เมื่อวันที่ 5 พ.ย. นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยผลการประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ว่า ที่ประชุมติดตามงานต่างๆที่ได้มอบหมายไป เช่น นโยบายการฟอกไตฟรี ซึ่งได้รับการตอบรับจากสถานบริการเป็นอย่างดี ไม่มีการเก็บเงินจากผู้ป่วย ทั้งเตรียมการสร้างขวัญและกำลังใจให้บุคลากร เช่น ปรับแผนกระจายบุคลากรลงไปในพื้นที่ขาดแคลน โดยเพิ่มแรงจูงใจทั้งรูปแบบเงิน ค่าตอบแทน และสวัสดิการอื่นๆ เช่น บ้านพักที่มีคุณภาพ จะนำร่องพื้นที่ชายแดนก่อนนายพัฒนา กล่าวต่อว่า แนวทางเพิ่มรายได้ให้กับโรงพยาบาลรัฐนั้น จากการหารือร่วมกับสมาคมประกันภัยและสมาคมประกันชีวิต ที่จะผลักดันให้มีการทำประกันภัย ประกันชีวิต ประกันสุขภาพนั้น การหารือเป็นไปในทิศทางบวก โดยอาจทำให้รูปแบบคล้ายแพ็กเกจโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มสิทธิประโยชน์บางช่วงเวลา หรือบางพื้นที่ ในโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่หรือพื้นที่ภูมิภาค ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ประชาชนเดินทางข้ามจังหวัดค่อนข้างน้อย ก็อาจมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์จากสิทธิเดิมที่ประชาชนมีอยู่ จะทำให้เบี้ยประกันไหลเข้าโรงพยาบาลรัฐทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยคาดหวังว่าเบี้ยประกันของประชาชนจะลดลง ซึ่งอาจจะจัดโซนพิเศษภายในโรงพยาบาล หรือคลินิกพรีเมียมก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการอำนวยความสะดวกเช่นกัน ส่วนตัวคาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับโรงพยาบาลรัฐเป็นหลัก 10,000 ล้านบาทได้ส่วนกรณีองค์กรแพทย์ 4 ภาค ชมรม รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป และบุคลากรการแพทย์ส่วนหนึ่งวิพากษ์วิจารณ์ถึงมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กรณีแก้ปัญหางบผู้ป่วยใน (IP) เป็นแนวทางเฉพาะหน้า และแก้ปัญหาแบบปีต่อปี แทนที่จะปฏิรูป สปสช.นั้น นายพัฒนา กล่าวว่า ปัญหาเฉพาะหน้าได้แก้ไขแล้ว ส่วนปัญหาเชิงโครงสร้างหรือจะเรียกว่าปฏิรูปก็ได้ กำลังอยู่ระหว่างกลัดกระดุมเม็ดที่ 1 เม็ดที่ 2 เม็ดที่ 3 แม้ตนมีเวลาทำงานน้อย แต่ นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัด สธ.มีเวลาอีกนาน รับรองแก้ไขได้.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่