ลูกปืนจากจรวด BM-21 ที่ยิงจากฝั่งกัมพูชามาถล่มไทยยังตามหลอน หลังชาวบ้านกาบเชิง จ.สุรินทร์ เพิ่งเจออีก 1 ลูกกลางทุ่งนา ในพื้นที่หมู่บ้านกระสุนตก 20 ลูก ที่ผ่านมาเจอแล้ว 19 ลูก คาดตกค้างในดินลึกราว 4 เมตร รอหน่วยอีโอดีเก็บกู้มากกว่าทำลายทิ้ง เหตุเป็นพื้นที่ใกล้ชายแดนที่ยังตึงเครียด ขณะเดียวกันยังพบโดรนปริศนาบินเข้ามาสอดแนมฝั่งไทยตลอดคืน ด้าน ศทช.เจออีก 1 ทุ่นระเบิดสังหาร TYPE 69 บริเวณช่องเหว อ.พนมดงรัก รวมตั้งแต่เข้าเก็บกู้ ต้น พ.ย.ถึงปัจจุบัน เจอวัตถุระเบิด 79 รายการ เป็นทุ่นระเบิดสังหาร 5 ทุ่น ลูกระเบิดขว้าง 73 ลูก ยังเหลือพื้นที่มีทุ่นระเบิดอีกร้อยละ 43.20สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นับจากเหตุปะทะใหญ่ที่กัมพูชาเปิดฉากยิงจรวดถล่มไทยหลายจุด เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันยังไม่มีทีท่าจะจบได้ง่าย เมื่อชาวบ้านใน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ยังพบหลุมต้องสงสัยเป็นจุดตกของลูกปืนจากจรวด BM-21 ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 25 พ.ย. ว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมกับตำรวจ สภ.กาบเชิง และหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) เข้าตรวจสอบบริเวณทุ่งนาของ น.ส.จีรภา ร่วมทวี ราษฎรบ้านกาบเชิง หมู่ 1 ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง หลังได้รับแจ้งพบหลุมลักษณะผิดปกติคล้ายจุดตกของลูกปืนจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งคาดว่ากระสุนยังไม่เกิดการระเบิด เบื้องต้นเจ้าของนาได้เดินสำรวจพื้นที่เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ก่อนให้รถเกี่ยวข้าวเข้าทำงาน และสังเกตพบหลุมลึกมีลักษณะใกล้เคียงกับรอยตกของกระสุนจรวดในเหตุปะทะบริเวณชายแดนที่ผ่านมา รีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบทันทีนายกำจัด ช่วงประโคน ผู้ใหญ่บ้านโคกเพชร ต.กาบเชิง เปิดเผยว่า ที่บริเวณหมู่บ้านนับเป็นจุดกระสุนตกในช่วงที่มีการปะทะกันเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีการเก็บข้อมูลมีลูกระเบิดจากกัมพูชาเข้าตกถึง 20 ลูก และตรวจพบแล้ว 19 ลูก จุดที่พบเบื้องต้นน่าจะเป็นลูกที่ 20 ที่ตกลงมาน่าจะอยู่ลึกประมาณ 4 เมตร เรื่องลูกระเบิดตกค้างเป็นที่กังวลของชาวบ้านอย่างมาก เนื่องจากตรวจสอบยาก และเป็นช่วงที่ชาวบ้านกำลังเก็บเกี่ยวข้าวอีกด้วย ได้เร่งประชาสัมพันธ์แจ้งชาวบ้านให้พยายามตรวจสอบในบริเวณที่นา หรือแปลงเกษตรของตนเอง หากพบร่องรอยผิดสังเกตให้รีบแจ้ง เพื่อประสานไปยังอำเภอและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบโดยด่วน และรีบกั้นพื้นที่ไว้ทันทีเพื่อความปลอดภัย ขณะนี้หลุมที่พบรอการเก็บกู้จากหน่วยอีโอดี ส่วนการทำลายนั้นต้องรอไปก่อน เนื่องจากเป็นพื้นที่ใกล้กับชายแดน และสถานการณ์มีความตึงเครียดอยู่ จึงทำได้เพียงกั้นพื้นที่บริเวณที่พบ เพื่อแจ้งเตือนชาวบ้านผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มอีกว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา พบโดรนปริศนา จำนวน 1 ลำ คาดว่าเป็นของทหารกัมพูชา บินสังเกตการณ์อยู่เหนือท้องฟ้าหมู่บ้านด่าน ต.ด่าน อ.กาบเชิง อยู่ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา เพียง 1 กม.เท่านั้น รวมทั้งยังพบอีก 1 ลำ บินอยู่เหนือท้องฟ้า อ.กาบเชิง ตลอดทั้งคืน มีไฟกะพริบบินวนให้เห็นอย่างชัดเจนอีกด้วยขณะที่กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (ศทช.) หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 4 แจ้งผลการปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 24 พ.ย. ในพื้นที่บ้านไทยนิยม (ช่องเหว) ตำบลบักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พิกัดขนาดพื้นที่ 22,634 ตารางเมตร ดำเนินการสำรวจทางเทคนิคพื้นที่ ได้พื้นที่ปลอดภัย จำนวน 925 ตารางเมตร คิดเป็นร้อยละ 4.10 ตรวจพบวัตถุระเบิด จำนวน 1 รายการ (TYPE 69 จำนวน 1 ทุ่น) โดยประสานกำลังพลจากกองร้อยทหารราบที่ 263 (ฐานปฏิบัติการช่องเหว) ในการระวังป้องกันขณะปฏิบัติงานทั้งนี้ สรุปผลการปฏิบัติงานเก็บกู้ทุ่นระเบิดพื้นที่บ้านไทยนิยม (ช่องเหว) ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 ถึงปัจจุบัน ได้พื้นที่ปลอดภัยจำนวนทั้งสิ้น 12,885 ตารางเมตร คิดเป็นร้อยละ 56.80 คงเหลือพื้นที่ที่ได้รับการยืนยันว่ามีทุ่นระเบิด จำนวน 9,779 ตารางเมตร คิดเป็นร้อยละ 43.20 สรุปตรวจพบวัตถุระเบิดรวมทั้งสิ้น 79 รายการ แยกเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล TYPE 69 จำนวน 5 ทุ่น สรรพาวุธระเบิดที่ยังไม่ระเบิด (UXO) กระสุน PG 2 จำนวน 1 นัด และลูกระเบิดขว้าง TYPE 67 จำนวน 73 ลูกส่วนการปฏิบัติงานร่วมกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อสำรวจและปักหมุดชั่วคราวระหว่างหลักเขตแดนที่ 42-43 (ช่วงการสำรวจช่วงแรก) ในที่ 25 พ.ย. ยังเป็นการรังวัดหมุด GCP และบินโดรนถ่ายภาพที่หลักเขตแดนที่ 43 บ้านโนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ต่อเนื่องอีกวันวันเดียวกัน สำนักข่าวขแมร์ ไทมส์ สื่อของกัมพูชา รายงานว่า กระทรวงกลาโหมกัมพูชาปฏิเสธรายงานของสื่อไทยที่อ้างแหล่งข่าวของกองทัพภาค 2 ของไทยที่ระบุว่า กัมพูชาใช้อาคารกาสิโนตามแนวชายแดนเป็นฐานปฏิบัติการปล่อยโดรนเข้ามาเพื่อสอดแนมในหลายพื้นที่ของไทย โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งของกระทรวงกลาโหมกัมพูชากล่าวว่า สื่อไทยรายงานข่าวบิดเบือนและทำให้เกิดความสับสน พร้อมทั้งย้ำว่ากองทัพไทยต่างหากที่ปล่อยโดรนตามพื้นที่พรมแดน 2 ประเทศเย็นวันเดียวกัน กองทัพภาคที่ 1 กองกำลังบูรพา โดยหน่วยเฉพาะกิจที่ 12 ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 1 และกองพันทหารช่างที่ 2 รายงานผลการปฏิบัติงานเคลียร์พื้นที่อันตรายต้องสงสัยในเขตบ้านหนองจาน (พื้นที่ C) ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.เป็นต้นมา ผลการปฏิบัติงานประจำวันที่ 25 พ.ย.พื้นที่ปฏิบัติงานประจำวัน: 2,103 ตร.ม.พื้นที่สะสมที่เคลียร์แล้ว : 12,053 ตร.ม. คิดเป็นร้อยละ 4.18 ของพื้นที่อันตรายทั้งหมด 288,457 ตร.ม. ผลการตรวจวันนี้พบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN จำนวน 6 ทุ่น ขณะที่ตั้งแต่เริ่มภารกิจตรวจพบและจัดการทุ่นระเบิด/วัตถุระเบิดแล้วรวมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล : PMN 13 ทุ่น POMZ-2 จำนวน 1 ทุ่น PMD-6M 1 ทุ่น รวม 15 ทุ่น กระสุนปืนใหญ่ ขนาด 105 มม. จำนวน 1 นัดอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่