อย่ารบกันเอง...ก็แล้วกัน ปัญหาขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาทำไปทำมา ไทยกับไทยจะมาห้ำหั่นกันเองหรือไง ตั้งสติกันให้ดีเดี๋ยวกัมพูชาจะหัวเราะชอบใจได้หลังจากฝ่ายทหารกำลังดำเนินการเพื่อขับไล่คนกัมพูชาออกจากพื้นที่ไทยในเขตจังหวัดสระแก้ว ซึ่งได้มีการวางแผนไว้อย่างแยบยลเริ่มจากการเข้าตรวจทุ่นระเบิดจนได้หลายจุดเพื่อความปลอดภัยก่อนจะเริ่มปฏิบัติการ จากนั้นก็มีการเปิดซาวด์เสียงผีเพื่อสร้างความหวาดหวั่นให้คนกัมพูชาที่ไม่ยอมออกจากพื้นที่เลยเกิดปัญหาขัดแย้งระหว่าง 2 ฝ่าย1.ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการนี้ อ้างว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนจะทำให้เสียเปรียบในความรู้สึกของนานาชาติ2.ฝ่ายที่เห็นด้วยบอกว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะไม่ได้ทำร้ายให้เสียชีวิต แต่เป็นการดำเนินการจิตวิทยาจนทนไม่ได้แล้วออกไปเองก็ถกเถียงกันจนยุติวิธีการนี้!อันนี้ถือเป็นเรื่องที่จะต้องปรับวิธีและความเข้าใจในการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา แน่นอนว่าการดำเนินการต่างๆต้องเป็นความลับเพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ล่วงหน้าเช่นกันกลุ่มที่คัดค้านก็ต้องเข้าใจในเหตุผลที่ต้องทำอย่างนี้ ก็เพราะไม่ต้องการใช้ความรุนแรงซึ่งจะเป็นผลเสียต่อฝ่ายเราจึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องทำความเข้าใจและสื่อสารให้ประชาชนได้รับรู้ ไม่ใช่บอกว่าได้มอบอำนาจให้ทหารแล้วก็ปล่อยไปตามนั้นถึงวันนี้คงจะปรับทิศปิดทางในการแก้ไขปัญหาได้แล้วสิ่งที่สำคัญคนไทยจะต้องมีสติและเข้าใจปัญหารวมถึงแนวทางการแก้ไขด้วย อย่าใช้อารมณ์หรือการตัดสินใจที่ไม่เป็นเหตุเป็นผลมิฉะนั้นจะเข้าทางเขาได้!ดูจากสภาพคงอีกไม่นานทุกอย่างน่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดี ล่าสุดสหรัฐฯโดย “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะเดินทางมาร่วมประชุมอาเซียนซัมมิตที่มาเลเซียปลายเดือนนี้จะขอเป็นตัวกลางเจรจาสงบศึกสานต่อที่เคยได้แสดงความจำนงเอาไว้หลังประสบความสำเร็จทำให้ฮามาสและอิสราเอลสามารถเจรจาสงบศึกกันได้จนได้รับคำชมเชยจากทั่วโลก!ก็เลยต้องการโชว์อีกสักงานเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาคือประธานาธิบดีแห่งสันติภาพ แม้จะพลาดรางวัลโนเบลก็ตามด้วยศักยภาพของมหาอำนาจเบอร์ 1 ของโลกคงทำให้กัมพูชาสนองความต้องการนั้นได้ไม่ยากเมื่อกัมพูชายอมแต่โดยดีก็เท่ากับเป็นบุญคุณให้กับ “ทรัมป์” จึงเรียกร้องความต้องการจากสหรัฐฯได้พอที่จะทำให้เขมรหลุดจากวงจรแห่งความเลวร้ายนี้ไปได้จากนี้ไปก็คงเลิกตอแยกับไทยไปอีกนานเพราะมีแต่เสียไม่มีได้ไม่ต่างกับยกภูเขาออกจากอกช้ำๆนี้เสียที เนื่องจากไม่มีทางออกที่ดีกว่านี้แล้วสภาพความเป็นไปอย่างนี้คนไทยก็น่าจะสบายใจหายห่วงไม่ต้องหงุดหงิดกับพวกที่รุงรังไม่รู้จบเสียทีก็คงเป็นของขวัญก่อนปีใหม่ให้คนไทยชิ้นหนึ่ง“อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี ก็ได้รางวัลโดยไม่ต้องออกแรงเรียกว่าโชคตกใส่เท้าปานนั้น!"สายล่อฟ้า"คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม