นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าฯสงขลา ได้ออกประกาศด่วนผ่านทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) บ่ายวันจันทร์ที่ 24 พ.ย. สั่งการให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเขต 3 เขต 4 ของเมืองหาดใหญ่ อพยพออกจากพื้นที่โดยทันที และต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนเวลา 16.00 น.ของวันนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากสถานการณ์นํ้าท่วมในอำเภอเมืองหาดใหญ่ทวีความรุนแรงขึ้น มีรายงานว่า มวลนํ้าขนาดใหญ่กำลังไหลเข้าท่วมพื้นที่เมืองหาดใหญ่ในปริมาณที่สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า ระดับนํ้าอาจเพิ่มสูงขึ้นจนเป็นอันตรายถึงชีวิตจังหวัดสงขลา ได้เตรียมศูนย์อพยพไว้ 3 แห่งที่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา และ กองทัพเรือภาค 2 จังหวัดสงขลาคุณทรงพล จังศิริวัฒนธำรง ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้ (เช้า 24 พ.ย.) ฝนยังตกต่อเนื่อง มีมวลนํ้าจากอำเภอสะเดาไหลเข้าสมทบในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จากการประเมินร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พื้นที่ลุ่มมีแนวโน้มนํ้าจะท่วมสูงกว่า 3 เมตร ทำให้ผู้ว่าฯสงขลาต้องมีคำสั่งด่วนอพยพประชาชนในเมืองหาดใหญ่ ไปยังศูนย์อพยพที่เตรียมไว้ก่อน 16.00 น. ถนน ทุ่งเสา ถนนจันทร์วิโรจน์ ตอนนี้รถจีเอ็มซีของทหารก็ไม่สามารถเข้าได้ ระดับนํ้าสูงมาก ต้องใช้เรือที่มีกำลังเครื่องสูง เพราะนํ้าไหลแรงมาก นักท่องเที่ยวมาเลเซีย สิงคโปร์ ตอนนี้ก็ยังติดค้างอยู่ที่หาดใหญ่ราวหนึ่งพันคน ต้องเร่งอพยพไปยังที่ปลอดภัยล่าสุด การประปาภูมิภาคหาดใหญ่ แจ้งว่า ระดับนํ้าได้ท่วมถึงโรงกรองนํ้า ท่วมสูงกว่าปี 2553 ส่งผลให้ ไม่สามารถเดินเครื่องผลิตนํ้าประปา จ่ายนํ้าให้ประชาชนได้ชาวเมืองหาดใหญ่หลายแสนคน กำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติ ขาดแคลนข้าวปลา อาหาร ขาดไฟฟ้า ขาดนํ้าประปา ระบบสื่อสารก็เสียหาย โทรศัพท์มือถือสามารถใช้ได้เป็นบางพื้นที่ บางพื้นที่ใช้ไม่ได้ เนื่องจากการไฟฟ้าตัดไฟ เป็นเรื่องที่รัฐบาลส่วนกลางทุกกระทรวงต้องเร่งให้ความช่วยเหลือโดยด่วน ไม่ใช่ช่วยกันแค่จุดใดจุดหนึ่ง นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล จะต้องเป็น “ศูนย์กลาง” ในการ “สั่งการ” เพื่อ “บูรณาการความช่วยเหลือ” จากทุกกระทรวงให้เป็นหนึ่งเดียว ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ กระทรวงใครกระทรวงมัน เพราะต่างพรรคการเมืองกัน คนใต้ต้องจำกันให้แม่น นักการเมืองคนไหนที่ลงมาช่วยเหลือประชาชนอย่างจริงจังในยามยาก ไม่ใช่แค่มาถ่ายรูปนํ้าท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้ ถือเป็น “นํ้าท่วมใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์” สงขลาท่วมหมดทั้ง 16 อำเภอ และอำเภอหาดใหญ่ท่วมสูงกว่าปี 2553ศูนย์ปฏิบัติการนํ้าอัจฉริยะ กรมชลประทาน (ไม่รู้ว่าอัจฉริยะจริงหรือไม่) เปิดเผยถึงสาเหตุของนํ้าท่วมใหญ่ภาคใต้ 10 จังหวัด ประชาชนเดือดร้อนกัน 6–7 แสนครัวเรือนว่า เกิดจากฝนตกหนักมากในหลายพื้นที่ วัดปริมาณฝนสะสม 24 ชม.ได้มากกว่า 300–500 มม. จังหวัดสงขลามีฝนตกหนักครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่ 21 พ.ย.วัดปริมาณนํ้าฝนได้ 335 มม. ซึ่งเป็นปริมาณฝนตกหนักในรอบ 300 ปี ปริมาณฝนสะสม 3 วันย้อนหลัง (19-21 พ.ย.) วัดได้สูงสุด 630 มม. (มากกว่าครั้งนํ้าท่วมใหญ่ปี 2553 ที่มีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 428 มม.) มีนํ้าท่วมในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่สูงเฉลี่ย 0.50–2.50 เมตร (แต่วันจันทร์ท่วมสูงเกิน 3 เมตรแล้ว)ผมเห็นว่า ข้อมูลฝนตกหนักที่สุดในรอบ 300 ปี ของ ศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะ กรมชลประทาน เป็นข้อมูลที่มั่ว 300 ปีก่อนยังไม่รู้กรมชลประทานเป็นตัวอะบีมาอยู่ไหน กรุงรัตนโกสินทร์ก็เพิ่งตั้งมาได้แค่ 242 ปี กระทรวงทบวงกรมก็เพิ่งมีในสมัยรัชกาลที่ 5 ไม่มีใคร เก็บข้อมูลฝนตกเมืองหาดใหญ่ย้อนหลัง 300 ปี อย่างที่อ้างแน่นอนการอ้างข้อมูลแบบนี้ เป็นการโบ้ยความผิดให้ธรรมชาติ ทั้งที่ เป็นความผิดพลาดในการบริหารจัดการนํ้าของกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรฯ โดยตรง ไม่อายเทวดาฝนฟ้าก็อายแมลงจิ้งหรีดมันบ้างนะครับ ผลงานแย่แล้วยังโบ้ยซี้ซั้วอีก.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม