คณะรัฐมนตรีรัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล อนุมัติ โครงการคนละครึ่งพลัส วงเงิน 44,000 ล้านบาท เปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนในวันที่ 15 ต.ค. ประชาชนลงทะเบียนได้ในวันที่ 20 ต.ค.เป็นต้นไป จะเริ่มใช้ได้วันแรก 29 ต.ค. มาเร็วเคลมเร็ว ตามปฏิทินการเมือง ยุบสภา ม.ค.2569 เลือกตั้งปลาย มี.ค.หรือต้น เม.ย. เผลอแผล็บเดียว ไม่ทันได้ผ่าทางตันของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นคดีฮั้ว สว. คดีที่ดินเขากระโดง คดีใช้งบประมาณขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 144 คดีอดีต 44 สส.ก้าวไกลลงชื่อแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นต้นตามที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภา ว่าด้วยการทำประชามติในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญที่จะทำไปพร้อมกับการเลือกตั้ง นอกจากบัตรเลือก สส.แบบเขต แบบบัญชีรายชื่อ บัตรประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ยังมีบัตรลงประชามติ การยกเลิก MOU 43–44 หรือไม่ เป็นญัตติที่ค้างอยู่ในสภาสมัยที่แล้ว ซึ่งพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชนเสนอให้ยกเลิก MOU 43-44 เองด้วยซ้ำวันนี้รัฐบาลพรรคภูมิใจไทยกลับเห็นว่าจะต้องทำ ประชามติให้ประชาชนตัดสินใจ จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ไม่ว่าเจตนาดี เพราะเห็นว่า MOU ทั้ง 2 ฉบับที่กัมพูชายึดมาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 จะทำให้ไทยเสียเปรียบเรื่องเขตแดน เกรงว่าไทยจะเสียดินแดน หรือเพราะจะมีผลถึงผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา หรือเพราะเห็นว่ารัฐบาลชุดที่แล้วจะได้ประโยชน์บางอย่างก็เป็นอีกเรื่องคำถามและความเป็นห่วงก็คือ เมื่อประชามติผูกมัดกับประโยชน์ของประเทศและอธิปไตย การให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจความเป็นตายของประเทศในระดับนี้ ชาวบ้านมีความรู้ความเข้าใจกับ MOU 43-44 แค่ไหน และผลของประชามติออกมาเที่ยงตรงหรือไม่ พรรคประชาชนที่กุมอนาคตของรัฐบาลเอาไว้ในมือก็มีท่าทีว่าไม่เห็นด้วยยกตัวอย่างความเห็นของ รังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน พูดถึงการโยนภาระให้ประชาชนลงประชามติการยกเลิก MOU 43-44 หรือไม่ว่า ตอนนี้สภาอยู่ระหว่างตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาข้อดี ข้อเสีย ของการยกเลิก MOU 43-44 โดยมี ไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานอย่างไรก็ตาม การศึกษาต้องมีการเผยแพร่ให้ประชาชนทราบด้วย ซึ่งการยกเลิก MOU นั้นจะทำให้ไทยไม่มีกรอบในการเจรจากับ กัมพูชาทั้ง GBC RBC JBC กลไกการเจรจาในระดับภูมิภาคต้องยุติทันที และเรื่องนี้เป็นอำนาจที่รัฐบาลพิจารณาได้โดยตรงอยู่แล้วในขณะที่ พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC ไทย-กัมพูชา ยังต้องเลื่อนไปกลางเดือน ต.ค. เพราะกัมพูชาไม่ตอบรับข้อเสนอไทยแม้แต่เรื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิด การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง การถอนอาวุธแถมยังเพิ่มพื้นที่ขัดแย้งมากขึ้น กัมพูชามีเป้าหมายใหญ่นำเรื่องขัดแย้งออกจากระดับภูมิภาคอยู่แล้ว ส่วนไทยกำลังกลายเป็นความขัดแย้งภายในเรื่องใหญ่อีกกระทอก.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม