วันนี้คงต้องขออนุญาตท่านผู้อ่านบันทึก “ปรากฏการณ์” ของสังคมไทย ซึ่งต้องถือว่ายิ่งใหญ่มากเพราะไม่เคยปรากฏขึ้นในลักษณะเช่นนี้มานานนักหนาแล้ว และอาจจะไม่เกิดขึ้นอีกเลยก็ได้ในวงการกีฬาของประเทศไทยเรานั่นก็คือเรื่องราวของ "ฟุตบอลนักเรียน" 7 คน ที่ช่อง 7 สีจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่ปีนี้ พ.ศ.2568 นัดชิงชนะเลิศระหว่างทีมโรงเรียน “หมอนทองวิทยา” กับ โรงเรียน อบจ.ชัยนาท ณ สนามศุภชลาศัย เมื่อบ่ายๆค่อนไปทางเย็น วันเสาร์ที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมานั้นมีแฟนๆแห่ไปดูชมสดๆถึง 3 หมื่นกว่าคน และเข้าสนามไม่ได้ต้องนั่งดูการถ่ายทอดสดอยู่นอกสนาม และที่หน้า อาคารนิมิบุตร หรือยิมเนเซียม 1 ที่อยู่ข้างๆสนามศุภฯอีกกว่า 5,000 คนถึงแม้จะเป็นการเปิดให้ดูฟรีก็เถอะ แต่สำหรับฟุตบอลเด็กๆ แบบนี้ได้คนสักครึ่งสนามศุภชลาศัยก็เก่งแล้ว นี่นอกจากเต็มยังล้นไปเต็มด้านล่างบริเวณขอบสนามทุกด้าน...อะไรจะขนาดนั้นสาเหตุแห่งความอยากดูอยากเชียร์นั้นชัดเจนแล้วว่ามาจากทีม โรงเรียนหมอนทองวิทยา ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ของกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งอยู่ที่ ตำบล หมอนทอง อำเภอ บางน้ำเปรี้ยว จังหวัด ฉะเชิงเทรา นั่นเองปกติแล้วเป็นม้านอกสายตา แต่สำหรับปีนี้ทีมฟุตบอล 7 คนของโรงเรียน ภายใต้การนำของโค้ช สกล เกลี้ยงประเสริฐ สามารถฝ่าด่านมาถึงรอบชิงชนะเลิศได้ด้วยการปราบทีมโรงเรียนดังๆหลายทีม เช่น เทพศิรินทร์, อัสสัมชัญธนบุรี, อัสสัมชัญศรีราชา จึงสร้างความฮือฮาและกล่าวขวัญถึงอย่างมากใน “โซเชียลมีเดีย”ที่สำคัญนอกจากโค้ช สกล เกลี้ยงประเสริฐ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีชื่อเสียงในแวดวงฟุตบอลนักเรียนมาก่อน เคยนำทีม สุรศักดิ์มนตรี เข้าชิง 5 ครั้ง คว้าแชมป์ได้ถึง 3 ครั้งในอดีตพอมาโค้ชให้หมอนทองวิทยา ท่านยังมีเอกลักษณ์ใหม่อีกประการหนึ่งคือ การขับ “รถขนฝัน” รถสองแถว 4 ล้อเก่าๆ ขนนักเตะ เดินทางไปเตะในที่ต่างๆ ชนะมาตลอด และปราบโรงเรียนดังมาหลายโรงเรียนดังกล่าว จึงทำให้ “รถขนฝัน” เลขทะเบียน “สระบุรี 83-2695” พลอยโด่งดังไปด้วยต่างๆนานาเหล่านี้เมื่อนำมารวมกันเข้า และบวกกับชัยชนะที่พลิกล็อก ล้มยักษ์มาตลอด ทำให้ทีม “หมอนทองวิทยา” กลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดีย มีแฟนๆโพสต์ให้กำลังใจอย่างล้นหลามทั้งโพสต์ทั้งแชร์ทั้งเชียร์ทีมหมอนทองวิทยาเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ จนแทบจะลืมพูดถึงทีม “นกใหญ่จูเนียร์” คู่ชิงไปเลยว่างั้น ทั้งๆ ที่นักเตะชัยนาทก็เคยมีประวัติว่าเข้าชิงแชมป์มาหนหนึ่งเมื่อปี 2566 แต่พ่ายแพ้ให้ทีม กันทรารมย์ ไป 0-2 แบบปวดใจหลังจากลุ้นกันว่าจะได้แข่งหรือไม่? จะเกิดเหตุอะไรหรือไม่? เพราะคนทะลักลงขอบสนาม--แต่ในที่สุดก็ได้แข่ง และผลจบลงด้วยชัยชนะเป็นของทีมโรงเรียน อบจ.ชัยนาท 2-1นำความเศร้าโศกเสียใจอย่างใหญ่หลวงมาสู่แฟนๆของหมอนทองวิทยาอย่างยิ่ง--แต่ในโซเชียลก็ยังกระหึ่มไปด้วยการโพสต์ปลอบใจ และให้กำลังใจหมอนทองวิทยาเป็นส่วนใหญ่ (และอัดฉีดเงินก้อนใหญ่) อีกเช่นเคย...สร้างความน้อยเนื้อต่ำใจให้แก่แฟนๆชัยนาทอยู่พอสมควรผมก็ขอปลอบใจทีมเขื่อนเจ้าพระยาว่า อย่าไปคิดอะไรมากเลยครับขอให้ภูมิใจในชัยชนะของทีมไปพลางๆก็แล้วกัน ยังไงๆ ถ้วยปีนี้ก็เป็นของท่านแล้ว ล้างอาถรรพณ์ที่เคยได้รอง แชมป์ มาหนหนึ่งในอดีตได้สำเร็จผมก็ขอทำหน้าที่ “บันทึกเหตุการณ์” เอาไว้ เพราะถือว่า เป็นปรากฏการณ์อีกประการหนึ่งที่เป็นผลมาจาก “โซเชียลมีเดีย” ที่ทรงพลังมหาศาลในโลกปัจจุบัน ยุคนี้สมัยนี้น่าจะทรงพลังกว่าสื่อใหญ่ด้านทีวีอย่างช่อง 7 สีเองด้วยซ้ำไม่ได้ดูถูกดูหมิ่นนะครับประสาสื่อด้วยกันตระหนักดีว่า สื่อทีวี สื่อวิทยุ สื่อหนังสือพิมพ์อย่างเราๆทุกวันนี้ “ชิดซ้าย” ให้แก่สื่อออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียทั้งหลายไปนานแล้วดังนั้น กรณี “หมอนทองวิทยา ฟีเวอร์” ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ถือว่า “ช่อง 7 สี” ทีวีเพื่อคุณ “ถูกหวยโซเชียล” ซะก็แล้วกันครับ."ซูม"คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม