาง เมื่อค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน 3. การจัดบริการการแพทย์และสาธารณสุข โดยขยายเครือข่ายบริการดูแลสุขภาพให้ครอบคลุม ทั้งคลินิกมลพิษทางอากาศ คลินิกเวชกรรมสิ่งแวดล้อม ให้คำปรึกษาคลินิกมลพิษออนไลน์ จัดระบบนัดหมายคลินิกมลพิษผ่านระบบหมอพร้อม จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่/ทีมปฏิบัติการดูแลสุขภาพกลุ่มเปราะบาง 4.หากสถานการณ์รุนแรงให้เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินในทุกระดับ และส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ใช้ พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ในการควบคุมต้นกำเนิดฝุ่นที่ จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงนี้ค่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เริ่มขยับสูงขึ้นและเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพในบางพื้นที่ ขณะเดียวกันเริ่มพบฮอตสปอตจากการเผาในที่โล่งบางจังหวัด แม้จะยังไม่เข้าสู่ช่วงฤดูฝุ่นเต็มตัว แต่ฮอตสปอตที่เริ่มมีให้เห็นก็ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเริ่มติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แม้จะมีมาตรการและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด แต่ที่ผ่านมาพบกลุ่มคนเลือกช่วงเวลาลอบเผาป่า เพื่อหลบเลี่ยงดาวเทียม ทำให้การติดตามตรวจสอบทำได้ยากขึ้น แต่หลังจากนี้คงไม่ง่ายเหมือนที่ผ่านมา เพราะปีนี้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือจิสด้า เพิ่มระบบดาวเทียมทำให้ตรวจถี่มากขึ้นน.ส.วรนุช จันทร์สุริย์ นักภูมิสารสนเทศชำนาญการ จิสด้า บอกว่าข้อมูลภาพถ่ายจากอวกาศจากดาวเทียม สามารถตรวจสอบจุดความร้อนหรือพื้นที่เผาไหม้ได้ในทุกพื้นที่ โดยในการดูพื้นที่เผาไหม้ หรือ Burn Area จะระบุพิกัดการเผาไหม้ กินพื้นที่บริเวณกี่ไร่ รวมทั้งแหล่งกำเนิดว่าเป็นป่าหรือพื้นที่การเกษตร เพื่อให้หน่วยงานรับผิดชอบเข้าไปดับไฟได้ถูกต้อง ส่วนการเผาที่หลบเลี่ยงคาบการเคลื่อนผ่านของดาวเทียม ปัจจุบันองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา หรือนาซา และอีกหลายประเทศ มีการปล่อยดาวเทียมเพิ่มมากขึ้น จะทำให้จิสด้าที่มีการเชื่อมโยงรับข้อมูลจากนาซา ได้ความถี่ในการติดตามฮอตสปอตมากขึ้น จากเดิมที่ใช้ระบบ MODIS ติดตั้งอยู่กับดาวเทียม Terra กับ Aqua และระบบ VIIRS บนดาวเทียม Suomi NPPน.ส.วรนุชกล่าวต่อว่า ล่าสุดมีการเพิ่มเติมดาวเทียม NOAA อีก 2 ดวง คือ NOAA 20 และ 21 ทำให้ปัจจุบันมีดาวเทียมตรวจจับเพิ่มจาก 2 เป็น 5 ดวง ทำให้วงรอบของการติดตามฮอตสปอตเพิ่มมากขึ้น จากเดิมวันละ 4 รอบเป็น 8-10 รอบ ส่วนการตรวจสอบพื้นที่เผาไหม้ ก่อนหน้านี้ใช้เทคโนโลยีดาวเทียม Landsat 8 กับ 9 ปัจจุบัน มีดาวเทียม Sentinel 2 ที่มีทั้ง 2A 2B 2C มาเพิ่มเติม รวมเป็น 5 ดวง ทำให้สามารถดูพื้นที่เผาไหม้ได้ถี่ขึ้นจากทุกๆ 16 วัน เป็นทุกๆ 3-5 วัน และ ยังได้ความละเอียดเชิงพื้นที่เพิ่มมากขึ้นจากเดิม 30×30 ตารางเมตร เป็น 10×10 ตารางเมตรด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในกรุงเทพฯ ที่มีค่าความเข้มข้นในระดับสีส้มว่า กรุงเทพฯเปลี่ยนจากฤดูฝนเริ่มเข้าสู่ฤดูฝุ่น คือประมาณเดือน พ.ย.-ก.พ. จะเห็นได้ว่า ไม่ใช่แค่ในพื้นที่กรุงเทพฯเท่านั้น ที่มีค่าฝุ่นเป็นสีส้มทั้ง 50 เขต แต่ทั้งภาคกลางได้รับผลกระทบเรื่องฝุ่น ไม่ว่าจะเป็นนครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสงคราม ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี ล้วนมีค่าฝุ่นในระดับสีส้มด้วย สาเหตุที่ทำให้กรุงเทพฯช่วงนี้มีค่าฝุ่นเป็นสีส้ม เกิดจากสาเหตุหลัก คือ สภาพอากาศปิด มีมวลอากาศเย็นกดทับ คล้ายฝาชีครอบกรุงเทพฯ ทำให้ฝุ่นในกรุงเทพฯมีความหนาแน่นขึ้น ถ้าสภาพอากาศเปิด แม้ปริมาณฝุ่นจะเท่าเดิม แต่ความหนาแน่นจะเจือจางลง ดังนั้นช่วงนี้คุณภาพอากาศระดับสีส้มเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไปควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ประชาชนกลุ่มเสี่ยงควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก และให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวอีกว่า วันที่ 3 ธ.ค. อัตราการถ่ายเทอากาศจะดีขึ้นและจะดีต่อเนื่อง ก่อนจะเริ่มแย่อีกครั้งในวันที่ 5-7 ธ.ค. และดีขึ้นในวันที่ 8 ธ.ค.เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามมาตรการ “ฝ่าฝุ่น 3 วัน” ช่วงวันที่ 5-7 ธ.ค. เป็นช่วงที่อัตราการระบาย อากาศต่ำ รวมถึงวันที่ 9 ธ.ค. มีงานเปิดซีเกมส์ วันที่ 10 ธ.ค. ที่อากาศจะดีขึ้น เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่น ในวันที่ 4 ธ.ค. กทม. จะขอความร่วมมือให้หน่วยงานที่สามารถ Work from Home ได้ ปรับรูปแบบการทำงาน โดยไม่บังคับ ส่วนหน่วยงานที่ต้องให้บริการประชาชน ยังคงทำงานตามปกติ แต่ โรงเรียนไม่ปิด เพราะเชื่อว่าที่โรงเรียนมีครูดูแล ไม่ให้ออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งและสวมหน้ากากอนามัยจึงปลอดภัยกว่าอยู่บ้าน หากปิดโรงเรียนผู้ปกครอง ต้องรับภาระและเด็กเล็กอาจออกไปสัมผัสฝุ่นมากกว่าอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่