2 จังหวัดไทยดังก้องโลก ได้รับประกาศ “เมืองสร้างสรรค์” ของยูเนสโก ปี 2568 “น่าน” สาขาหัตถกรรม และศิลปะพื้นบ้าน “สงขลา” สาขาวิทยาการอาหาร วธ.สั่งเดินหน้ารุกเติมศักยภาพทุนวัฒนธรรม เชื่อมโยงอีก 7 เมืองสร้างสรรค์ไทย ตามแนวทางนโยบาย “ไท ไทย” เพื่อสร้างรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น โกยรายได้เข้าประเทศเรื่องราวน่ายินดีของประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลครั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยว่า ตามที่ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ได้ประกาศรับรองให้ 2 เมืองของประเทศไทย ได้แก่ จ.น่าน และ จ.สงขลา เข้าร่วมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network- UCCN) ประจำปี พ.ศ.2568 จาก 58 เมือง จาก 41 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุม 8 สาขาความสร้างสรรค์ จ.น่าน ได้รับการประกาศในสาขาหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน (Crafts and Folk Art) และ จ.สงขลา ในสาขาวิทยาการอาหาร (Gastronomy) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง นับเป็นการตอกย้ำศักยภาพของทุนทางวัฒนธรรมไทยที่มีความโดดเด่นและยั่งยืนของทั้ง 2 จังหวัด สอดคล้องกับนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยรมว.วัฒนธรรมกล่าวต่อว่า การเข้าร่วมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกจะช่วยส่งเสริมให้เมืองน่านและสงขลา ได้พัฒนาและต่อยอดมรดกทางวัฒนธรรมท้องถิ่นสู่ระดับนานาชาติ ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ใช้วัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์เป็นหัวใจหลักของการพัฒนาเมือง ความสำเร็จของน่านและสงขลาในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นเกียรติและความภูมิใจของท้องถิ่น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกจังหวัด เห็นถึงคุณค่าของทุนวัฒนธรรมของตนเอง ที่สามารถพัฒนาและสร้างรายได้อย่างภาคภูมิ“วธ.จะใช้โอกาสนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมของเมืองต่างๆทั่วประเทศ โดยเฉพาะเมืองที่ได้รับการรับรองให้เป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์แล้ว ได้แก่ ภูเก็ต (ด้านวิทยาการอาหาร) เชียงใหม่ (ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน) กรุงเทพมหานคร (ด้านการออกแบบ) สุโขทัย (ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน) เพชรบุรี (ด้านวิทยาการอาหาร) เชียงราย (ด้านการออกแบบ) สุพรรณบุรี (ด้านดนตรี) รวมทั้งน่าน (ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน) และสงขลา (ด้านวิทยาการอาหาร) พัฒนาต่อยอดให้เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ตามแนวทางนโยบาย “ไท ไทย” เพื่อสร้างรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น โดยเฉพาะการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม และการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ยั่งยืน เพื่อให้วัฒนธรรมไทยเป็นทั้งพลังสร้างสรรค์ทางเศรษฐกิจและเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยในเวทีโลกต่อไป” รมว.วัฒนธรรมกล่าวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่