“เฟกนิวส์” ที่กระแสเชียร์กระหึ่ม อยากให้เป็น “ข่าวจริง” โดยปรากฏการณ์แบบที่สถานเอกอัครราชทูตเกาหลีประจำประเทศไทย ชิงออกแถลงการณ์ชี้แจงด่วน ปฏิเสธบทความจากสื่อออนไลน์บางสำนักของไทยรายงานประเด็นร้อนฉาวโลก แฉ “รายงานลับ” นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ เปิดโพย 7 นักการเมืองไทย เอี่ยวแก๊งอาชญากรสแกมเมอร์กัมพูชายืนยันว่าเป็น “ข่าวปลอม” ไม่เป็นความจริงตามจังหวะรีบอ้างอิงข้อมูลระดับ Protocol “พิธีการทางการทูต” ของเกาหลีใต้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ยืนยันเลยว่าในการต่อสายโทรศัพท์ข้ามประเทศคุยกับนายกฯโสมขาวเกือบครึ่งชั่วโมงไม่ได้พูดเรื่องนักการเมืองไทยเชื่อมโยงแก๊งสแกมเมอร์เขมรแม้แต่คำเดียวสำทับด้วยโทรโข่งรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกฯรีบแถลงย้ำ “ข่าวปลอม” เคลียร์ปมนายกฯเกาหลีใต้แฉประจาน 7 นักการเมืองไทย เอี่ยวแก๊งโจรสแกมเมอร์กัมพูชา ไม่จริงแต่อย่างใดจับอาการ “รัฐบาลภูมิใจไทย” รีบปัดเผือกร้อนกันมือเป็นระวิงนั่นก็เพราะ “เฟกนิวส์” มันดันล้อกับ “ข่าวจริง” ที่ผู้คนในสังคมปักใจเชื่อภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์ “คาบลูกคาบดอก” ที่รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังเปิดฉากบุกตะลุยช่วยพลเมืองที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งสแกมเมอร์กัมพูชา ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงไปเจรจากับทางการเขมร ล้อไปกับจังหวะสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาเพิ่งออกกฎหมายตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจ ไล่ล่าแก๊งอาชญากรไซเบอร์ข้ามชาติโชว์แบล็กลิสต์ “หัวโจกโจรสแกมเมอร์เขมร” ขึ้นบัญชีดำให้เห็นหน้ากันชัดๆโฟกัสชื่ออยู่ที่ “เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์” หรือ “เบน สมิธ” กุนซือเขมรหัวทองของ จิ้งจอก “ฮุน เซน” ผู้นำจอมโจรเขมรแดง ที่มีถิ่นพำนักอยู่ในกรุงเทพฯ และมีหลักฐานภาพถ่ายชัดๆร่วมโต๊ะกาแฟกับนักการเมืองขาใหญ่ อดีตนายกฯในตำนานและรัฐมนตรีคนดังสนิทถึงขั้นให้ยืมใช้เรือยอชต์ล่องทะเลไปคุยกับผู้นำมาเลเซียอีกชื่อสำคัญก็คือ “ยิม เลียก” ผู้เกี่ยวดองเป็นน้องเขยลูกชายของ “ฮุน เซน” เป็นบอสใหญ่ของ BIC กรุ๊ป ที่ต้องสงสัยเป็นฐานฟอกเงินเทาของเขมร และปรากฏชื่อของรัฐมนตรีใน “รัฐบาลเซราะกราว” อดีตบิ๊กตำรวจนามสกุลดังในแวดวงธุรกิจ รวมถึงอดีตข้าราชการระดับปลัดกระทรวง ร่วมเป็นบอร์ดหราแผนผังเชื่อมโยงชัดๆ ใครเป็นใคร ถูกนำเสนอผ่านเพจดังรู้กันทั่วแนวโน้มสถานการณ์ “โลกล้อมกรอบกัมพูชา” แอ็กชันแรงๆของสหรัฐฯ อังกฤษ เกาหลีใต้ ที่ขยับนำธงลุยล้างโจรไซเบอร์โลก เปิดโพยหัวโจก ประจานแบล็กลิสต์กันชัดๆ มีเส้นทางเชื่อมโยงกับนักการเมืองไทย เครือข่ายทุนเทาสัมพันธ์กับนักธุรกิจชั้นนำในกรุงเทพฯ ระบุตัวตนกันเห็นๆที่แน่ๆเป็นชุดข้อมูลที่ FBI และ CIA พิสูจน์ทราบ ประทับความชัวร์ถ้าผู้นำรัฐบาลไทยยังเด้งเชือกลอยตัว เดี๋ยวคงได้เห็น “บัญชีดำ” เซอร์ไพรส์ช็อตต่อไปอารมณ์ “กล้าๆกลัวๆ” เหมือนส่อพิรุธ ฉุดภาพของนายกฯเซราะกราว ยิ่งเป็นอะไรที่สวนทางตรงกันข้ามกับอาการเร่งเครื่องของ “รังสิมันต์ โรม” ที่ขึ้นแท่น “มือปราบโจรสแกมเมอร์” ตัวแทนหมู่บ้านของประเทศไทย ที่ล่าสุดไปโชว์ประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภาโลก ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ชงร่างข้อมติประเด็นอาชญากรรมข้ามชาติ เสนอวาระร่วมมือของนานาชาติในการปราบอาชญากรรมไซเบอร์ที่กำลังส่งผลกระทบต่อทั่วโลกเรียกเสียงปรบมือดังก้อง ผู้แทนออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย แสดงท่าทีหนุนกันสุดตัว จังหวะมัดคอตัวแทนรัฐสภาเขมรต้องรีบคัดค้านสุดตัว โดนหลอกประจานฟอร์มปกป้องโจรสแกมเมอร์“รังสิมันต์ โรม” โชว์ฟอร์มทะลุทะลวง ยิ่งกดดัน “อนุทิน” โดนโจรสแกมเมอร์ถ่วงลอยตัวลำบากตามรูปการณ์ก็แบบที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้คร่ำหวอดคนดังในแวดวง “ผีเห็นผี” เพิ่งดักเจอ “นายกฯหนู” ในงานฟุตบอลสถานทูต อังกฤษ เชียร์ให้ผู้นำไทยลุยปราบแก๊งสแกมเมอร์ให้สุดซอยถ้าทำได้คะแนนนิยมเซราะกราวจะไหลมาเป็นน้ำ ไม่เว้นในกรุงเทพฯลีลาแสบๆแกล้งยุส่งวัดใจทั้งที่รู้กันอยู่ว่า ยากกว่าเข็นครกขึ้นเขากระโดง ในมุมโยงเทียบกับทีมส้มที่ “ชูวิทย์” ยอมยกนิ้วให้ “รังสิมันต์ โรม” กับ “ไอซ์” รักชนก ศรีนอก 2 ตัวชนของพรรคประชาชน ที่กล้าแลกหมัด ลุยบู๊ถล่มแก๊งโจรสแกมเมอร์แบบถึงลูกถึงคน ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมรับป้อนข้อมูล “ผีเห็นผี” แล้วเอาไปใช้ “โกยแต้ม” แบบได้เนื้อได้หนัง.ทีมข่าวการเมือง รายงานคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม