ทุ่นระเบิดชายแดนไทยกัมพูชาแผลงฤทธิ์ หนุ่มจีนคาด เอี่ยวขบวนการไซเบอร์สแกม ลักลอบเข้าไทยที่บ้านหนองจาน เจอจังๆเท้าซ้ายขาดกระเด็น ลำตัว ใบหน้าด้านซ้ายโดนสะเก็ดระเบิดเลือดอาบ กกล.บูรพาส่งชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดเข้าช่วยเหลือส่งโรงพยาบาลได้ทัน พร้อมประสาน ตม.ดำเนินการทางกฎหมาย ด้าน TMAC ชี้จุดเกิดเหตุเป็นสนามทุ่นระเบิดที่ไทยยังเก็บกู้ไม่เสร็จ ขณะที่โฆษก ทบ.ชี้เหตุชายจีนเหยียบทุ่นระเบิดสะท้อนปัญหาชายแดน ชี้กัมพูชายังวางทุ่นระเบิดต่อเนื่อง ไม่ร่วมมือเก็บกู้ในขณะที่กองทัพไทยเดินหน้าเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายไทย-กัมพูชามาอย่างต่อเนื่อง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ได้รับรายงานจากกองกำลังบูรพา (กกล.บูรพา) มีผู้ลักลอบข้ามมาฝั่งไทยและเหยียบกับระเบิดได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบพบว่าเมื่อเวลา 05.50 น. เจ้าหน้าที่ ตชด.สังกัด ร้อย. ฉก.ตชด.4 ได้ยินเสียงระเบิดดังที่บริเวณป่าละเมาะ ห่างจากถนนศรีเพ็ญ ประมาณ 80-90 เมตร พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว หน่วยเฉพาะกิจที่ 12 จึงนำโดรนขึ้นตรวจสอบประเมินสถานการณ์ พบชายชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บ คาดว่าเหยียบกับระเบิดและร้องขอความช่วยเหลือด้วยภาษาอังกฤษ จึงได้นำทีมชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิด โดยหน่วยเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมที่ 1 (นปท.1) เข้าปฏิบัติการให้การช่วยเหลือเร่งด่วน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร และ ตชด. เฝ้าระวังป้องกันและรักษาความปลอดภัย และนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลโคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้วจากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบพาสปอร์ต ชื่อนาย SHI JINGUI ชาวจีน มณฑลยูนนาน อายุ 26 ปี คาดว่าน่าจะลักลอบข้ามแดนมายังฝั่งไทย โดยพื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ปนเปื้อนระเบิดบ้านหนองจาน ที่ยังอยู่ระหว่างปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของฝ่ายไทย ทั้งนี้ หน่วยเฉพาะกิจที่ 12 ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสระแก้วเข้าดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไปนอกจากนี้ ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ระบุข้อมูลเพิ่มเติมพื้นที่เกิดเหตุด้วยว่าอยู่ในแปลงพื้นที่สนามทุ่นระเบิด SHA 27-01 ยังเก็บกู้ไม่แล้วเสร็จ อยู่ระหว่าง จต.ส.41-จต.ส.42 ต.โนนหมากมุ่น จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากถนนศรีเพ็ญ ประมาณ 80 เมตร เมื่อชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดลาดตระเวนเข้าไปถึงจุดที่ผู้บาดเจ็บนอนอยู่ พบว่าผู้บาดเจ็บกำลังพยายามปฐมพยาบาลตนเอง และร้องขอความช่วยเหลือเป็นภาษาอังกฤษสลับภาษาจีน เริ่มมีอาการหนาวสั่น จึงเร่งให้ความช่วยเหลือ ปฐมพยาบาลเพิ่มเติม และนำตัวส่งโรงพยาบาลโคกสูง จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นระเบิดประเภทสังหารบุคคล ชนิดระเบิดอยู่กับที่ PMN ลักษณะอาการบาดเจ็บ เท้าด้านซ้ายขาดทั้งเท้า แผลฉกรรจ์ ส่วนบริเวณลำตัวด้านซ้ายและใบหน้าด้านซ้ายถูกสะเก็ดระเบิดด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เจ้าหน้าที่นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว พร้อมประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว สอบสวนตามขั้นตอน เนื่องจากเป็นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เบื้องต้นมีข้อสันนิษฐานว่าอาจเกี่ยวข้องกับขบวนการไซเบอร์ สแกม (Cyber Scam) ที่ผ่านมาพบการหลบหนีเข้ามายังฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง จุดดังกล่าวตั้งอยู่ในแนวพื้นที่ปฏิบัติการของฝ่ายไทย และเป็นพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดที่ฝ่ายไทยกำลังดำเนินการเก็บกู้ตามแผน ที่ผ่านมาเคยตรวจพบทุ่นระเบิดจำนวนมาก หากพิจารณาจากสภาพพื้นที่ จะเห็นได้ว่าฝ่ายกัมพูชามีการวางทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดนในลักษณะขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ไทยและกระทบต่อประชาชน ไม่เฉพาะจุดนี้เท่านั้น แต่ยังพบได้ทั่วไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทุ่นระเบิดที่พบในเหตุการณ์ล่าสุด อยู่ระหว่างการพิสูจน์ว่าเป็นทุ่นระเบิดเก่าหรือใหม่ แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือประชาชนไทยไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ ซึ่งควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยได้พล.ต.วินธัย กล่าวอีกว่า ฝ่ายกัมพูชามีการใช้ทุ่นระเบิดประกอบการปฏิบัติทางยุทธวิธีมาตั้งแต่ในอดีต และในปัจจุบันยังใช้อยู่ตามแบบทางยุทธวิธีดั้งเดิม ปัจจุบันจึงพบหลักฐานการใช้ทุ่นระเบิดแบบ PMN-2 ซึ่งเป็นชนิดใหม่จำนวนมาก เพื่อใช้เป็นอาวุธลอบทำร้ายและขัดขวางฝ่ายตรงข้าม ที่สำคัญคือกัมพูชาเป็นภาคีอนุสัญญาออตตาวา และได้รับเงินสนับสนุนจำนวนมากจากนานาชาติเพื่อใช้ในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แต่กลับไม่แสดงความร่วมมือในการเก็บกู้ตามแนวชายแดนร่วมกับฝ่ายไทย แม้ไทยจะยื่นข้อเสนอผ่านเวทีการประชุมทวิภาคีหลายครั้งก็ตาม นอกจากนี้มีรายงานว่าฝ่ายกัมพูชาเข้าไปขัดขวางการปฏิบัติงานเก็บกู้ของฝ่ายไทยในหลายพื้นที่ด้วย เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายของทุ่นระเบิดที่ส่งผลกระทบต่อทุกฝ่าย ไม่เลือกว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือนของประเทศใด ขณะเดียวกันยังชี้ให้เห็นถึงความไร้ความรับผิดชอบของกัมพูชาในการร่วมกันแก้ไขปัญหา อีกทั้งหลักฐานจำนวนมากบ่งชี้ถึงการใช้ทุ่นระเบิดใหม่อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าข้อมูลข้อเท็จจริงที่ฝ่ายไทยได้จัดทำและส่งให้องค์กรระหว่างประเทศจะถูกนำไปใช้ในการพิจารณา และทำให้กัมพูชาต้องรับผลจากการกระทำอันรุนแรงที่เกิดขึ้นครั้งนี้ส่วนบริเวณบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้วตลอดวัน ยังคงมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยประจำการตรึงกำลังหน้าชายแดนทั้งสองจุดอย่างแน่นหนา มีการตั้งจุดสังเกตการณ์และลาดตระเวนตลอดทั้งวัน ทั้งเพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดน และเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ บรรยากาศทั่วไปยังคงเงียบสงบ ไม่มีความวุ่นวายหรือความตึงเครียดในหมู่ชาวบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ประสานผู้นำชุมชนเพื่อให้ข้อมูลและสร้างความเข้าใจต่อสถานการณ์อย่างต่อเนื่องอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่