พูดถึง 5 อันดับแรกของผู้นำเศรษฐกิจโลกคือ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น เยอรมนี และอินเดีย แต่ถ้าพูดถึงอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจก็จะเป็นอินเดีย (ร้อยละ 6-7) เวียดนาม (ร้อยละ 5-6) อินโดนีเซีย (ร้อยละ 4-5) และจีน (ร้อยละ 3-5) ส่วนสหรัฐฯเติบโตเพียงร้อยละ 1.8-2.1การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว มาอยู่ในซีกของประเทศแถบเอเชีย ที่หายใจรดต้นคอสหรัฐฯและมีโอกาสที่จะก้าวเป็นเบอร์ 1 ของโลกแทนสหรัฐฯคือจีน สหรัฐฯจึงกลัวและเล่นงานจีนทุกเรื่องทรัมป์บอกว่าการที่จีนเข้ามาซื้อหุ้นและบริหารบริษัท Nexperia ที่ตั้งอยู่ในเนเธอร์แลนด์ มีความเสี่ยงต่อการรั่วไหลของเทคโนโลยี การพูดของทรัมป์ทำให้เมื่อ 13 ตุลาคม 2025 เนเธอร์แลนด์ใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยการจัดให้มีสินค้าเพียงพอ ค.ศ.1952 (Goods Availability Act 1952) ทุบบริษัทจีน โดยโยนข้ออ้างว่า การที่จีนเข้ามาซื้อหุ้นและบริหารเน็กเพอเรียขัดต่อความมั่นคงด้านเทคโนโลยีรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ให้ยึดอำนาจบริหารชาวจีน ให้สิทธิ์ผู้ถือหุ้นลงคะแนนให้ผู้บริหารชุดใหม่ต้องไม่ใช่ชาวจีน และให้พักงานซีอีโอคนจีนที่ชื่อนายจาง เซว่ยเจิ้ง ห้ามเคลื่อนย้ายทรัพย์สินหรือบุคลากรออกนอกเนเธอร์แลนด์เป็นเวลา 1 ปีเน็กเพอเรียก่อตั้งโดยบริษัทฟิลิปส์ เมื่อมีปัญหาเรื่องการเงิน ก็กวักมือเรียกให้จีนมาซื้อหุ้น บริษัทจีนที่ชื่อว่า Wingtech Technology จึงมาซื้อหุ้น พอซื้อแล้วก็โดนทุบอย่างที่เห็นงานนี้เหมือนบริษัทจีนถูกหลอกมายิงทิ้งกลางสี่แยกรัฐมนตรีเศรษฐกิจเนเธอร์แลนด์คือนายวินเซนต์ คาร์เรมมานส์ บอกว่าที่ต้องทำ เพราะต้องปกป้องห่วงโซ่อุปทานชิปของยุโรป หลายคนเชื่อว่าการกระทำของเนเธอร์แลนด์ ในครั้งนี้เป็นคำสั่งของสหรัฐฯ เพราะหลังจากเนเธอร์แลนด์เตะ บริษัทจีนแล้ว รัฐบาลสหรัฐฯก็ออกแถลงการณ์สนับสนุน โดยบอกว่า นี่เป็นการป้องกันเทคโนโลยีรั่วไหลออกจากพันธมิตรที่เป็นประเทศประชาธิปไตยตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซีย-อูเครนเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2022 สหรัฐฯและพันธมิตรแซงก์ชันรัสเซีย รัสเซียก็ตอบโต้กลับด้วยการห้ามสายการบินของสหรัฐฯและพันธมิตรบินผ่านน่านฟ้าของตน ทำให้สายการบินของสหรัฐฯต้องบินอ้อม ทำให้เสียเวลาและสิ้นเปลืองพลังงาน แต่จีนไม่ได้ร่วมแซงก์ชัน จึงไม่โดนรัสเซียห้าม สายการบินจีนจึงบินผ่านน่านฟ้ารัสเซียได้ ทำให้ระยะเวลาสั้นและสิ้นเปลืองน้อยกว่าอ่านจากสำนักข่าวรอยเตอร์สเมื่อ 9 ตุลาคม 2025 ทรัมป์พูดว่าจะไม่ให้เครื่องบินจีนบินผ่านน่านฟ้ารัสเซีย เพราะเป็นการเอาเปรียบสายการบินอเมริกันที่บินผ่านน่านฟ้ารัสเซียไม่ได้ ไม่แฟร์ ไม่ยุติธรรม ทำให้การเดินทางยาวและเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าสายการบินชั้นนำของจีนอย่างเช่น ไชน่าอิสเทิร์น แอร์ไชน่า และไชน่าเซาท์เทิร์น ทำจดหมายค้านไปยังกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ สายการบินสหรัฐฯได้ฟังคำกล่าวของทรัมป์ก็ดีใจจนน้ำลายไหล ยูไนเต็ดแอร์ไลน์สของสหรัฐฯได้ทีขี่แพะไล่ บอกว่า อ้า ไม่ใช่เพียงแต่สายการบินจีนเท่านั้น รัฐบาลสหรัฐฯผู้ยิ่งใหญ่ต้องห้ามสายการบินฮ่องกงด้วยความกลัวทำให้สหรัฐฯสกัดกั้นจีนอย่างหน้าไม่อายทุกด้าน ข้าฯสหรัฐฯเป็นมหาอำนาจ จะทำยังไงกับใครเมื่อใดก็ได้ ผู้อ่านท่านผู้เจริญ ผลที่ตามมาก็คือ การท่องเที่ยวและการค้าจีน-สหรัฐฯ จะชะลอตัว นักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากที่เตรียมจะไปใช้เงินในสหรัฐฯก็ต้องระงับสมัยนี้ไม่มีสงครามที่งัดดาบออกมาฟันกันแล้วครับ ไม่มีใครเอาหนังสติ๊กมายิงหัวกัน แต่เป็นสงครามบีบ อย่างที่สหรัฐฯบีบจีนให้ลดความสัมพันธ์กับรัสเซีย เป็นหนึ่งในสงครามเทคโนโลยีและโลจิสติกส์ผมอยากดูว่าจีนจะยอมสหรัฐฯหรือไม่ แต่ดูจากนิสัยใจคอจีน จีนอาจจะเลือกอธิปไตยทางยุทธศาสตร์มากกว่าประโยชน์ทางเศรษฐกิจระยะสั้น และจะเดินหน้าร่วมมือกับรัสเซียอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูจีนมีความฝันกับเส้นทางบินเหนือรัสเซียที่เรียกว่า Arctic Sky Corridor ที่จีนจะใช้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมขั้วโลก ถ้าจีนทำตามสหรัฐฯ ความฝันของจีนในเรื่องอาร์กติกสกายคอร์ริดอร์ก็จะหายไป.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม