ข่าวน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ณ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาเฉพาะที่เป็นการ “ท่วมใหญ่” เสียหายรุนแรงจนกลายเป็นข่าวใหญ่หน้า 1 หนังสือพิมพ์รายวันในอดีตเท่าที่ผมจำความได้ น่าจะมี 3 ครั้งด้วยกัน ได้แก่ พ.ศ.2531, พ.ศ.2543 และ พ.ศ.2553ครั้งแรก เมื่อ พ.ศ.2531 พบว่าน้ำท่วมอำเภอหาดใหญ่ และบริเวณใกล้เคียง ทำความเสียหายในบริเวณกว้างประมาณ 250 ตารางกิโลเมตร มีการประเมินไว้ว่ามูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 4 พันล้านบาทขณะเดียวกันก็มีผู้บันทึกความทรงจำที่อ่านแล้วมองเห็นภาพในวันเกิดเหตุได้ทันที ดังนี้“วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2531 มีฝนตกตลอดทั้งวัน ตกเหมือนฟ้ารั่ว ไม่รู้ว่าน้ำมาจากไหนมากมายและรวดเร็วเหลือเกิน เข้าท่วมทุกพื้นที่ของหาดใหญ่”“ช่วงเวลานั้นทุกคนเดือดร้อนกันทั่วหน้า ถ้าใครอยู่บ้านชั้นเดียวน้ำจะท่วมจนไม่มีที่ไป ต้องอพยพไปอยู่บนหลังคาแล้วเอาพลาสติกมาคลุมกันฝนที่ยังตกลงมาอย่างหนัก น่าเวทนายิ่งนัก” (หมายเหตุ : จากเพจ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สุรินทร์...นำมาลงซ้ำทางเฟซบุ๊กเมื่อ 24 พ.ย.2568)ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนเช่นกัน มีบันทึกไว้ว่าระหว่าง 21-25 พ.ย.2543 ได้เกิดฝนตกติดต่อกันหลายวันจนเกิดภาวะน้ำท่วมรุนแรงแผ่กระจายทั่วหาดใหญ่ คราวนี้กินพื้นที่ความเสียหายประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจถึงกว่า 18,000 ล้านบาท มีรายงานว่าสาเหตุสำคัญสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ค่าเสียหายสูงขึ้นเป็นเพราะอำเภอหาดใหญ่เติบโตแบบก้าวกระโดดในช่วง 12 ปีจาก พ.ศ.2531 มีตึกสูง ศูนย์การค้า โรงแรม และ ฯลฯ โผล่ขึ้นมากมายเพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่บูมสุดขีดผลจากความเสียหายเมื่อ พ.ศ.2543 นำไปสู่การพิจารณาเพื่อวางแผนป้องกันน้ำท่วมใหญ่อย่างจริงจัง โดยเฉพาะการริเริ่มโครงการบรรเทาอุทกภัยตามแนวพระราชดำริ (คลอง ร.1) หลังจากนั้นครั้งที่ 3 หลังจากเกิดภาวะน้ำท่วมใหญ่หาดใหญ่ครบ 10 ปีเต็มๆ ก็กลับมาเกิดอีกครั้งใน 2553 (ระหว่าง 26 พ.ย.-7 ธ.ค.) โดยเฉพาะในเขตตัวอำเภอหาดใหญ่เสียหายถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ได้รับผลกระทบกว่า 30,000 ครัวเรือน มีรายงานว่าประชาชน 10,000 คนไม่สามารถออกจากที่พักอาศัยได้ เพราะน้ำท่วมสูงถึง 3 เมตรในขณะที่เขียนต้นฉบับวันนี้ยังไม่พบรายงานความเสียหายเป็นตัวเงิน เนื่องจากมีเวลาค้นหาจำกัด ประกอบกับปี 2553 เป็นปีที่เกิดภาวะน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย ทำให้การบันทึกเหตุการณ์กระจายออกไปกลับมาสู่สถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้นที่อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งเป็นบริเวณที่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่อีกครั้ง และก็จะเสียหายอย่างหนักอีกครั้งอย่างแน่นอน ซึ่งก็คงต้องรอการประเมินต่อไป แต่จากภาพจากวิดีโอและคลิปที่เผยแพร่อย่างกว้างขวางในทุกสื่อขณะนี้ รวมทั้งสื่อภาคประชาชน ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ ...ดูแล้วอ่านแล้วหลายๆครั้ง สามารถสรุปได้เลยว่าครั้งนี้น่าจะหนักที่สุด จากพาดหัวข่าวที่ว่า ประชาชนในหาดใหญ่อีกหลายพันคนยังติดค้างอยู่ในบ้านที่โดนน้ำท่วมและยังไม่สามารถให้ความช่วยเหลือให้ออกมาสู่สถานที่พักพิงได้ เพราะไม่มีเรือหรือรถใหญ่ๆที่สามารถลุยน้ำเข้าไปช่วยได้เลยต่อมาเมื่อมีข่าวว่าฝนจะยังไม่หยุดและจะโหมกระหน่ำลงมาอีกก็ยิ่งบังเกิดความหวั่นไหวมากยิ่งขึ้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หาดใหญ่และอีกหลายๆจังหวัดในภาคใต้ขณะนี้ชี้ให้เห็นว่า “ธรรมชาติ” ไม่เคยปรานีใคร ในยามใจดีท่านก็จะให้ความสุขและประโยชน์มากมายแก่มนุษย์ แต่ในยามใจร้ายท่านก็โหดร้ายต่อมนุษย์ ดังที่เกิดภัยธรรมชาติต่างๆขึ้นทั่วโลก และบ้านเราหลายๆครั้งเหลือเกินสำหรับปีนี้การใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังและไม่ประมาทจึงเป็นเรื่องที่พวกเราในฐานะมนุษย์ที่อยู่ใต้อิทธิพลของธรรมชาติจะต้องสำนึกอยู่เสมอน้ำท่วมหาดใหญ่น่าจะเกิดขึ้นอีกได้ในอนาคต เพราะพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ แม้จะมีการวางแผนป้องกันอย่างไรก็ยากจะหนีพ้นไปได้ณ นาทีนี้เร่งช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ตามบ้านและยังออกไม่ได้กันเสียก่อนนะครับ แล้วค่อยหาทางวางแผนแก้ปัญหากันในวันข้างหน้าต่อไป."ซูม"