จากการหารือร่วมกันระหว่างสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กับกระทรวงสาธารณสุข โดยมีผู้แทนชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน และชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหาบัตรทองและได้ข้อสรุป 6 ข้อ คือ 1. ยกเลิกการ Re-run คือ การยกเลิกการคำนวณแบบย้อนหลังสำหรับการจ่ายชดเชยค่าบริการผู้ป่วยในของโรงพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. 2567- 31 ก.ค.2568 2.สปสช. จะแสดงวงเงินคงเหลือปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ในทุกกองทุน เพื่อนำเงินส่วนที่เหลือมาบริหารจัดการ 3.คำนวณการจ่ายค่ารักษาพยาบาลเพื่อจ่ายทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย ยอดบริการรักษาพยาบาล ช่วงวันที่ 1 ส.ค.-15 ก.ย.2568 ในอัตรา 8,350 บาทต่อ AdjRW รวมถึงการจ่ายชดเชยค่าบริการจากกองทุนอื่นๆ 4.จัดสรรเงินคงเหลือทั้งหมดเพื่อจ่ายชดเชยค่ารักษาพยาบาลให้หน่วยบริการเท่าที่จ่ายได้ 5.แสวงหางบประมาณเพิ่มเติม โดยรองบกลางจากรัฐบาลเป็นลำดับแรก หากไม่เพียงพอให้พิจารณานำงบประมาณ ปี พ.ศ.2569 มาชดเชยให้ครบถ้วน และ 6.สร้างข้อตกลงร่วมกัน ระหว่าง สปสช. และ สธ. ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงินชดเชยใดๆนพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ตนจะนำข้อสรุปดังกล่าวเข้าที่ประชุมบอร์ด สปสช. วันที่ 3 พ.ย.นี้ โดยส่วนที่ทำได้เลยคือ การยกเลิกการคำนวณแบบ Re-run ย้อนหลังสำหรับการจ่ายชดเชยค่าบริการผู้ป่วยในของโรงพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.2567-31 ก.ค.2568 ส่วนเดือนที่เหลือของปีงบประมาณ 2568 สปสช.จะแสดงตัวเลขค่าน้ำหนักสัมพัทธ์ที่แท้จริง และการจ่ายเงินให้โรงพยาบาลตามตัวเลขนั้น หลักการหลังจากนี้จะหารือการจัดสรรร่วมกัน รวมถึงการสร้างข้อตกลงร่วมกัน หากจะเปลี่ยนแปลงใดๆ สปสช.จะต้องหารือกับ สธ.ก่อนเพื่อตัดสินใจร่วมกัน ตามหลักการที่ รมว.สาธารณสุข และปลัด สธ.ให้ไว้ขณะที่ ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช.กล่าวถึงกรณีข่าวโรงพยาบาลเอกชนที่ให้บริการระบบบัตรทองลาออกจนเหลือไม่ถึง 10 แห่ง ว่า เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม