งานเลี้ยงฉลองแต่งบ่าวสาวชาวพุมเรียง เมืองไชยา เมื่อหลายวันที่ผ่านมา ผมนั่งโต๊ะผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวซึ่งเป็นนักข่าวการเมือง คุ้นหน้าสุภาพสตรีงามโต๊ะแขกผู้ใหญ่ระยะห่างคนนั่งสี่คน...มองแต่ด้านข้าง นึกไม่ออก...ใคร?งานแต่งชาวมุสลิมเริ่มห้าโมงเย็นครับ ราวหนึ่งทุ่มระหว่างเวลาร่ำลากันกลับ ผมจึงเห็นเต็มตา...คุณอิ๊งค์นี่เอง...ดีใจแทนบ่าวสาวที่ได้มีคนระดับผู้นำประเทศ เจียดเวลามาเป็นแขกผู้มีเกียรติแปลก! เรื่องที่เห็นแล้วจำคุณอิ๊งค์ไม่ได้ กับติดคาใจ...ผมรู้สึกว่าตัวเองควรทำอะไรสักอย่าง?เวลายี่สิบปี นับได้ว่ารู้จักกับคุณพ่อคุณแม่ท่าน โดยธรรมเนียมไทยก็ควรได้ทักทายกัน...แต่ข้อขัดข้องคนระดับอดีตนายกฯ ไม่ใช่ใครต่อใครจะพูดจาได้ง่ายๆผมก็มารู้เอาตอนนั้น ในฐานะอดีตผู้นำ ท่านถูกเชิญขึ้นพูดอวยพรบ่าวสาว แต่ท่านปฏิเสธท่าทีนี้แสดงว่าเวลานั้น คุณอิ๊งค์ยังตกผลึกอารมณ์ของแม่ทัพการเมืองฝ่ายแพ้นักข่าวรุ่นผมกลับมองเป็นเรื่องธรรมดาของสงคราม ฝ่ายแพ้ตั้งหลักสู้ให้ดีๆโอกาสชนะก็ยังมีจะปลอบใจกันตรงไปตรงมาก็ไม่ใช่วิสัย...ผมจำเป็นต้องหาเรื่องเก่าที่ลึกซึ้งซ่อนปมให้ท่านอ่านแล้วไปตีความถอดรหัสเอาเองนิทานเรื่องนี้ อยู่ในหนังสือเก่าเล่มหนึ่งพบในหีบหนังสือพระราชวังโบราณกรุงปักกิ่ง ผู้รู้สมัยราชวงศ์หมิง นาม หงอิ้งหมิง เขียน ชื่อเรื่อง สุภาษิตหนอนขาเดียวครั้งหนึ่ง นานมาแล้วมีสัตว์ชนิดหนึ่ง เรียกว่า หนอนขาเดียว มันบอกกับสัตว์ที่มีหลายขาว่า “ถ้าหากข้ามีหลายขาเหมือนเจ้า ก็สามารถที่จะไปไหนมาไหนได้ตามใจชอบ”แต่สัตว์หลายขาไม่ดีใจกับตัวเอง มันกลับไปชื่นชมต่องู “แม้ขาข้ามีมากก็จริง แต่เร็วสู้เจ้าซึ่งไม่มีขาไม่ได้”งูกลับไม่พอใจในตนเอง มันหันไปพูดกับลม “ข้ากับเจ้าก็ไม่มีขาเหมือนกัน แต่ชั่วพริบตาเดียว เจ้าก็วิ่งจากทะเลเหนือไปถึงทะเลใต้ หาร่องรอยก็ไม่เจอ เก่งกาจสามารถดังหนึ่งเทวดา”แต่ทุกฝ่ายหารู้ไม่ว่า เจ้าลมกลับรู้สึกอิจฉาหนอนขาเดียว ลมถอนหายใจรำพึงว่า“ถ้าเจ้าหนอนขาเดียวใช้ขามันมาเตะข้า ข้าจะทำอะไรกับมันได้”หนอนขาเดียวอิจฉาสัตว์หลายขา สัตว์หลายขาก็ไปอิจฉางู งูไปอิจฉาลม แต่ลมกลับมาอิจฉาหนอนขาเดียวนิทานเรื่องนี้มีคำสอนต่อท้าย ผู้ที่ใฝ่ใจในการศึกษาเรียนรู้ โปรดสนใจ อย่าให้ถูกสิ่งที่อยู่ภายนอกมอมเมาและเหนี่ยวรั้งความสามารถที่มีในตัวท่าน ให้หลงไปในทางอื่นจงทำความรู้จักกับตัวเองเสียใหม่ จงรีบไปค้นหาบทประพันธ์อันยอดเยี่ยม ดนตรีอันแสนไพเราะที่ฟ้าประทานให้ กลับมาขยายความรู้ความสามารถที่ซ่อนลึกในใจ บุกเบิกอนาคตอันงดงามรุ่งโรจน์โชติช่วงให้ตัวเองคำสอนเดียวกันนี้ มีบทสรุปเป็นคำร้อยแก้วไพเราะเพราะพริ้ง... เนื้อหาซ้ำแต่ปรับสำนวนใหม่ใจคนมีบทประพันธ์ชั้นยอดอยู่บทหนึ่ง แต่ถูกปิดกั้นด้วยข้อเขียนที่ขาดวิ่นไม่สมบูรณ์ไปหมดใจคนมีบทเพลงอันไพเราะจับใจอยู่เพลงหนึ่ง แต่ถูกกลบฝังด้วยเพลงเย้ายวน ระบำอันหยาดเยิ้มไปสิ้นผู้ศึกษาควรขจัดสิ่งอื่นใดทั้งปวง แสวงหาธรรมชาติวิสัยเดิมออกมาใช้ จึงจะเกิดประโยชน์อย่างแท้จริงแก่ตัวตนไปถึงประเทศชาติจบเรื่องเก่าที่ค้นจากหนังสือเก่าแค่นี้ หากจะมีประโยคต่อท้าย ...ผมก็จะเติมว่า เรื่องของความผิดพลาดนั้น อีกด้านสร้างประโยชน์ นอกจากได้เรียนรู้อีกบทหนึ่งของความลึกซึ้งในใจมนุษย์ ซึ่งสุดแสนจะกำหนดได้แล้วยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเอง ไว้เพื่อชนะในศึกต่อไป ขอให้แน่วแน่และมั่นใจในความดีความงาม ว่าจะต้องชนะความชั่วร้ายได้เมื่อถึงเวลา.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม