จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์...“ฮุน เซน” ผู้ยิ่งใหญ่แห่งกัมพูชานั้นไม่ธรรมดาจริงๆ สมคำเล่าลือที่ปรากฏต่อสังคมโลก ปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชานั้นฝีมือเขาล้วนๆยิ่งไปกว่านั้นเขาสามารถทำให้ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีไทยและรัฐบาลต้องอับปางลงทั้งๆที่สนิทสนมกับ “ทักษิณ ชินวัตร”แต่ก็ทำได้ลงคอไม่มีคำว่าน้ำมิตรแม้กระทั่งรัฐบาลใหม่ของไทยที่มี “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่วายต้องสั่งรัฐมนตรีไปอีก 1 คน“วรภัค ธันยาวงษ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เจอพิษสแกมเมอร์จากกัมพูชาจนต้องประกาศลาออกจากตำแหน่งแม้ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่ได้กระทำแต่อย่างใด ทว่าการเมืองในกระแสเชี่ยวกรากอย่างนี้ทางออกก็คือการแสดงสปิริตเพื่อให้รัฐบาลเดินหน้าต่อไปได้!จริงเท็จถูกผิดอย่างไรก็ไปว่ากันด้วยกฎหมายไม่ใช่รายนี้รายเดียวยังมีอีกราย“ธรรมนัส พรหมเผ่า” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเกษตรฯ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม เสาค้ำยันรัฐบาลก็โดนข้อครหาไปด้วยเมื่อมีการเปิดเผยภาพร่วมสนทนากับ “เบน สมิท” ที่สนิทแนบแน่นกับ “ฮุน เซน” พัวพันกับธุรกิจสีเทาที่เจ้าหน้าที่ไทยกำลังไล่ล่าแต่ “ผู้กองแป้ง” ได้ออกมายืนยันไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยพร้อมโชว์เก๋าว่าเขาร่ำรวยมาก่อนที่จะมาเล่นการเมืองทว่าสังคมก็ยังคลางแคลงใจอยู่!สรุปก็คือ “ฮุน เซน” นั้นพิษสงไม่ธรรมดาทำเอาไทยป่วนไปทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่นี้ยังลามไปทั่วโลกที่เกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมายจนเดือดร้อนกันไปทั่วเวลานี้โลกกำลังหันมารุมไล่ล่าจน “ฮุน เซน” แทบจะเอาตัวไม่รอด ก็เป็นผลดีแก่ไทยไปโดยปริยาย เพียงแต่รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีต้องให้ความใส่ใจในการแก้ไขปัญหาธุรกิจสีเทาอย่างจริงจังมิฉะนั้นจะโดนหางเลขไปด้วย!ปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชามาถึงวันนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ล่าสุดการประชุมจีบีซีที่มาเลเซียระดับรัฐมนตรีกลาโหมของทั้ง 2 ประเทศเป็นไปด้วยดีคือกัมพูชายอมรับ 4 เงื่อนไขของไทย เพื่อให้ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางดีขึ้น โดยรัฐบาลเขมรก็ยอมรับที่จะนำข้อตกลงไปปฏิบัตินี่เป็นครั้งแรกที่กัมพูชายอมรับเงื่อนไขและพร้อมจะนำไปปฏิบัติเป็นการตอบสนองก่อนที่จะมีการประชุมอาเซียนซัมมิตระหว่างวันที่ 26-28 ต.ค.2568 ที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพ“โดนัลด์ ทรัมป์” ผู้นำสหรัฐฯจะเข้าร่วมประชุมด้วยสหรัฐฯได้แจ้งว่าประธานาธิบดีแห่งสันติภาพจะเป็นสักขีพยานในข้อตกลงสงบศึกระหว่างผู้นำไทย-กัมพูชาเมื่อเขมรรับข้อเสนอไทยทั้ง 4 ข้อก็น่าจะลงเอยด้วยดีตั้งแต่เกิดปัญหาขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชามาจนถึงวันนี้ทำให้ทั้ง 2 ประเทศต่างก็ได้รับความเสียหาย ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลยจบได้ควรจบอนาคตข้างหน้าจะคบค้าสมาคมกันอย่างไรค่อยไปว่ากันใหม่!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม