"เราถือว่าสิ่งที่เราได้มีข้อตกลงกันไว้ เพื่อเดินไปสู่การมีสันติภาพ มันจบลงแล้ว” เป็นคำประกาศของ นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล บนฐานปฏิบัติการอินทุมาน (ภูมะเขือ) “จากนี้ไปรัฐบาลไทยจะดำเนินการในสิ่งที่เห็นว่าเป็นประโยชน์สำหรับประเทศไทย เราได้หารือกับกองทัพได้ข้อสรุปค่อนข้างชัดเจน กระทรวงกลาโหมรับทราบอยู่แล้วว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไร ขณะนี้ 4 ข้อในปฏิญญาไทยไม่ต้องปฏิบัติแล้ว เราจะกำหนดแนวทางดำเนินการของตัวเอง รัฐบาลจะให้การสนับสนุนการดำเนินการของกองทัพอย่างเต็มที่”เป็นอันว่า “ปฏิญญาสันติภาพไทย–กัมพูชา” ที่ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯไทย ลงนามกับ ฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชา ที่กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ต่อหน้า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซีย ได้สิ้นสุดลงแล้ว เขมรละเมิดข้อตกลงในปฏิญญา ลักลอบส่งทหารเข้ามารื้อถอนแนวลวดหนาม วางทุ่นระเบิดในดินแดนไทย ทำให้ทหารไทยเท้าขาด 1 นาย บาดเจ็บอีก 3 นายสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งมี นายกฯอนุทิน เป็นประธาน ก็ได้มีมติเห็นชอบ ให้ระงับปฏิญญาสันติภาพไทย–กัมพูชาไว้ก่อน จนกว่ากัมพูชาจะเลิกเป็นปรปักษ์กับไทย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีกลาโหม แถลงว่า การกระทำของกัมพูชาเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ รัฐบาลจะปกป้องอธิปไตยชีวิตคนไทยและทหารไทยเต็มขีดความสามารถ ที่ประชุมสภาความมั่นคงมีมติให้ระงับการปฏิบัติตามปฏิญญาไว้ก่อนทั้งหมดทุกข้อ และยุติการส่งเชลยศึกให้เขมร เมื่อเรายุติการปฏิบัติตามปฏิญญาแล้ว ก็เป็นการปฏิบัติการทางทหารในเขตอธิปไตยของไทย ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้โฆษกสำนักนายกฯ คุณสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ แถลงผลการประชุม ครม.ว่า นายกฯได้สั่งการกระทรวงกลาโหม ให้ดำเนินการทางทหารเต็มที่เพื่อพิทักษ์รักษาผืนแผ่นดินไทย สั่งกระทรวงการต่างประเทศให้ดำเนินการทางการทูต ประท้วงและสื่อสารทำความเข้าใจกับประเทศต่างๆ สั่งปลัดกระทรวงมหาดไทยให้ทำความเข้าใจกับประชาชน 7 จังหวัดชายแดนกัมพูชาให้เตรียมพร้อมกรณีมีเหตุปะทะ สั่งกระทรวงศึกษาฯและหน่วยงานเกี่ยวข้องให้ทำแผนซักซ้อมในหลุมหลบภัยเพื่อรองรับกรณีฉุกเฉิน โดยให้ถือปฏิบัติอย่างเข้มข้นขณะที่ฝ่ายไทยแถลงข่าวกันคึกคัก ฝ่ายเขมรได้แพร่คลิปการเคลื่อนกำลังทหารไปยังแนวหน้า เตรียมทำศึกกับไทย แต่กองทัพไทยยังไม่มีข่าวการเคลื่อนไหวใดๆ มีแต่กระทรวงการต่างประเทศที่เชิญทูตานุทูตมาชี้แจง ท่ามกลางเสียงสนับสนุนของพรรคฝ่ายค้าน ทั้ง พรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย ต่างออกแถลงการณ์ประณามกัมพูชา เรียกร้องให้รัฐบาลพรรคภูมิใจไทย ของ นายกฯอนุทิน เร่งดำเนินการ เพิ่มความกดดันเขมรผ่านประชาคมโลก จี้ให้ยึดทรัพย์สแกมเมอร์ที่ใช้ไทยเป็นแหล่งฟอกเงิน ซึ่งเป็นฐานการเงินสนับสนุน “ฮุน เซน” ในประเทศไทย แต่รัฐบาลพรรคภูมิใจไทยก็ยังทำตัวชิวๆ ทั้งที่ สหรัฐฯ อังกฤษ ไต้หวัน สิงคโปร์ ต่างก็สั่งยึดทรัพย์เครือข่ายสแกมเมอร์ที่เกี่ยวข้องกับเขมรกันหมดแล้วเลยเกิดคำถามว่า รัฐบาลพรรคภูมิใจไทยกลัวอะไร จึงไม่กล้ายึดทรัพย์แก๊งสแกมเมอร์เขมรที่มาฟอกเงินในไทย ซึ่งเป็นฐานสนับสนุน รัฐบาลฮุน เซน เราจะปล่อย “กองกำลังไส้ศึก” ใช้ไทยเป็นฐานระดมทุนสนับสนุนรัฐบาลฮุน เซน มาเล่นงานไทยต่อไปอีกหรือผมเห็นด้วยกับ ข้อเสนอพรรคประชาชน และ คุณรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ที่เรียกร้องให้นายกฯอนุทินปฏิบัติการเชิงรุก กวาดล้างทุนเทาสแกมเมอร์ ตัดแขนขาเครือข่ายฟอกเงินในไทย เพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงผู้มีอำนาจทางการเมืองในกัมพูชาทันที และ สาวให้ถึงต้นตอมีใครอยู่ข้างหลัง เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และดำเนินการทูตเชิงรุก เพื่อให้เป็นฝ่ายได้เปรียบ แทนที่จะตั้งรับอย่างปัจจุบัน รวมทั้ง การติดตั้งกล้องวงจรปิดพื้นที่ชายแดน ตรวจจับการรุกล้ำของกัมพูชา ก็ไม่รู้รัฐบาลภูมิใจไทยจะรออะไร จะปฏิบัติการเมื่อไหร่ ทั้งหมดนี้ยิ่งทำเร็วเท่าไหร่ไทยก็ยิ่งได้เปรียบนะครับ ท่านนายกฯ.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม