ว่ากันด้วยชื่อชั้น พระกำแพงเม็ดขนุน “ตรียัมปวาย” จัดอยู่ในชุด เบญจภาคีมาก่อน แต่ต่อมา วงการพระเห็นพ้องต้องกันว่า พระกำแพงซุ้มกอ พระที่พบในกรุลานทุ่งเศรษฐีกำแพงเพชรด้วยกัน ส่วนสัดและขนาด น่าจะเข้าพวงเบญจฯได้เหมาะกว่า... ชื่อชั้นเม็ดขนุน...ก็ทำท่าจะจะจางๆหายแต่กระนั้น ก็ยังไม่ตัดท่านออกไปด้วยเหตุฉะนี้ วันนี้ พระกำแพงเม็ดขนุนก็ยังอยู่ในชุดเบญจภาคีคอลัมน์นี้ เคยเขียนถึงพระกำแพงเม็ดขนุน องค์สุดท้ายของเจ้าสัวชนะ...ซื้อเองตาเดียวด้วยเงินครึ่งแสน (ราคาผ่านเซียนขึ้นหลักล้าน) นับว่าเข้าแถวหน้าในยุทธจักร... ผมจำติดตา เป็นเม็ดขนุน ที่ติดพิมพ์คมชัดลึกกว่าหลายๆองค์สวย...ที่เคยเห็นจากหนังสือของวงการนึกถึงองค์นั้น แล้วลองมาเล็ง...กำแพงเม็ดขนุนองค์ในคอลัมน์วันนี้...เทียบเคียงกันดูว่า...ระดับความสวยคมสมบูรณ์ หากจะเป็นรองกันบ้าง ถ้าใช้สำนวนนักกีฬาวิ่ง...หายใจรดต้นคอวันนี้ผมรำคาญวิชา ป.4 ตัวเอง ขออนุญาตใช้วิชาครู...บังเอิญเจอหนังสือพระเครื่องพระยุกต์ ตรียัมปวายเขียน ใกล้มือ เล่มนี้ถือเป็นเล่มแรกๆ ที่ครูแต่งให้สำนักพิมพ์คลังวิทยา พิมพ์ขายเมื่อปี 2506ครูเริ่มต้น...พระกำแพงเม็ดขนุนทุ่งเศรษฐี มีอยู่ 3 ขนาด คือพิมพ์ทรงใหญ่ พิมพ์ทรงกลาง และพิมพ์ทรงย่อม ทั้ง 3 ขนาดนี้ ครูบอกว่า มีลักษณะทำนองเดียวกันทุกประการหนังสือเก่ายุคที่ครูเขียน เน้นพรรณนาเป็นภาษาหนังสือ ส่วนภาพพิมพ์ด้วยกระดาษปรู๊ฟสีน้ำตาล ทั้งเป็นภาพขาวดำ เห็นเป็นเค้าแล้วต้องใช้วิชา “มโน” ยุคนี้เรามีภาพสีชัดเจนดู จึงขอเลือกคัดย่อบางประเด็นที่เห็นว่า ควรจดจำ มาดูประกอบภาพพร้อมๆกันไปหัวข้อที่ครูพูดถึง ลำพระองค์ หรือบั้นพระองค์ (เอว) ครูอธิบาย เรียวคอดเล็กน้อย ปรากฏพระนาภี (สะดือ) เป็นรูบุ๋มเล็กๆ รอบรูบุ๋มของพระนาภี ปรากฏส่วนนูนขึ้นมาเป็นวงรอบอย่างงดงามพระบาทเบื้องซ้ายวางราบกับฐาน ปรากฏซ่นพระบาทยื่นไปเบื้องหลังเล็กน้อย พระบาทเบื้องขวา ซ่นพระบาทยาวและเขื่อง ข้อพระบาทคอด ปลายพระบาทเรียวเล็กมาก และงอนเชิดขึ้นข้างบน ครูวงเล็บบอกว่า ของปลอมจะมีลักษณะแข็งทื่อและเทอะทะพระอาสนะมีลักษณะง่ายๆ คือเป็นหน้ากระดานเรียบๆ ปรากฏ 2 ชั้น แบบหน้ากระดานเรียบๆวางซ้อนห่างกันค่อนข้างมาก หน้ากระดานตัวล่างหนากว่าตัวบนเรือนแก้ว ซุ้มเรือนแก้วมีลักษณะเป็นรอยเซาะลึก เป็นร่องแนวเดินรอบองค์พระปฏิมา ส่วนบนทำหน้าที่เป็นประภามณฑลไปในตัว พื้นที่ภายในวงล้อมของเรือนแก้ว ซึ่งเรียกว่าคูหานั้น ส่วนบนมีลักษณะเทลาดออกไปทุกด้าน และชะโงกง้ำออกมาข้างหน้าส่วนพื้นที่ภายในคูหาเบื้องล่างมีความตื้นกว่าเบื้องบน ร่องรางของซุ้มย่อมมีอาการคดเคี้ยวเล็กๆน้อยๆ ตามธรรมชาติของเนื้อดินอ่อนๆ ซึ่งพิมพ์กับแม่พิมพ์ลักษณะของส่วนหลัง อาจแยกได้ 4 ลักษณะ...โค้งหลังเต่า คือโค้งน้อยๆทำนองเดียวกับพระรอดหรือพระคง หลังรอยกดสามลอน เป็นรอยนิ้วหัวแม่มือกดสามรอยเรียงกัน ของปลอมปรากฏหลังลักษณะนี้มาก หลังรอยคลื่นบิดเบี้ยว กำหนดแบบแน่นอนไม่ได้ แต่มักจะมีริ้วรอยย่นเป็นริ้วๆทั่วไป หลังราบเรียบ มิใช่มีลักษณะเรียบเป็นหน้ากลอง หากมีอาการโค้งนิดๆ โดยเฉพาะตอนที่ใกล้ขอบมาถึงการพิจารณาทางเนื้อ ครูบอกว่า ความละเอียด ความนุ่ม ความแกร่ง ใกล้เคียงกับผงสุพรรณ พระซุ้มกอ พระรอด แต่หากเทียบเรื่องน้ำหนัก กับสัดส่วนพระเท่าๆกัน เนื้อพระเม็ดขนุนมีน้ำหนักสูงกว่า พระนางพญา พระรอด พระผงสุพรรณ. พลายชุมพลคลิกอ่านคอลัมน์ “ปาฏิหาริย์จากหิ้งพระ” เพิ่มเติม