เคาะเลือกหัวขบวน ได้ตัวผู้นำคนใหม่เรียบร้อย ที่ประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อไทย ลงมติท่วมท้น 354 เสียง เลือก “หนิม” นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ และอดีต รมช.คลัง ขึ้นแท่นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คนที่ 9“หัวหน้าหนิม” นอนมา เก้าอี้ผู้นำพรรคไม่พลิกโผ อยู่ในกลุ่มแคนดิเดตที่คาดการณ์กันไว้ล่วงหน้ามี ประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.บัญชีรายชื่อ คัมแบ็กกลับมานั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรค ไว้เชื่อมต่อกับ สส.อีสาน ที่เป็นฐานเสียงขุมกำลังหลักในการเลือกตั้งขณะที่อดีตเลขาธิการพรรค สรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว ขยับขึ้นเป็นรองหัวหน้าพรรค ร่วมกับตัวเก๋าคนอื่นๆ อาทิ นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ มือกฎหมายพรรค นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ นางมนพร เจริญศรี อดีต รมช.คมนาคมส่วนแกนนำรุ่นใหม่ อย่างนายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.แรงงาน นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล อดีต รมช.คลัง นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย นายจเด็ศ จันทรา สส.พิษณุโลก ยกแผงเป็นรองหัวหน้าพรรคแม้กระทั่งเหล่าตัวจี๊ดสายเสื้อแดง ก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ ก็ได้เกาะขบวนเป็นรองหัวหน้าพรรค นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคเตรียมดัน นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ แกนนำรุ่นใหญ่ ที่มีข่าวเป็นคู่ชิงดำเก้าอี้หัวหน้าพรรค ขึ้นเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ลุ้นขึ้นบัญชีเป็นแคนดิเดตนายกฯรอบหน้าเพื่อไทยเข้าสู่ยุคยกเครื่องใหม่ ปรับโฉมผสมผสานรุ่นเก่า รุ่นกลาง และเลือดใหม่ เกลี่ยโควตาคณะกรรมการบริหารพรรคกระจายไปตามภาค และกลุ่มก๊วนการเมืองต่างๆให้ “จุลพันธ์” ในฐานะแกนนำคนรุ่นกลาง เป็นตัวเชื่อมคน 2 รุ่น ระดับอาวุโส-เด็กรุ่นใหม่ ขับเคลื่อนการฟื้นฟูพรรค ในช่วงกระแสขาลงชื่อชั้นแม้ไม่ถึงขั้นร้องว้าว แต่เป็นทางเลือกที่เหมาะกับสถานการณ์มากสุดขณะนี้ ในภาวะที่ทรัพยากรบุคคลร่อยหรอ จำเป็นต้องให้คนในพรรคที่มีคุณสมบัติครบเครื่องที่สุด ทั้งความเก๋าเกมในสภา ชั่วโมงบินการเมือง ความรู้ด้านเศรษฐกิจ และขึ้นเวทีดีเบตได้ สลับมายืนหัวแถว นำทัพสู้ศึกการเลือกตั้งสมัยหน้าเพื่อไทยรีแบรนด์โครงสร้างใหม่ แขวนชื่อคนตระกูลชินวัตร ห้ามยุ่งเกี่ยวพรรค ลดแรงเสียดทานจากสังคม ในยามที่ตระกูลชินฯมีภาพลักษณ์ติดลบจากวิกฤติความมั่นคงชายแดนไทย–กัมพูชาแต่ก็เป็นแค่ชั้นเชิงทางนิตินัย เพราะชื่อ “หัวหน้าหนิม” ในทางพฤตินัยคือ คนวงในที่ทุกสายของตระกูลชินวัตรไว้วางใจสั่งการได้ทั้งสายนายใหญ่ นายหญิง นายน้อย หรือน้องนายใหญ่ สามารถประสานได้มากกว่านายจาตุรนต์ที่มีบุคลิกเด็ดเดี่ยวในอุดมการณ์ ถึงจะมีจุดเด่นเป็นสายประชาธิปไตยเข้มข้น แต่ต้นทุนหน้าตักตอนนี้ ยังไงก็เบียดสู้กระแสส้มลำบากไฟต์บังคับเกมเดิมพันอำนาจในอนาคต กดดันให้รังใหญ่จันทร์ส่องหล้า จำเป็นต้องใช้คนรู้ใจมากุมบังเหียนพรรคช่วงเฉพาะกิจ เป็นเซฟโซนรักษาอำนาจในพรรค ไม่ให้หลุดมือความเป็นตระกูลชินฯ ไม่มีถอยหลัง ยอมจำนนง่ายๆ แค่หลบกระแส แต่ไม่ปล่อยมือจากพรรคเพื่อไทย หลบจากหน้าฉากไปอยู่หลังฉาก เลี่ยงแรงปะทะ แต่ยังแฝงกายคุมกลไกการบริหารพรรคอย่างเงียบๆมีโอกาสเป็นไปได้ที่สถานะ แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาจจะกลับไปอยู่ในบริบทหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย คอยขับเคลื่อนเกมการเมืองคู่ขนานไปกับการบริหารพรรคของนายจุลพันธ์ตามคิวที่เก้าอี้หัวหน้าพรรคยังไม่สำคัญเท่าตำแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ที่ต้องใจจดใจจ่อรอลุ้นจะวนลูปอยู่กับคนในครอบครัวตระกูลชินวัตรต่อไปหรือไม่ภารกิจยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ต้องมือเป็นระวิงแก้สารพัดปัญหา ทั้งห้ามเลือดไหลออก บริหารจัดการลูกพรรค ฟื้นกระแสความนิยมพรรคและโจทย์ใหญ่เฉพาะหน้าอย่างการคุมทัพยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในการเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร รอบหน้าในเดือน ธ.ค.จังหวะที่รัฐบาลภูมิใจไทยกำลังเสียทรง ถูกตั้งข้อสงสัย ติดลบสารพัดเรื่อง ทั้งการปราบแก๊งสแกมเมอร์ การเซ็นเอ็มโอยูแร่หายากกับสหรัฐฯ ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาได้โอกาสกู้แบรนด์ชินวัตร ซักฟอกเพื่อฉายภาพ รมต.สีเทาเข้มให้ประชาชนได้เห็นพิสูจน์ศักยภาพจะเบียดแย่งแต้มจากค่ายส้มได้มากแค่ไหน!!!ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม