“อาณาจักรคิงส์โรมัน” ฐานปฏิบัติการ ใหม่สแกมเมอร์ฝั่งลาว..ผึ้งแตกรัง “คอลเซ็นเตอร์เขมร” ย้ายถิ่นสู่เมืองใหม่คิงส์โรมัน มาเก๊าแห่งลุ่มน้ำโขง โลกจับตา..ลาวถูกห้อมล้อม ด้วยฐานสแกมเมอร์หลอกเหยื่อ เทรดหุ้น สแกนหน้า ข่มขู่คุกคาม“SEE TRUE” ทีมข่าวสืบสวนสอบสวน ไทยรัฐทีวี นัดพบชายคนหนึ่ง เขาคือเหยื่อแก๊งสแกมเมอร์ฝั่งลาว พาเราขับรถตระเวนพื้นที่ริมฝั่งโขง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ตรงข้ามเมือง ต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ใกล้กาสิโนคิงส์โรมัน เพื่อชี้พิกัดจุดที่เขาเคยโดนหลอกให้ไปเปิดบัญชีม้าและถูกกักขังการเข้าสู่วังวนแก๊งสแกมเมอร์เขาถูกชักจูงจากเพื่อนคนสนิท ออกอุบายชวนไปทำงานเทรดหุ้น แต่พอข้ามไปฝั่งลาว นี่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของฝันร้ายเขาถูกจับขังในห้องเล็กๆ บนตึก 5 ชั้น ใกล้กับคิงส์โรมัน และถูกข่มขู่จากนายหน้า ระหว่างอยู่ที่นั่นตำรวจลาวเข้ากวาดล้างแก๊งสแกมเมอร์ เขาจึงได้รับการช่วยเหลือ หนีตายข้ามโขงกลับไทยได้สำเร็จ เขากล้าพูดเต็มปากว่าแก๊งสแกมเมอร์จากเขมร ได้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ทางลาวและภาคเหนือของไทยแล้วเพื่อตรวจสอบจุดที่ชายคนนี้ซัดทอดไปถึงกลุ่มทุนจีนฝั่งลาว ทีมงาน SEE TRUE แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว บุกสำรวจอาณาจักรคิงส์โรมัน เมืองที่ได้รับฉายาว่าคือ “มาเก๊าแห่งลุ่มน้ำโขง” เราสำรวจบนถนนริมแม่น้ำโขง ตึกขนาดใหญ่อยู่ระหว่างการก่อสร้างหลายตึก ถนนหนทาง ร้านอาหาร สถานบันเทิง ถูกเนรมิตเป็นเมืองใหม่ที่ทันสมัยข้อมูลจากสายข่าวภาคแรงงานในพื้นที่คิงส์โรมัน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานชาวเมียนมา ส่วนประชากรที่เหลือ 90% คือกลุ่มคนจีน อีก 10% คือคนลาวที่มาทำงานเป็นสแกมเมอร์และคอลเซ็นเตอร์ เราขับไปจนถึงวงเวียนแห่งหนึ่ง ถัดจากจุดนี้ไปคือ “รังแก๊งสแกมเมอร์” จุดที่เหยื่อได้ชี้ให้เราดูจากฝั่งไทยทีมงาน SEE TRUE ในลาวได้วิดีโอคอลคุยกับเหยื่อ เพื่อบอกเป้าชี้พิกัด ภาพรวมพิกัดนี้ มีลักษณะเป็นหมู่บ้านคนจีน มีตึกสีน้ำตาลราว 5 ชั้น ซึ่งเขายืนยันว่าถูกจับตัวไว้ที่นี่วันที่เราลงพื้นที่ ทุกอย่างดูเงียบสงัดผิดปกติ..กล่าวถึงวิธีการฟอกเงินของแก๊งสแกมเมอร์ฝั่ง สปป.ลาว หลังจากเหยื่อถูกหลอกให้ไปเปิดบัญชีม้าที่ลาวเงินที่โอนเข้า “บัญชีเหยื่อ” คือเงินจากการหลอกผู้เสียหายรายอื่นของกลุ่ม “สแกมเมอร์” และ “คอลเซ็นเตอร์” เมื่อผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชี เงินเหล่านี้จะเข้าสู่กระบวนการฟอกเงิน โดย “บอสชาวจีน” จะนำเงินดังกล่าวไปลงทุนต่อด้วยการซื้อหุ้น บิทคอยน์ และอื่นๆ จากนั้นจะเปลี่ยนสกุลเงินเป็นดอลลาร์ นับเป็นขบวนการฟอกเงินของธุรกิจสีเทาแบบครบวงจรเราขับรถสำรวจจุดถัดไปห่างจากจุดนี้เพียง 1 กิโลเมตร คือกาสิโนคิงส์โรมัน ที่นี่คือเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ก่อตั้งขึ้นในปี 2550 โดยกลุ่มดอกงิ้วคำ เป็นกลุ่มทุนจีนที่มี นายจ้าว เหว่ย เป็นประธานใหญ่ โครงการนี้ได้เช่าพื้นที่ 99 ปีผศ.ดร.ณัฐกร วิทิตานนท์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บอกว่า ก่อนหน้านี้ นายจ้าว เหว่ย เคยลงทุนทำธุรกิจกาสิโนอยู่ในเมืองลา ประเทศเมียนมา แต่เนื่องจากขณะนั้นธุรกิจตามแนวชายแดนถูกเพ่งเล็ง ทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปด้วยความยากลำบากจึงต้องมองหาที่ลงทุนใหม่ ในตอนแรก นายจ้าว เหว่ย สนใจลงทุนในพื้นที่อำเภอเชียงแสน แต่ด้วยกฎหมายไทย ไม่อนุญาตให้ทำกาสิโน เขาจึงต้องหาฐานใหม่ อยู่ที่ประเทศลาว บริเวณสามเหลี่ยมทองคำสำหรับการเข้ามาของกาสิโน เริ่มต้นเปิดในปี 2552 ตอนนั้นเป็นกาสิโนเล็กๆ แต่ตอนนี้เรียกได้ว่า พลิกโฉมจากหน้ามือเป็นหลังมือกลายเป็นเมืองใหม่ มีตึกรามแบบยิ่งใหญ่ และไม่ได้มีเพียงแค่กาสิโน ยังมีการลงทุนเรื่องอสังหาริมทรัพย์ ต้องมีการเชื้อเชิญนักลงทุนเข้ามาทำธุรกิจซึ่งบางครั้งนักลงทุนที่เข้ามาไม่ได้ใช้พื้นที่ไปตามวัตถุประสงค์ของการลงทุน จนทำให้บางพื้นที่อาจกลายเป็นแหล่งรวมของอาชญากรรมไซเบอร์ ที่เข้ามาหาลู่ทางทำมาหากิน ส่วนจุดเปลี่ยนสำคัญ คือช่วงโควิด-19 ระบาด ตอนนั้นกลุ่มธุรกิจสีเทาเริ่มก่อตัวอย่างเด่นชัด สแกมเมอร์และอาชญากรข้ามชาติย้ายถิ่นฐานเข้ามาใน สปป.ลาว มาพร้อมกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จึงกลายเป็นโอกาสและช่องทางให้แก๊งเหล่านี้ย้ายฐานเข้ามาตักตวงผลประโยชน์เช่น ช่วงที่เมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ถูกปราบปรามในปี 2019 ช่วงนั้นรัฐบาลจีนปราบปรามล้างบางแก๊งอาชญากรรมจีนที่แพร่กระจายไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างจริงจัง และส่งแรงกดดันต่อกัมพูชา จนรัฐบาลกัมพูชาประกาศในเดือน ส.ค. ปี 2019 ให้การพนันออนไลน์เป็นสิ่งผิดกฎหมายกลุ่มทุนจีนจึงเริ่มถอนทุนออกจากสีหนุวิลล์ ทำให้กลุ่มทุนเหล่านี้ต้องหาสถานที่ใหม่ที่สะดวกกว่า ซึ่งจากข้อมูลที่ตัวเองสำรวจ พบการเคลื่อนย้ายจากสีหนุวิลล์มาที่คิงส์โรมันด้วย พอมีการย้ายเข้ามาของทุนจีน ก็มาพร้อมกับเรื่องของสแกมเมอร์และธุรกิจสีเทาซึ่งทางการของประเทศลาวเอง ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการกวาดล้างกลุ่มเหล่านี้ไปแล้วหลายครั้ง แม้แต่สื่อทางการของตัวเศรษฐกิจพิเศษคิงส์โรมันก็ยังรายงานเรื่องการปราบปรามแก๊งสีเทาเหล่านี้ด้วย ก่อนเดินทางกลับ เรานั่งสังเกตการณ์บริเวณท่าเรือที่ “ตม.ฝั่งลาว” คนที่ข้ามฝั่งมาที่นี่ ล้วนแต่เป็น “ชาวจีน” จึงพอสรุปได้ว่า เกือบทุกตารางนิ้วใน “อาณาจักรคิงส์โรมัน” กลายเป็นมณฑลหนึ่งของประเทศจีนไปแล้ว.คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม