กองทัพเรือเผยการปักหมุดอ้างอิงชั่วคราวชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณหลักเขตที่ 52-59 ระยะทาง 8.3 กิโลเมตร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เสร็จสิ้นลงแล้วหลังใช้เวลาปฏิบัติงานเพียง 16 วัน ถือเป็นความคืบหน้าสำคัญ ในการจัดทำข้อมูลอ้างอิงร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศ ขณะที่ทีมสำรวจไทย- กัมพูชา ยังเดินหน้าปักหมุดชั่วคราวหลักเขต 42-43 พร้อมบินโดรนเก็บภาพทำแผนที่ความแม่นยำสูง ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ย. พลเรือตรีปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า การดำเนินการสำรวจและปักหมุดอ้างอิงชั่วคราวตามชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณหลักเขตที่ 52 ถึง 59 ระยะทาง 8.3 กิโลเมตร ขณะนี้ได้เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย ใช้เวลาในการปฏิบัติงานรวมทั้งสิ้น 16 วัน คณะทำงานชุดสำรวจร่วมไทย-กัมพูชาได้ปักหมุดอ้างอิงชั่วคราวครบจำนวน 166 หมุด ถือเป็นความคืบหน้าสำคัญในการจัดทำข้อมูลอ้างอิงร่วมกันระหว่างสองประเทศ การสำรวจดังกล่าวเป็นกระบวนการทางเทคนิคตามมาตรฐานสากลที่เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย เพื่อให้ทั้งสองประเทศมีข้อมูลภูมิประเทศที่ตรงกัน ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการปรับเปลี่ยนเส้นเขตแดนในขั้นตอนนี้ ขั้นตอนถัดไปคือ การบินโดรนสำรวจภาพถ่ายทางอากาศเพื่อจัดทำข้อมูลแผนที่ที่มีความละเอียดและแม่นยำสูง ข้อมูลทั้งหมดจะถูกรวบรวมเสนอให้ประธาน JBC ของทั้งสองประเทศพิจารณารับรองอย่างเป็นทางการก่อน และเมื่อข้อมูลได้รับการรับรองแล้ว ฝ่ายไทยจะหารือฝ่ายกัมพูชาเพื่อเข้าสู่กระบวนการเตรียมการสร้างรั้วชายแดน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมการผ่านแดน ป้องกันการลักลอบการกระทำผิดกฎหมายทั้งปวง พร้อมเสริมความชัดเจนในการบริหารจัดการพื้นที่ร่วมกัน ทั้งนี้ รั้วดังกล่าวเป็นเครื่องมือบริหารจัดการแนวชายแดน ไม่ใช่เส้นเขตแดนใหม่กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ได้ร่วมปฏิบัติภารกิจครั้งนี้อย่างระมัดระวังภายใต้กลไกความร่วมมือของคณะกรรมการชายแดนภูมิภาค (RBC) เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยสูงสุดให้กับชุดสำรวจฯ กองทัพเรือขอยืนยันว่าจะปกป้องอธิปไตยของชาติ รักษาผลประโยชน์ของประเทศ และดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดนอย่างเต็มกำลังการปักหมุดเขตแดนที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ความคืบหน้าเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชุดสำรวจปักหมุดชั่วคราวร่วมไทย- กัมพูชา เร่งปฏิบัติการสำรวจพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เตรียมการปักหมุดเขตแดนชั่วคราว ช่วงที่ 1 บริเวณระหว่าง หลักเขตที่ 42 ถึง 43 บ.หนองหญ้าแก้ว รวมระยะทางสำรวจ 7 กม. ที่เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ที่ทั้งสองประเทศอ้างสิทธิร่วมกัน มีการปฏิบัติงานสำคัญคือ การรังวัด GPS เพื่อกำหนดจุดควบคุมภาพถ่ายทางอากาศ (GCP) และการบินโดรนสำรวจร่วมกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ ณ ปัจจุบัน ซึ่งจะนำไปสู่การกำหนดแนวเขตแดนที่ชัดเจน โดยความคืบหน้าการทำงาน เมื่อวันที่ 26 พ.ย. เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการรังวัด GPS หมุดควบคุม (GCP) ได้136จุด บินโดรนถ่ายภาพได้ระยะทาง 7 กิโลเมตรอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่