ปี่กลองเลือกตั้ง จ่อเชิดระรัว Coming Soon รับสัญญาณ “นายกฯหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ส่งซิกพร้อมยุบสภาวันที่ 12 ธ.ค. ที่เปิดสมัยประชุมสภาฯรอบใหม่ หากฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 แต่หากยื่นซักฟอกตามมาตรา 152 ก็พร้อมจะชี้แจงคิววัดใจ 2 พรรคหลักฝ่ายค้าน “เพื่อไทย—ประชาชน” จะกล้าลุยสุดซอยแค่ไหนฝ่ายเพื่อไทยออกแอ็กชันปากกล้า แต่ขาสั่น ตามสภาพหน้างานอ่อนเปลี้ยลงเรื่อยๆ หลัง “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดนวิบากกรรมไล่ล่า ติดบ่วง 2 คดีใหญ่เพิ่ม กรณีอัยการสูงสุดอุทธรณ์คดีความผิดมาตรา 112 และกรณีศาลฎีกาพิพากษากลับ ให้กรมสรรพากรเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ปฯ 1.76 หมื่นล้านบาทเสี่ยงทั้งติดคุกเพิ่ม และรีดภาษีอีกหมื่นกว่าล้าน โอกาสริบหรี่ได้รับพักโทษ วืดออกมาบัญชาการทัพเลือกตั้ง กระทบความเชื่อมั่นและขวัญกำลังใจลูกทีมกระตุ้นอาการจิตตกพวกที่ยังลังเล ตัดสินใจง่ายขึ้น หนีไปตายดาบหน้า หาสังกัดใหม่ เพื่อความอยู่รอดในสนามเลือกตั้งรอบหน้าสถานการณ์พรรคเพื่อไทยกระเพื่อมไม่หยุด ยังไม่รู้เลือดจะทะลักออกอีกแค่ไหนสส.พะวักพะวงอนาคตของตัวเอง ก็ไม่รู้จะมีสมาธิแน่วแน่กับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจมากน้อยเพียงใดขณะที่ฟากพรรคประชาชนก็กลืนไม่เข้า คายไม่ออก วางตัวไม่ถูกจะเลือกเล่นบทฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ตรวจสอบหรือฝ่ายค้ำ ช่วยประคองรัฐบาลเสียงข้างน้อยในภาวะที่ภารกิจหลักค่ายส้ม การแก้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เดินทางมาได้แค่ครึ่งๆกลางๆ กว่าจะพิจารณาเสร็จสิ้นวาระ 3 ต้องลากไปถึงปลายปี 2568แต่เนื้อหาสูตร 20 หยิบ 1 ที่ใช้เฟ้นคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 35 คน มีแนวโน้มเป็นใจให้พรรคประชาชนได้เปรียบ ในฐานะพรรคตัวเต็งชนะเลือกตั้งรอบหน้า มีโอกาสยึดโควตา กมธ.ยกร่างฯมากที่สุด ได้เป็นฝ่ายคุมเกมยกร่างกติกาประเทศฉบับใหม่หากถูกชิงยุบสภาระหว่างทาง ก่อนร่างรัฐธรรมนูญจะแก้ไขเสร็จ เท่ากับทิ้งโอกาสทองการเป็นแกนนำหลักคุมการแก้กติกาสูงสุดหลังการเลือกตั้ง ปล่อยการแก้รัฐธรรมนูญเสียของ“นายกฯหนู” จับรัฐธรรมนูญเป็นตัวประกัน กดดันพรรคประชาชนห้ามกระเหี้ยนกระหือซักฟอกท่าทีค่ายแดง-ส้มได้แค่ออกลูกข่มเสียงดัง แต่ลังเลแตกหัก ยังไม่รู้จะเดินไปในแนวทางเดียวกันได้หรือไม่เหลี่ยมเขี้ยวค่ายน้ำเงินใช้กลยุทธ์ยุบสภาโยงการแก้รัฐธรรมนูญ บล็อกการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ยืดลมหายใจให้รัฐบาลเสียงข้างน้อยโชว์แอ็กชันสมจริงสมจัง ขู่ยุบสภาแก้เกมซักฟอก โชว์ความครบเครื่องพรรคภูมิใจไทยพร้อมลงสนามเลือกตั้งเต็มที่ ออกสเต็ปพลังดูด สส.บิ๊กลอต เน้นกลุ่มบ้านใหญ่เข้าสังกัด อาทิ รวมกลุ่มตัวตึง จ.ชลบุรี มาร่วมทัพ สลายขั้วอำนาจเก่า “บ้านใหญ่—บ้านใหม่” เหลือแค่กลุ่มบ้านเราแม้กระทั่งดีลฮือฮาดึง “เดอะท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ทิ้งมรดกเตี่ย นำ สส.นครปฐมและสุพรรณบุรี ย้ายมาอยู่ พรรคภูมิใจไทยภาวะขาขึ้น “ภูมิใจไทย” ที่ สส.ต่างค่ายแห่ไปถ่ายรูปกับ สส.สีน้ำเงิน โชว์สัญญาณอยากย้ายร่วมทีมล่าสุดชิงเปิดตัว เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง และ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ขึ้นแท่นแคนดิเดตนายกฯลำดับที่ 2 และ 3 พรรคภูมิใจไทยดึงรัฐมนตรีมือดีที่กำลังเนื้อหอม เติมแต้มบวกด้านเศรษฐกิจ หวังผลเพิ่มเรตติ้ง สร้างความมั่นใจให้ประชาชน ล่อใจเหล่าบ้านใหญ่ให้รีบมาเข้าพรรคเพิ่มเติมภูมิใจไทยเล่นใหญ่ก่อนใคร โชว์ความครบเครื่องทั้งคน กระแส กระสุน ท้าทายฝ่ายค้าน กล้าประกาศยุบสภาช่วงไหนก็ได้ เพราะประเมินแล้วได้เปรียบทุกทางตามบริบทหน้างานที่ไม่เสียเปรียบพรรคใด มีภูมิต้านทานแข็งแกร่งสุด พร้อมทั้งในแง่ผู้สมัคร สส. การคุมเกมโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด เตรียมพร้อมรับเลือกตั้ง ขณะที่โครงการคนละครึ่งพลัสก็ติดลม ชาวบ้านชื่นชอบ เตรียมเปิดเฟส 2 ตุนแต้มต่อจะยุบสภาตามกำหนด 4 เดือน หรือเร็วกว่าวันที่ 31 ม.ค.2569 ก็ไม่ตกเป็นรอง เสียเปรียบพรรคใดตรงกันข้ามกับคู่แข่งพรรคเพื่อไทยที่อยู่ในสภาวะร่อแร่ เลือดไหลออกไม่ขาดสาย 3 แคนดิเดตนายกฯยังรีรอไม่กล้าเปิดตัว ขณะที่นายใหญ่ก็ส่อเค้าอาจถูกขังยาวโอกาสเพลี่ยงพล้ำสูงในการเลือกตั้ง เหลือยอด สส.ไม่ถึงร้อยคนเกมอำนาจส่อหลุดมือ สส.อาจไม่ได้ตามเป้า แก้รัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ดั่งหวัง เจ็บตัวหนักกว่าใคร!!!ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม