"อนุทิน" นำคณะลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมภาคกลางตอนบน เกือบเจ็บตัวสะดุดล้ม ขณะก้าวขาลงจาก ฮ.ที่พิจิตร โชคดีลงไปคุกเข่าบนพื้นหญ้าไม่ได้รับบาดเจ็บ กำชับเร่งอนุมัติเงินเยียวยาภายในสัปดาห์หน้าได้ก้อนแรกครัวเรือนละ 9,000 บาท สั่งดูงบประมาณหาทางช่วยเพิ่ม ยอมรับน้ำท่วมค่อนข้างหนักต้องเร่งบริหารจัดการ ฝากชลประทานปรับลดระบายน้ำ 4 เขื่อน สทนช.เร่งรัดวางแผน 9 โครงการระบายน้ำ ด้านสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยายังอ่วมหนัก นครสวรรค์แจ้งเตือนเฝ้าระวังไอ้เข้หลุดจากบึงบอระเพ็ดเข้ามาในพื้นที่ชุมชน ชัยนาทระทมทุกข์น้ำเริ่มเน่าเหม็นต้องเร่งบำบัด เมืองนนท์มั่นใจเอาอยู่ขนกระสอบทราย 250,000 ใบระดมป้องกันเต็มพิกัดสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่มีแนวโน้มเริ่มคลี่คลาย หลังจากปริมาณฝนเบาบางลง เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 ต.ค. ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย นำคณะขึ้นเฮลิคอปเตอร์รุ่น AW-189 กองบินตำรวจ หมายเลข 3403 เดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่จังหวัดภาคกลางตอนบน ลงพื้นที่จุดแรกที่ จ.พิจิตร ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชตะพานหิน อ.ตะพานหิน ที่ถูกน้ำเอ่อเข้าท่วมแต่ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว จากนั้นเดินทางไปโรงเรียนเทศบาลตะพานหินวิทยาคาร ต.ตะพานหินนายอนุทินกล่าวกับประชาชนที่มารอต้อนรับว่า ตั้งใจมาให้กำลังใจ ทราบจากผู้ว่าราชการจังหวัดและ สส.พิจิตร ว่าน้ำท่วมมาระยะหนึ่งแล้ว ขอให้อดทนอีกนิดจะปลายฝนแล้วสถานการณ์น่าจะดีขึ้น รัฐบาลจะไม่เพิกเฉยละเลย ภายในสัปดาห์หน้าจะอนุมัติเงินช่วยเหลือเยียวยาให้ก่อนครัวเรือนละ 9,000 บาท ดูสภาพน้ำแล้ว 50,000 บาท ยังไม่คุ้มเลย แต่จะพยายามหาวิธีช่วย มอบให้รัฐมนตรีที่กำกับดูแลงบประมาณหาวิธีช่วยเหลือประชาชนให้มากกว่านี้ได้อย่างไรบ้าง ไปลงทะเบียนไว้และอย่าลืมลงทะเบียนคนละครึ่งด้วย เอาไปใช้เศรษฐกิจจะได้หมุนเวียน ต่อไปก็มีเงินช่วยเหลือให้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ใช่บัตรคนจน ที่จะใส่เงินเดือนละ 300 บาท แถมไป 1,700 บาท เป็น 2,000 บาท ทั้งหมดอนุมัติงบประมาณหมดแล้ว จากนั้นนายกฯเดินพบปะประชาชนพร้อมถ่ายภาพเซลฟี่เป็นที่ระลึก มีชาวบ้านเข้ามาสวมกอดด้วยความดีใจผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายอนุทินเดินลงจากเฮลิคอปเตอร์ที่จุดจอด ฮ. สนามฟุตบอลโรงเรียนตะพานหิน จ.พิจิตร มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้นายอนุทินก้าวพลาด หกล้มลงไปคุกเข่าอยู่กับพื้นหญ้า มีเจ้าหน้าที่รีบช่วยพยุงให้ทรงตัวขึ้นและปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ตามปกติไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ภายหลังนายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกระเซ้าผู้สื่อข่าวว่าเป็นห่วงหรือสมน้ำหน้า เมื่อถามว่าทำงานหนักเกินไปหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่เกี่ยว ขายังไม่อ่อน สะดุดตรงเฮลิคอปเตอร์มันมีง่ามและปลัดกระทรวงมหาดไทยคว้าไว้ทัน ไม่เจ็บ ไม่เหมือนตอนล้มที่วัดพระแก้วที่วิ่งตาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ ตอนนั้นนิ้วหักเลยต่อมานายอนุทินพร้อมคณะเดินทางต่อไป จ.ชัยนาท เป็นประธานการประชุมสรุปสถานการณ์น้ำและแผนบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท รับฟังบรรยายสรุปจากนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ที่จะปรับการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาจาก 2,000 ลบ.ม.ต่อวินาที เหลือ 700 ลบ.ม.ต่อวินาที รวมถึงแผนสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมเพื่อแก้ไขปัญหาบริเวณจุดฟันหลอในกรุงเทพฯ 32 จุด ที่เสร็จแล้ว 22 จุด และมีแผนบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง 9 แผน วงเงิน 517,136 ล้านบาท ขณะที่รองอธิบดีกรมชลประทาน รายงานว่าได้วางแผนการจัดการน้ำในช่วงเดือน พ.ย.ให้ได้ 80% จะเร่งระบายน้ำในช่วงปลายเดือน ต.ค.เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้สำหรับฤดูแล้งนายอนุทินกล่าวว่า จากที่ไล่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมตั้งแต่ จ.พิจิตร ลงมาสถานการณ์ค่อนข้างหนัก โดยเฉพาะ อ.ตะพานหิน มีสภาพน้ำท่วมขัง มองจากที่สูงพบปริมาณน้ำจำนวนมากที่ต้องเร่งบริหารจัดการ ช่วงนี้จะเข้าสู่ปลายฝนแล้ว หากไม่มีปริมาณน้ำฝนเติมสัปดาห์หน้าน่าจะลดระดับความรุนแรงภายใน 2-3 สัปดาห์ ฟังดูธรรมดาแต่ประชาชนที่บ้านเรือนน้ำท่วมขัง 1 ชั่วโมงสำหรับเขามีความลำบาก ขอฝากข้าราชการที่เกี่ยวข้องทุกคนคำนึงถึงความจำเป็นเร่งด่วนและหาวิธีแก้ไขปัญหาเพื่อคลายความทุกข์และความลำบากของประชาชนโดยเร็วเท่าที่ทำได้ รัฐบาลพร้อมสนับสนุน และฝากกรมชลประทานต้องปรับลดการระบายน้ำเขื่อนทั้ง 4 แห่ง และ สทนช.ให้เร่งรัดวางแผนโครงการระบายน้ำจาก 9 โครงการ และทำไปได้ 1 โครงการ ขณะที่โครงการที่จะเสร็จในช่วงปี 70 ต้องเร่งเร็วขึ้น จากนั้นนายกฯพร้อมคณะไปดูสถานการณ์น้ำบริเวณประตูเขื่อนระบายน้ำ จากนั้นเดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำที่ อบต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี พบปะพูดคุยให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพให้ชาวบ้านผู้ประสบภัย ก่อนเดินทางกลับสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ที่สถานีวัดน้ำ C2 อ.เมืองนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,690 ลบ.ม./วินาที ลดลงต่อเนื่อง เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ระบายน้ำ 2,300 ลบ.ม./วินาที เป็นวันที่ 2 ต่อเนื่อง ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนทรงตัวอยู่ห่างจากตลิ่ง 87 ซม. ชาวบ้านในพื้นที่ ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา กว่า 1,300 ครัวเรือน ยังได้รับผลกระทบหนัก ต้องอพยพมาอาศัยอยู่บริเวณที่พักชั่วคราว ริมถนนสายคันคลองมหาราชกว่า 600 ครัวเรือน เป็นแนวยาวหลายกิโลเมตร บางรายที่ยังอาศัยอยู่ในบ้านเรือนตัวเองก็ต้องขึ้นไปอยู่บนชั้น 2 ใช้เรือสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ยังต้องแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่มเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมทั้งนำสารเคมีไปบำบัดน้ำเสียและขจัดกลิ่นเหม็นเนื่องจากน้ำที่ท่วมขังนานหลายสัปดาห์แล้วจ.นครสวรรค์ ยังมีน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ เนื่องจากมีมวลน้ำจากภาคเหนือไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการระบายน้ำของเขื่อนสิริกิติ์และปริมาณฝนในพื้นที่ ทางจังหวัดประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัยและเขตออกให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน กรณีเหตุอุทกภัย เพิ่มเป็น 8 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ชุมแสง อ.หนองบัว อ.เมืองนครสวรรค์ อ.โกรกพระ อ.พยุหะคีรี อ.ไพศาลี อ.ตาคลี และ อ.ท่าตะโก รวม 47 ตำบล 303 หมู่บ้าน ขณะที่สำนักงานประมงจังหวัดนครสวรรค์ แจ้งเตือนการเฝ้าระวังจระเข้ ด้วยสถานการณ์อุทกภัยปีนี้ส่งผลให้หลายพื้นที่มีน้ำขัง โดยเฉพาะบึงบอระเพ็ด ที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของจระเข้ตามธรรมชาติจำนวนมาก อาจพบเห็นจระเข้ในบึงบอระเพ็ดหรือจากพื้นที่อื่นหลุดรอดออกไปในแหล่งชุมชน ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังและห้ามเข้าใกล้เด็ดขาด กรณีที่พบจระเข้ในแหล่งน้ำธรรมชาติ ขอให้บันทึกภาพและแจ้งมาที่สำนักงานประมงจังหวัดนครสวรรค์ โทร.0-5680-3543จ.สิงห์บุรี นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะลงพื้นที่บริเวณใต้สะพานบางระจัน (บางแคนอก-บางแคใน) อ.เมืองสิงห์บุรี ตรวจราชการติดตามสถานการณ์น้ำ มอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบอุทกภัย 239 ถุง ก่อนลงพื้นที่ศึกษาดูงานเรื่องแนวทางการบริหารจัดการน้ำ การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เทศบาลเมืองสิงห์บุรีเสนอแนวทางป้องกันเศรษฐกิจในเขตเมือง ของบประมาณปรับปรุงเขื่อนป้องกันน้ำท่วมฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกที่ก่อสร้างมานาน 70 ปีแล้วปัจจุบันชำรุดหลายจุด โดยฝั่งตะวันออกขอการตอกชีตไพล์เพิ่มป้องกันน้ำรั่วซึม ส่วนฝั่งตะวันตกของบซ่อมแซมเขื่อน ทำหน้าดินเพิ่มแนวเขื่อน และทำเทอร์เรซยื่นออกไปเพิ่มเติมเพื่อใช้เป็นสถานที่ออกกำลังกายของประชาชนน.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและผลกระทบที่มีต่อโบราณสถาน จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า กำชับให้อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันโบราณสถานจำนวน 394 แห่ง อยู่ในเกาะเมือง 189 แห่ง และนอกเกาะเมือง 205 แห่ง ขณะนี้ที่วัดไชยวัฒนาราม ดำเนินการติดตั้งแผงป้องกันน้ำท่วมแบบพับเก็บได้ และทำคันดินกั้นน้ำด้านหลังวัดแล้ว ส่วนโบราณสถานป้อมเพชร ดำเนินการเสริมแนวกระสอบทรายให้สูงขึ้น 3 ชั้นจ.นนทบุรี นายสมนึก ธนเดชากุล นายก เทศมนตรีนครนนทบุรี ส่งเจ้าหน้าที่กองช่างลงพื้นที่ชุมชนวัดแจ้งสิริสัมพันธ์ ซอยนนทบุรี 13 ต.บางกระสอ เร่งสร้างสะพานไม้ทางเดินเข้าออกชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีน้ำท่วมขัง ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 100 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูง 20-80 ซม. นายสมนึกกล่าวว่า พื้นที่เทศบาลนครนนทบุรี ชาวบ้านที่อาศัยตลอดริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้รับผลกระทบเกือบทั้งหมด เตรียมกระสอบทราย 250,000 กระสอบพร้อมไว้ถึงระดับน้ำที่ปล่อยลงมาถึง 3,000 ลบ.ม./วินาทียังสามารถรับมือได้จ.ชลบุรี เกิดฝนตกหนักทั่วพื้นที่ อ.ศรีราชา โดยเฉพาะ ต.ทุ่งสุขลา และ ต.สุรศักดิ์ ฝนถล่มต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง ส่งผลให้ระบบระบายน้ำไม่ทัน มีน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและถนนหลายสายอย่างรวดเร็ว ระดับน้ำในบางจุดสูงเกือบ 1 เมตร รถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ หลายคันพยายามลุยน้ำจนเครื่องยนต์ดับ ต้องเข็นฝ่าคลื่นไปยังจุดปลอดภัย การจราจรบนถนนสายหลักหลายเส้นทางติดขัดยาวเหยียด เจ้าหน้าที่เร่งลงพื้นที่อำนวยความสะดวกและให้การช่วยเหลือประชาชน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายออกในจุดที่ท่วมขังที่วัดคีรีวงกฎ ต.ป่าคาย อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ มูลนิธิร่วมกตัญญูนำโดยนายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ผจก.ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ พร้อมคณะ ร่วมกันเปิดตลาดนัดรวมใจกตัญญู นำเสื้อผ้า กางเกง ชุดชั้นใน ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว รวมถึงแปรงสีฟันกว่า 5,000 ชิ้นมาแจกจ่ายให้ชาวบ้านผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่กว่า 500 ครอบครัวเข้ามาเลือกนำกลับไปสวมใส่ได้โดยไม่เสียเงินสักบาท สร้างรอยยิ้มให้ชาวบ้านบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นใจ นายบิณฑ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มาลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านหลังน้ำแห้งพบความเสียหายทุกหลังคาเรือน โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่จำเป็นต่างขาดแคลนจึงเดินทางมามอบให้ตามที่ชาวบ้านต้องการ นอกจากนี้มูลนิธิร่วมกตัญญูโดยนางรัตนา สมสกุลรุ่งเรือง ประธานมูลนิธิฯ ยังทุ่มเงินกว่า 3 ล้านบาท สั่งซื้อที่นอน 6 ฟุตพร้อมหมอนและผ้าห่ม รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าและเตาแก๊ส เตรียมมามอบให้ผู้ประสบภัยอีกครั้งช่วงปลายเดือนนี้ นอกจากพื้นที่นี้แล้วยังจะเดินทางไปมอบให้กับชาวบ้านในพื้นที่ อ.น้ำปาด ด้วยเช่นกันอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่