ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ต้องลุ้นกันว่ารัฐบาลจะอยู่ถึงมกราคม 2569 หรือไม่ ตามเอ็มโอเอที่ตกลงกันไว้ “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี ยืนยันนอนยันมาตลอดว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลงไม่มีบิดพริ้ว เพราะเป็นสัญญาลูกผู้ชายคำไหนก็เป็นคำนั้นเป็นความผูกพันที่มิใช่กับพรรคประชาชนเท่านั้นแต่หมายถึงประชาชนด้วยในฐานะสักขีพยานแต่การเมืองก็คือการเมือง หากจะเบี้ยวหรือบิดพริ้วก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว โดยอ้างเหตุผลไปต่างๆนานาตามลีลานักการเมืองเพราะประโยชน์ของเขาคือเงื่อนไข สำคัญก็ไม่แปลกที่วันนี้...“อนุทิน” จะบอกว่าเขาจะยุบสภา หากมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะเขามีอำนาจไม่ยอมให้ใครมาด่าฟรีๆ!ก็เป็นอย่างนี้แหละ...นักการเมืองประเด็นมันอยู่ที่ว่าเวลานี้การแก้ไข รัฐธรรมนูญว่าด้วยการทำประชามติ กำลังเดินหน้าและเป็นความต้องการสูงสุดของพรรคประชาชนหาก “ยุบสภา” ก่อนทุกอย่างก็จบ“เพื่อไทย” นั้นแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องการ แต่ไม่มากเท่ากับการได้อำนาจรัฐอยู่ในมือก่อนเลือกตั้ง ดังนั้นการซักฟอกรัฐบาลจึงเป็นเหตุผลที่เหนือกว่าสำคัญกว่า!การที่ “อนุทิน” บอกว่าหากมีการ ยื่นซักฟอกรัฐบาลจะ “ยุบสภา” นั้น ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าซักฟอกใคร“นายกรัฐมนตรี” ใช่หรือไม่?ถ้าเป็นนายกรัฐมนตรีก็แน่นอนแต่ถ้าไม่ใช่นายกรัฐมนตรี แต่เป็นรัฐมนตรีคนอื่นจากพรรคอื่นจะ “ยุบสภา” หรือไม่...นี่ก็ยัง เป็นคำถามหากยื่นซักฟอก “ธรรมนัส พรหมเผ่า” ประเด็นสแกมเมอร์เพียงคนเดียว “อนุทิน” จะตัดสินใจอย่างไร ย่อมเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยเพราะถ้าเป็นอย่างนั้น นายกรัฐมนตรีไม่ “ยุบสภา” การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เดินหน้าต่อไปได้ประเด็นมันอยู่ที่!“ธรรมนัส” ต้องถูกไม่ไว้วางใจแน่ เพราะเสียงของฝ่ายค้านนั้นมากกว่ารัฐบาลอยู่แล้ว อีกทั้งเป็นการแก้ปัญหาที่รัฐบาลกำลังเผชิญอยู่เพราะ “มิสเตอร์แป้ง” กำลังถูก ฝ่ายค้านคือ “ประชาชน” โจมตีว่าพัวพันกับแก๊งสแกมเมอร์จนสั่นคลอนรัฐบาลที่ “อนุทิน” เจอศึกหนักจนแก้ไม่ออกบอกไม่ถูกนี่จึงเป็นเรื่องที่จะ “ซื้อใจ” กันระหว่างคนใหญ่ในรัฐบาลความจริงเรื่องนี้ฝ่ายค้านน่าจะทำแบบนี้ เพราะไม่ได้เสียอะไร เป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลตามปกติยิ่งมีหัวเชื้ออยู่ด้วยก็ยิ่งชอบธรรมยิ่งนักเพียงแต่...มันจะเป็นการวัดใจ “อนุทิน” กับ “ธรรมนัส” มากกว่าก็ไม่แปลก “ธรรมนัส” จะเข้าหา “อนุทิน” คุยกันสองต่อสองที่ทำเนียบรัฐบาล แม้ยังไม่รู้ว่าคุยอะไรกันบ้างแต่ความน่าจะเป็นคงมีการพูดถึงเรื่องนี้แน่เพื่อจะได้รู้ว่า “อนุทิน” คิดอย่างไรจะได้แก้เกมทันท่วงทีอีกทั้งเป็นการวัดใจว่าจะร่วมหอ ลงโรงกันต่อไปได้หรือไม่การเมืองมันต้องรู้เท่าทันกันทุกดอก...มิฉะนั้นเสียท่าได้ง่ายๆ!"ลิขิต จงสกุล"คลิกอ่านคอลัมน์ “สับรางวันอาทิตย์” เพิ่มเติม
