นูซันตารา ที่ จ.กาลีมันตัน บนเกาะ บอร์เนียว ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นเมืองหลวงใหม่ของประเทศอินโดนีเซียแทนกรุงจาการ์ตา กำลังอยู่ในความเสี่ยงที่จะกลายเป็นเมืองร้าง หลังจากที่การก่อสร้างเมืองเป็นไปอย่างล่าช้าและมีการตัดงบประมาณสร้างเมืองด้วยเมื่อ 3 ปีที่แล้ว นายโจโก วิโดโด อดีตประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย ประกาศสร้างเมืองหลวงแห่งใหม่เนื่องจากกรุงจาการ์ตาประสบปัญหาความแออัดของประชากรที่มีมากถึง 30 ล้านคน รวมถึงมีปัญหามลภาวะเป็นพิษและน้ำท่วมจากปัจจัยเรื่องภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงหรือภาวะโลกร้อนแต่หลังจากนายปราโบโว สุเบียนโต ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของอินโดนีเซีย รับตำแหน่งเมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว งบประมาณภาครัฐในการก่อสร้างเมืองหลวงใหม่ นูซันตารา ลดลงกว่าครึ่ง จาก 2,647 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 86,000 ล้านบาท ที่ตั้งไว้ในปี 2567 เหลือเพียง 926 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 30,095 ล้านบาท ในปี 2568 ส่วนปี 2569 งบประมาณจะเหลือแค่ 397 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 13,000 ล้านบาทเท่านั้น ขณะที่งบประมาณภาคเอกชนในการลงทุนสร้างเมือง หลวงใหม่ลดลงต่ำกว่าที่ตั้งไว้ถึง 1,323 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 43,000 ล้านบาทนายเฮอร์เดียนสยาห์ ฮัมซาห์ นักวิชาการด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญของอินโดนีเซียประจำมหาวิทยาลัยมูลาวาร์มาน ใน จ.กาลีมันตัน บอกว่า ว่าที่เมืองหลวงใหม่แห่งนี้กำลังจะกลายสภาพเป็นเมืองร้าง ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์ต่างมองว่า นายสุเบียนโตไม่ได้สนใจจะเร่งพัฒนานูซันตาราให้เป็นเมือง หลวงใหม่แม้แต่น้อย โดยมุ่งเน้นความสำคัญกับนโยบายด้านอื่นๆ มากกว่า เช่น โครงการอาหารกลางวันฟรีให้กับนักเรียน ซึ่งเป็นโครงการเอกของนายสุเบียนโต ที่จะใช้งบ ประมาณสูงถึง 20,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 663,000 ล้านบาท ในปี 2569อย่างไรก็ตาม เมืองนูซันตาราอาจกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวก็เป็นได้ โดยนักท่องเที่ยวรายหนึ่งจากเกาะสุลาเวสีบอกว่า นูซันตารามีความคล้ายสิงคโปร์มาก เช่น ความสะอาด ทันสมัย และเป็นเมืองที่อยู่ใจกลางป่าลึกเรื่องทั้งหมดทั้งปวงนี้สะท้อนให้เห็นการขาดความต่อเนื่องของการสานต่อนโยบายใหญ่ในแต่ละประเทศเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล เพราะรัฐบาลชุดใหม่อาจไม่ให้ความสำคัญกับนโยบายของรัฐบาลเดิม โดยที่มีการลงทุนงบประมาณและเริ่มต้นโครงการไปแล้ว แต่กลับหยุดชะงักลง ดังเช่นแนวโน้มของเมืองหลวงใหม่อย่างนูซันตารา.ผู้เล็กน้อยคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม