ประเทศไทยยังเป็นฐานการผลิต หลักของโลก “ด้านอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากแรงหนุนของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) การขยายตัวของดิจิทัล และเทคโนโลยี AI ผลักดันให้ความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกเพิ่มขึ้นสิ่งเหล่านี้ “ล้วนพึ่งพาเซมิคอนดักเตอร์” อันเป็นหัวใจของวงจรทำหน้าที่ประมวลผล และควบคุมการทำงานในอุปกรณ์ตั้งแต่สมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์, AI Server, Data Center ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า และรถยนต์ทำให้อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง รศ.ดร.ภานวีย์ โภไคยอุดม อธิการบดี ม.เทคโนโลยีมหานคร บอกว่า เซมิคอนดักเตอร์เป็นสารกึ่งตัวนำใช้ทำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ “ในกระบวนการออกแบบชิป” กลายเป็นวัสดุควบคุมการไหลของกระแสไฟฟ้าในระบบอิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดทำให้ตลาดอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในช่วงหลังมานี้เติบโตอย่างมากมาจาก 2 ปัจจัย คือ 1.การเติบโตเทคโนโลยี AI ซึ่งต้องอาศัยการประมวลผลจากเซิร์ฟเวอร์ และศูนย์ข้อมูล (Data Center) จำนวนมหาศาลปัจจัยที่ 2.“การขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า” ที่ต้องใช้ชิปและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่ระบบขับเคลื่อน การควบคุมพลังงานไปจนถึงระบบความปลอดภัยที่ต้องใช้ชิปเป็นหัวใจสำคัญ ส่งผลให้ 2 ปัจจัยนี้เป็นตัวขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วถ้าเทียบกับในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา “ตลาดเซมิคอนดักเตอร์แทบจะถึงจุดอิ่มตัว” จนการเติบโตไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่พอเทคโนโลยี AI และรถยนต์ EV เข้ามาก็เหมือนเป็นแรงกระตุ้นครั้งใหญ่ให้อุตสาหกรรมด้านนี้พุ่งขึ้นตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ จนมีความต้องการบุคลากรในการผลิตงานทางด้านนี้เพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาลทั่วโลก สังเกตจากปัจจุบันอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ถูกขับเคลื่อนจาก “สหรัฐฯ จีน และไต้หวัน” โดยไต้หวันมี TSMC ผลิตชิปให้บริษัทอย่าง Nvidia เป็นผู้นำด้าน AI “จีน” ก็มุ่งพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า “สหรัฐฯ” ต้องการดึงอุตสาหกรรมกลับประเทศก็เชิญ TSMC ไปตั้งโรงงานในอริโซนาพร้อมกับการขยายของ Intel ด้วยเมื่อเป็นเช่นนี้ “ก.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)” ก็จัดตั้งโครงการ National Sandbox : Semiconductor Degree ขึ้นมาใน 15 มหาวิทยาลัยอันเป็นหลักสูตรระดับ ป.ตรี ซึ่งออกแบบมาสำหรับตอบโจทย์อุตสาหกรรมในระยะสั้น และระยะกลาง เพื่อให้สามารถป้อนบุคลากรเข้าสู่อุตสาหกรรมได้อย่างรวดเร็วจุดเด่นคือ “เป็นหลักสูตรเร่งรัด 3 ปี” โดยเรียนในมหาวิทยาลัย 2 ปี และปีสุดท้ายไปฝึกงานจริงในโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้ อว.มีแนวคิดตั้งศูนย์ National Semiconductor Training Center เพื่อสนับสนุน Sandbox ในการฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรระดับ ปวส. และแรงงานที่ถูกหยุดชะงักอย่างอุตสาหกรรมยานยนต์เครื่องสันดาปกลายเป็นว่า “นโยบาย Training Center” อัปสกิลบุคลากรตอบโจทย์อุตสาหกรรมที่มีอยู่ 3 ศูนย์ คือ ม.เทคโนโลยีมหานคร ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง แต่ละแห่งทำงานเชื่อมโยงครอบคลุมทั้งระบบ และ ม.เทคโนโลยีมหานครก็ร่วมมือ Arizona State University (ASU)ในการเปิดโอกาสให้นักศึกษาไทยเข้าถึงองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ระดับสากล เพื่อเสริมสร้างทักษะต่อการก้าวสู่ความสำเร็จในโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศไทยตั้งเป้าหมายให้เกิดอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในไทย 5 ปีจะต้องมีอุตสาหกรรมนี้ 5 บริษัท แล้วใน 1 ปีต้องผลิตบุคลากร 800 คนและใน 5 ปีต้องมีสายการผลิตโอเปอเรเตอร์ และวิศวกรเซมิคอนดักเตอร์ทดแทนที่ขาดแคลนกว่า 2 แสนคน ซึ่งตัวเลขนี้สอดคล้องข้อมูล BOI ในความต้องการแรงงานของอุตสาหกรรมที่เข้ามาลงทุนในไทย“หากวันนี้ต้องการดึงอุตสาหกรรมเข้ามาในไทยต้องพัฒนาบุคลากรด้านเซมิคอนดักเตอร์ให้สามารถรักษาอุตสาหกรรมไว้แล้ว ม.เทคโนโลยีมหานครอยู่ภายใต้ อว.ก็ให้ความสำคัญในการพัฒนากำลังคนที่มีแผน 5 ปีจะผลิตบุคลากร 8 หมื่นคนในสาขาเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมในประเทศ” รศ.ดร.ภานวีย์ ว่าความท้าทายคือ “เด็กไทยสาย STEM มีน้อย” ทำให้เกิดปัญหาการสร้างกำลังคนเข้าสู่อุตสาหกรรมจนบริษัทต่างชาติอย่างจีนต้องนำแรงงานเซมิคอนดักเตอร์เข้ามาด้วยทั้งที่เขาต้องการใช้แรงงานไทยจากต้นทุนต่ำกว่า และไม่มีปัญหาด้านภาษา ขณะที่เวียดนามกลับไม่มีปัญหาในด้านแรงงานสาขานี้จาก 80% เด็กเรียนสายวิทย์-คณิตเพียงแต่โมเดลเวียดนามไม่ยั่งยืนเพราะมุ่งผลิตบัณฑิตป้อนสู่อุตสาหกรรมเป็นหลัก “ไม่ได้สร้างนวัตกรรมมูลค่าเพิ่มในระบบ” ดังนั้นไทยต้องวางแนวพัฒนาระดับ ป.โท ป.เอก เน้นสร้างความรู้ นวัตกรรม งานวิจัยพัฒนาชิป Made in Thailand, คอนโทรลเลอร์, CPU หรืออุปกรณ์ไบโอเมดิคัลสามารถประยุกต์กับเซมิคอนดักเตอร์ได้เช่นนี้ระยะยาว “ไทยต้องพัฒนากำลังคนขั้นสูงระดับ ป.โท ป.เอก” เพื่อวางรากฐานอนาคตสู่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ส่วน ป.ตรีทำหน้าที่สนับสนุนภาคอุตสาหกรรมในฐานะโอเปอเรเตอร์หรือวิศวกรหน้างานแต่การลงทุนผลิตบุคลากรตามความต้องการของอุตสาหกรรมจะสำเร็จได้นั้นต้องมี 4 ภาคส่วนร่วมกันคือ ภาครัฐ มหาวิทยาลัย อุตสาหกรรม และต้องเพิ่มภาคสังคมเข้ามาด้วย เพราะคนมักไม่เข้าใจว่าเซมิคอนดักเตอร์คืออะไร จำเป็นต้องสร้างความเข้าใจในระดับครอบครัวว่าเซมิคอนดักเตอร์เป็นอาชีพแห่งอนาคตของประเทศเพื่อให้ผู้ปกครอง และเด็กไม่รู้สึกกลัวมองว่า “สายนี้เรียนยาก” แล้วด้วยจากปัญหาต้นทางของเด็กไทยเรียนสายวิทย์น้อยจึงต้องเตรียมตั้งแต่ระดับอนุบาลถึง ม.6 เพื่อให้เด็กคุ้นเคยกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีตั้งแต่เล็ก และวางรากฐานสู่การพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงในอนาคตเรื่องนี้ อว.ก็พยายามขยายการพัฒนาบุคลากรในการสร้างความตระหนัก “ด้านอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์” ตั้งแต่เด็กเล็กผ่านโรงเรียนสาธิตในสังกัด และต่อยอดไปโรงเรียนทั่วไป เพื่อสร้างความตระหนักรู้พัฒนาบุคลากรตั้งแต่ต้นน้ำในระบบการศึกษา และอีก 50% มุ่งอัปสกิลคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดิมเข้าสู่เทคโนโลยีใหม่ฉะนั้นทั้งหมดนี้เป็นการเตรียมพร้อมรองรับอุตสาหกรรมที่กำลังจะเข้ามาลงทุนในไทย โดยสร้างกำลังคนตั้งแต่ระดับเด็ก นักศึกษา ไปจนถึงแรงงานในอุตสาหกรรมเดิม เพื่อให้ประเทศมีบุคลากรพร้อมทั้งด้านทักษะ เทคโนโลยี นวัตกรรม ตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรมได้อย่างครบวงจร.คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม