“อนุทิน” โยน “ทวี” ยกฎีกา “ทักษิณ” ขออภัยโทษ ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลนี้ เลขาฯ ครม.ยันดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย “รุทธพล” เผยเหตุผลไม่เข้ากรอบกฎหมายพรรคการเมืองแต่งตัวเตรียมพร้อมเลือกตั้งเต็มสูบ “อนุทิน” ยิ้มรับฉายาภูมิใจดูด เปิดพรรคต้อนรับ “ลูกชายวิรัช”ก๊วน “เอกนัฏ” และ“พงศกร-โกศล” อดีตคน พท.เข้าสังกัดคึกคัก “ธรรมนัส” โชว์ว่าที่ผู้สมัคร สส.15 คนฟุ้ง สส.แห่ซบแน่นพรรคร่วม 80 คน มีผู้สมัคร สส.ครบทุกเขตแล้ว “เพื่อไทย” จัดงาน “ ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย” เปิดตัว 185 ผู้สมัคร สส. “อิ๊งค์” ลุยปรับโครงสร้างพรรคใหม่ ประกาศลั่น พท.ไม่มีวันสูญพันธุ์ แต่งตั้ง “สุริยะ” เป็น ผอ.การเลือกตั้ง เจ้าตัวโอ่ พท.กระแสพุ่งสวนกระแสพรรค ปชน.เรตติ้งวูบ ตั้งเป้ากวาด สส.ไม่น้อยกว่า 200 ที่นั่ง กมธ.สื่อสารเรียก “ไชยชนก” แจงสินบน 40 ล้าน รมว.ดีอีย่องแจ้งความกองปราบฯ ตำรวจตั้งแท่นชง ป.ป.ช.ล่าตัวคนผิดติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ส่งเรื่องยกฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณชินวัตร อดีตนายกฯ ไปตามขั้นตอน ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ระบุการยกฎีกาดังกล่าวเป็นการดำเนินการมาตั้งแต่สมัย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เป็น รมว.ยุติธรรม ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลชุดนี้“อนุทิน” สั่งปลัด กห.–มท.ร่วมวง ครม.เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เดินไปที่ตึกบัญชาการ 1 เป็นประธานการประชุม ครม. ทั้งนี้ ในที่ประชุม ครม.มีปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงมหาดไทย มาเข้าร่วมประชุมด้วย เนื่องจากนายอนุทิน แจ้งไปยังกระทรวงกลาโหมให้ปลัดกระทรวงกลาโหมเข้าร่วมประชุม ครม.ทุกครั้ง เช่นเดียวกับปลัดกระทรวงมหาดไทยและเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เข้าร่วมประชุม ครม.ด้วยทุกครั้งย้าย ขรก.เขากระโดงให้ถาม รมว.ยธ.จากนั้นเวลา 12.30 น. นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการโยกย้ายข้าราชการในกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ทำคดีฮั้ว สว.กับเขากระโดง มาเป็นคณะทำงาน รมว.ยุติธรรม จะส่งผลต่อคดีหรือไม่ว่า ไม่ได้ไปล้วงลูก เหตุผลอะไรต่างๆในกระทรวงต้องไปถามเจ้ากระทรวงและต้องไม่ทำผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม ต้องให้ความเป็นธรรมและรักษาจริยธรรม หลักมีอยู่แค่นี้ใครไม่ทำตามก็อยู่กับตนไม่ได้ ส่วนการย้ายระดับอธิบดีในกระทรวงการคลังลอตใหญ่ เป็นไปตามข้อเสนอนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯและ รมว.คลัง เมื่อท่านออกมาต้องมีคนไปทํางานแทน ขณะที่การย้ายนายปิ่นสาย สุรัสวดี บุตรชายนายปลอดประสพ สุรัสวดี แกนนําพรรคเพื่อไทย (พท.) จากอธิบดีกรมสรรพากร ไปเป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง ไม่ได้ดูที่ชื่อ อำนาจนายกฯคือรับทราบชี้ “ทวี” ยกฎีกา “ทักษิณ” ไม่เกี่ยว รบ.นี้เมื่อถามถึงการยกฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่กระทรวงยุติธรรมส่งความเห็นยกฎีกามาที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) นายอนุทินตอบว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ใครมีสิทธิจะทำอะไรได้ เราให้เป็นไปตามนั้น ไม่ได้มองเป็นบุคคล เมื่อถามอีกว่ามีกระแสข่าวว่ายกฎีกาไปแล้ว นายอนุทินตอบว่า การยกฎีกายกไปสมัย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีต รมว.ยุติธรรม เมื่อท่านยกฎีกาไปแล้ว ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับรัฐบาลตน หรือหากจะเกี่ยวพันเพราะเปลี่ยนรัฐบาลพอดี เราต้องให้เกียรติท่าน เพราะ พ.ต.อ.ทวีได้ลงนามยกฎีกา ไม่ให้อภัยโทษโดยอำนาจที่ท่านยังเป็น รมว.ยุติธรรม จะไปแย้งได้อย่างไร เป็นการตัดสินใจของ พ.ต.อ.ทวี ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลนี้ ส่วนนายทักษิณจะขอพระราชทานอภัยโทษได้อีกหรือไม่ ไม่ทราบต้องไปตรวจสอบกฎหมายไม่ตอบปล่อยกู้ “ไทยสเปเชียล สตีล”เมื่อถามถึงกรณีปล่อยกู้ให้กับบริษัท ไทยสเปเชียล สตีล จำกัด ทางบริษัทได้ชี้แจงหรือไม่ว่านำเงินไปใช้อะไร โดยนายอนุทินหัวเราะในลำคอส่ายหน้าก่อนบอกว่า “ให้ไปถามคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไม่ใช่หน้าที่ผมที่ต้องมาชี้แจงคุณ ผมชี้แจง ป.ป.ช.ไปแล้ว คุณก็ชอบถามแต่คำนี้ ไม่เอาดีกว่า” จากนั้นนายอนุทินเดินออกจากวงสัมภาษณ์ เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามอีกว่าหากนายกฯตอบก็จะสิ้นสงสัย ถ้าท่านไม่ชี้แจงก็จะไม่สิ้นสงสัย นายอนุทินตอบว่า ถามอย่างนี้ไม่ถูกต้อง“รุทธพล” เผยพิจารณา ป.อาญา ม.261พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า เป็นความลับทางราชการไม่สามารถเปิดเผยได้ มีความเห็นตามคณะกรรมการที่ปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน และเสนอให้ สลค.พิจารณา เมื่อถามว่าสาเหตุที่ยกฎีกาฯ ข้อกฎหมายห้ามยื่นฎีกาซ้ำใช่หรือไม่ พล.ต.ต.รุทธพลกล่าวว่า ในรายละเอียดไม่สามารถตอบได้ มีหลายประเด็นและหลายมาตราที่พิจารณา ตนพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 261 เป็นหน้าที่ รมว.ยุติธรรมที่จะถวายความเห็นขอพระราชทานอภัยโทษ เราต้องดำเนินการตามขั้นตอนบอกเหตุผลไม่เข้ากรอบกฎหมายเมื่อถามว่าขณะนี้นายทักษิณยังต้องจำคุกเป็นเวลา 1 ปีตามคำพิพากษาใช่หรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพลกล่าวว่ายังไม่ทราบรายละเอียด ขอชี้แจงเฉพาะในส่วนที่ทำหนังสือตอบ สลค.เท่านั้น ได้มีความเห็น ตามที่ สลค.เสนอมาในฐานะ รมว.ยุติธรรมคนใหม่ พิจารณาตามข้อกฎหมาย กรณีนายทักษิณได้ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษมาแล้วไม่เข้ากรอบทางกฎหมาย และมีเหตุผลหลายประการ รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ เมื่อถามว่านายทักษิณขอ พระราชทานอภัยโทษในวันมหามงคลอื่นได้อีกหรือไม่ พล.ต.ท.รุทธพลกล่าวว่า รายละเอียดยังไม่ทราบเลขาฯ ครม.ระบุยกฎีกาตามขั้นตอนด้านนางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการ ครม.กล่าวถึงการขอยกฎีกาพระราชทานอภัยโทษของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีการส่งเรื่องให้ รมว.ยุติธรรม ถวายความเห็นประกอบว่ามันเป็นเรื่องลับมาก กระทรวงยุติธรรมให้ข่าวแล้ว และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเข้า ครม. หลังจากนี้ส่งเรื่องดำเนินการไปตามขั้นตอนเมื่อเวลา 08.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกฯ ทำบุญเลี้ยงพระ เพื่อเสริมสิริมงคลที่ห้องทำงาน ตึกบัญชาการ 1 เนื่องในวันออกพรรษา นิมนต์พระพรหมวชิรมงคล พระชินวงศวชิรเวที (เจ้าคุณเตชินท์) และคณะจากวัด ราชาธิวาสราชวรวิหาร และวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม รวม 9 รูป จากนั้นไปไหว้รูปปั้นนรสิงห์จำลองบนตึก ไทยคู่ฟ้า สักการะศาลพระภูมิเจ้าที่และศาลตาศาลยาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำเนียบฯ ต่อมานายบวรศักดิ์กล่าวถึงกรณี รมว.ยุติธรรมทำเรื่องยกฎีกาพระราชทานอภัยโทษ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า สลค. ต้องทำตามปกติอยู่แล้ว ยังไม่เห็นเรื่องขอดูรายละเอียดในเรื่องนี้ก่อน“เสี่ยหนู” สวมเสื้อ ภท.รับสมาชิกใหม่อีกด้าน เมื่อเวลา 13.30 น. ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรค ภท.ต้อนรับบรรดานักการเมืองที่หลั่งไหลมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค อาทิ นายพงศกร อรรณนพพร อดีต สส.ขอนแก่น พรรค พท. นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ และนายตติรัฐ รัตนเศรษฐ นายอนุทินตรวจสอบใบสมัครลงชื่อรับสมัครสมาชิกก่อนมอบเสื้อแจ็กเกต ภท.ให้ใส่ ทั้งนี้นายโกศล ปัทมะ สส.นครราชสีมา พรรค พท.ได้มาแสดงเจตจำนงจะมาร่วมงานกับพรรค ภท.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยนายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่าเป็นการยืนยันอย่างหนึ่งว่ารัฐบาลชุดนี้จะยุบสภาในเวลาไม่เกิน 4 เดือน ทุกพรรคต้องเตรียมพร้อมการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นแน่นอนต้นปีหน้า การเปิดตัวนายโกศลวันเดียวกับที่พรรคพท.เปิดแคมเปญ เป็นเรื่องที่ท่านตัดสินใจแล้วเปิดกว้างประวัติไม่ด่างพร้อยยินดีรับเมื่อถามถึงครอบครัวรัตนเศรษฐจะมาทั้งหมดเลยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน นายทวิรัฐและนายตติรัฐ เปรียบเหมือนลูกเหมือนหลาน เป็นลูกชายนายวิรัช รัตนเศรษฐ รู้จักมานาน นายพงศกรรู้จักมา 30 กว่าปี เคารพนับถือตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ เมื่อถามว่าเหมือนจะตีตลาดโคราชเลย นายอนุทินกล่าวว่า พรรค ภท.เป็นพรรคที่ทำงานให้เห็น จำเป็นต้องมีผู้แทนฯที่คุ้นเคยกับพื้นที่ ใกล้ชิดประชาชน เมื่อถามว่าพรรค ภท.ตั้งเป้าจะเป็นพรรคอันดับ 1 เลยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่าเราเล็งผลเลิศ เปิดกว้างอยู่ในสภาฯเดินไปทุกโต๊ะทักกันหลายท่านบอกว่าเที่ยวหน้ามาอยู่ด้วย ส่วนที่พรรค พท.ยกเครื่องใหญ่ถือเป็นเรื่องดี เป็นการแข่งขันของทุกพรรคอ้าแขนต้อนรับ “ทีมเอกณัฏ”จากนั้นเวลา 14.25 น. นายอนุทินต้อนรับนายจุติ ไกรฤกษ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตเลขาธิการพรรค รทสช.ที่นำ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติในกลุ่มมาแสดงเจตจำนง อาทิ นายอัครเดชวงพิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู สส.บัญชีรายชื่อ นายอนุชา บูรพชัยศรี เข้าสังกัดพรรค ภท. แต่ยังไม่มีการสมัครสมาชิก เนื่องจากหลายคนยังคงดำรงตำแหน่ง สส.อยู่ ทันทีที่ได้พบหน้ากลุ่ม สส.นายเอกนัฏ นายอนุทินกล่าวเป็นภาษาอังกฤษว่า “Can I say welcome all?” เรามีสัญญาต่อกันว่าจะเข้ามาทำงานการเมืองร่วมกับพรรค ภท. หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นยิ้มรับภูมิใจดูด สส.มารับใช้ ปชช.เมื่อถามว่าเลือกตั้งสมัยหน้าจะมี สส.เกิน 100 ที่นั่งหรือไม่ นายอนุทินบอกว่า ตอนนี้ขอแค่ทำให้ดีที่สุด อย่าเพิ่งไปบอกว่าจะได้เท่าไหร่ การที่มีคนเข้ามาเพราะเขาเชื่อมั่นว่าพรรค ภท.มีเป้าหมายทำงานเพื่อประชาชน ไม่มีวาระซ่อนเร้น เมื่อถามว่าการมีสมาชิกเพิ่มมากขึ้น ยากต่อการจะควบคุมคนในอนาคตหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า พรรค ภท.มีการบริหารจัดการที่ดี จึงไม่ได้กังวลเรื่องนั้น ส่วนที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าตอนนี้พรรค ภท.เป็นพรรคภูมิใจดูดนั้นใครบอก แต่ถ้าดูดได้ สส.ดีๆเข้ามารับใช้ประชาชนก็ภูมิใจถูกต้องครับ เขาพูดถูกลั่นพร้อมถูกซักฟอกตรวจสอบเมื่อถามว่าพรรค พท.เตรียมเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งที่รัฐบาลเพิ่งเข้ามาพร้อมหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็ต้องพร้อม ไม่ใช่ตนคนเดียว เราทำงานเต็มที่ มั่นใจว่าทำทุกอย่างเปิดเผย วันนี้เงินช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากภัยสงคราม กดเอทีเอ็มกันได้เรียบร้อยทุกคน กำชับผู้ว่าฯและนายอำเภอ ให้แจ้งประชาชน บางทีอยู่ไกลปืนเที่ยงยังไม่รู้เรื่องต้องตามไปให้ เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ให้กรอบการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอุทกภัย ครัวเรือนละ 9,000 บาทดำเนินการไปแล้ว วันนี้โครงการคนละครึ่ง พลัส ได้รับอนุมัติทั้งงบฯ วิธีการ รูปแบบ ภายในสิ้นเดือนนี้ทุกคนจะใช้โครงการคนละครึ่ง พลัส ไป 2 เดือน หากทำไปอย่างนี้ยังมีคนไม่ไว้วางใจเราพร้อมให้ตรวจสอบ“ธรรมนัส” ฟุ้ง สส.ซบ กธ.พรึบร่วม 80เมื่อเวลา 14.00 น. ที่พรรคกล้าธรรม (กธ.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและ รมว.เกษตรฯประธานที่ปรึกษาพรรค กธ. พร้อมแกนนำพรรคแถลงเปิดตัวสวมเสื้อแจ็กเกตพรรคให้ว่าที่ผู้สมัครสส. 15 คน อาทิ พล.ท.สิทธิชัย คัตตะพันธ์ อดีตผบ.มณฑลทหารบกที่ 13 นายสุรชาติ ศรีบุศกร สส.พิจิตร พรรค พปชร. นายนิโรธ สุนทรเลขา อดีต สส.นครสวรรค์ พรรค พปชร. และนายวิกรม เตชะธีราวัฒน์ อดีตผู้สมัคร สส.เชียงราย พรรค พท. หลานชายนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ อดีต สส.เชียงราย พรรค พท. เป็นต้น โดย ร.อ.ธรรมนัสเปิดเผยว่า ยังมีว่าที่ผู้สมัคร สส.ที่ยังไม่สามารถเปิดตัวได้ บางคนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่เป็นผู้นำในรัฐบาล หลังจากนี้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคและนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ จะหารือวางยุทธศาสตร์เลือกตั้ง ว่าที่ผู้สมัคร สส.ภาคใต้ ตั้งแต่ จ.ชุมพรจนถึง จ.นราธิวาส รอเปิดตัวอีกครั้งร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นผู้สมัครที่เคยร่วมอุดมการณ์กับตนมาแล้ว ทั้งอดีต สส. และผู้สมัครที่แพ้ไม่กี่คะแนนเมื่อเลือกตั้งปี 66 จะนำบทเรียนมาแก้ไข ทำให้ได้กลับมาเป็นผู้แทนฯ วันนี้เพิ่งเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. 15 เขตภาคเหนือตอนล่าง ยืนยันมีผู้สมัครเกือบครบทุกเขตแล้ว จะทยอยเปิดพื้นที่อื่นต่อไปเร็วๆนี้ และจะเปิดตัวครั้งใหญ่ครอบคลุมภาคกลาง ตะวันออก อีสาน ภาคใต้ เมื่อถามว่ามองว่าพรรค ภท.จะเป็นคู่แข่งหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ทำตัวเลข ณ เวลานี้ มี สส.ปัจจุบันที่เป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ประมาณ 80 คน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายชื่อทั้งหมด แต่เชื่อว่าจะเป็นพลังสำคัญในการแข่งขันเลือกตั้ง“อิ๊งค์” ลั่น พท.ไม่มีวันสูญพันธุ์เมื่อเวลา 12.09 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เข้าพรรคร่วมกล่าวปาฐกถา “ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย” เปิดตัวผู้สมัคร สส.พรรค พท.185 คน มีแกนนำเข้าร่วมคึกคัก รวมทั้งนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี น.ส.แพทองธาร โดย น.ส.แพทองธารปาฐกถาตอนหนึ่งว่า รัฐบาลพรรค พท.ถูกกระทำให้เป็นฝ่ายค้าน มีคำพูดว่าพรรค พท.มาถึงทางตัน สูญพันธุ์แน่นอน ไม่เคยเชื่อและคิดอย่างนั้น ถ้าจะสูญพันธุ์คงสูญพันธุ์ไปนานแล้ว เคยโดนรัฐประหารมา 2 ครั้ง ยุบพรรค 2 พรรค กก.บห.ถูกตัดสิทธิเกือบ 200 คน ผู้ก่อตั้งพรรคถูกจองจำ แต่จิตวิญญาณพรรค พท.คือนโยบายที่ทำได้จริง นำนโยบายดีๆถึงมือประชาชนให้กินดี อยู่ดี ตนและพรรค พท.พร้อมสู้ ประเทศไทยต้องการการเมืองสร้างสรรค์ เป็นความหวังของประชาชน มีความร่วมมือของคนทุกรุ่น ต้องสรุปบทเรียนที่ผ่านมา ปรับตัวให้ทันสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป รับมือคนรุ่นใหม่ๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองจริงจังเพื่อสร้างพรรคที่ทำให้ประเทศไทยในฝันของหลายคนเกิดขึ้นจริงได้ จึงต้องยกเครื่องครั้งใหญ่วางโครงสร้างใหม่ยกเครื่องพรรคน.ส.แพทองธารกล่าวว่า พรรคกำลังยกเครื่องโครงสร้างทั้งหมด ขอประกาศให้ชัดเจนว่าอำนาจการตัดสินใจเกี่ยวกับพรรค ทิศทางการเมืองจะอยู่ที่หัวหน้าพรรคและ กก.บห. ใครมีความเห็นหรือคิดต่าง แนะนำบอกได้โดยตรง จากนี้ไม่มีเส้นทางลัด เส้นทางเลี้ยวอ้อม มีแต่เส้นทางตรงชัดเจนในการเปลี่ยนแปลง ให้เป็นเอกภาพ เชื่อมั่น สส.ทุกคนยึดโยงประชาชน จะนำข้อมูลจากประชาชนมาช่วยกันผลักดันนโยบายประเทศ โครงสร้างใหม่นี้ไม่ได้พูดแค่ภาพสวยหรู แต่เป็นโครงสร้างที่เกิดขึ้นจริง โครงสร้างแบ่งเป็นสี่เสาหลัก คือ 1.สำนักงานกิจการสภาฯ ดูแลการประสานงานการประชุมสภาฯ งาน สส.และ กมธ. 2.สำนักนโยบายเป็นเรื่องการวิจัย เป็นดีเอ็นเอที่พรรคทำต่อเนื่อง สนับสนุนนโยบายและวิชาการให้ สส. 3.สำนักเลขาธิการพรรค มีเลขาธิการพรรคเป็นหัวเรือใหญ่ บริหารจัดการกิจการพรรค มี ผอ.พรรคดูแลสำนักงานใหญ่และสำนักงานสาขา ฝ่ายเลขาธิการพรรค จะประสานงานคณะกรรมการทั้งห้าภูมิภาค อีสาน เหนือ กลาง ใต้ และ กทม.และปริมณฑล 4.สำนักสื่อสารจะมีฝ่ายยุทธศาสตร์สื่อสาร วางแผนกับกองงานโฆษก สื่อสารกับประชาชน ลดช่องว่างระหว่างพรรคกับประชาชนตั้ง “สุริยะ” นั่ง ผอ.คุมการเลือกตั้งน.ส.แพทองธารกล่าวว่า ส่วนยกเครื่องประเทศไทย จะนำเสนอนโยบายใหม่จากบทเรียนที่การเป็นรัฐบาล 2 ปี เห็นว่าระบบนิเวศการเมือง ระบบราชการมีปัญหา ทำให้ผลักดันนโยบายเกิดยาก เรามีข้าราชการมีความสามารถมากมาย แต่น่าเสียดายระบบไม่ได้ถูกสร้างอย่างบูรณาการ ซ้ำซ้อนทำงานล่าช้า พรรคอยากเปลี่ยนค่านิยมข้าราชการจากไม่ทำไม่ผิด เป็นทำเต็มที่เพื่อประชาชน จะยกเครื่องระบบการทำงานแบบบูรณาการระหว่างราชการ ส่งเสริมให้เอกชนมาร่วมแนวความคิด การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรค พท.พร้อมแล้วได้แต่งตั้งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็น ผอ. การเลือกตั้ง ต้องขอพึ่งพาทุกคน ส่วน 3 แคนดิเดตนายกฯจะเปิดในเวลาที่เหมาะสม 3 ชื่อนี้จะเป็นชื่อแห่งความหวังให้ประชาชนแน่นอน ขอบพระคุณคนที่ยังอยู่กับเรา ที่นี่คือบ้านคนเพื่อไทย ไม่มีวันทิ้งกัน ในฐานะหัวหน้าพรรคขอสัญญาจะทำให้เต็มที่ ทุ่มเทแรงกายแรงใจ สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกคนไปสุดทาง มั่นใจอย่างยิ่งว่าถ้าทุกคนทุ่มเทแรงกายแรงใจเช่นกัน ชัยชนะจะเป็นของเรา ได้ไปสร้างโอกาสให้ประชาชนทุกคน“สรวงศ์” ปัด สส.อีสานตีจากนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว เลขาธิการพรรค พท. กล่าวว่า อนาคตจะเปิดตัวครบ 400 เขตแน่นอน 4 เดือนพรรค พท.เตรียมเลือกตั้งทัน จะมีเลือดไหลออกอีกหรือไม่ ยอมรับมีเลือดไหลอยู่แล้ว บางคนอาจมีอุดมการณ์ไม่ตรงกัน ขออภัยที่อาจไม่ทำให้ทุกคนสมหวังตามต้องการ การเมืองพยายามจะทำให้ดีสุด เมื่อถามว่ากระแสข่าว สส.อีสานจะย้ายออก นายสรวงศ์ตอบว่าไม่มี ได้คุยกับทุกคนแล้ว ทุกคนมีเกียรติศักดิ์ศรี บางคนก็กลับมา“สุริยะ” โอ่ พท.กระแสพุ่งกวาด 200 สส.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรองนายกฯและรมว.คมนาคม ผอ.การเลือกตั้งพรรค พท. กล่าวว่า อยู่กับพรรคไทยรักไทยมาตั้งแต่ปี 44 ถึงปัจจุบันยังอยู่ที่นี่ รู้จัก สส.ร่วมเป็นร่วมตายกันมาจำนวนมาก ได้ดู ข้อมูลจากกระแสโซเชียลมีเดีย เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนหลังพรรค ปชน.ไปสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯ กระแสพรรค ปชน.ตกลงมาก เดิมแต่ละโพสต์มีผู้กดถูกใจ 8 หมื่นเหลือแค่หมื่นเดียว กระแสพรรค ปชน.ตกลง เราจะได้ สส.เพิ่มเติมขึ้น เชื่อมั่นเรื่องนี้ และตั้งเป้า สส.พรรค พท.จะได้ไม่น้อยกว่า 200 คนบวกลบ 10% แล้วคอยพิสูจน์กันตอนเลือกตั้ง ขอความเชื่อมั่นรอดูพิสูจน์คำพูดตนว่าจะจริงหรือไม่ คาดการณ์กระแสพรรค ปชน.ที่ตกลงไป ประเมินว่าจะได้ สส.ไม่เกิน 100 ที่นั่ง ส่วนพรรค ภท. ที่มี สส.เดิม 70 ที่นั่งรวม สส.ที่ดึงจากพรรคอื่น น่าจะมี สส.ประมาณ 120 ที่นั่ง ทั้งนี้ หลังนายสุริยะให้สัมภาษณ์จบ น.ส.แพทองธารที่ยืนอยู่ด้านข้างยกนิ้วโป้งให้ 2 นิ้วกล่าวว่า ภูมิใจที่ได้แต่งตั้งท่านสุริยะเป็น ผอ.การเลือกตั้ง ก่อนหันไปพูดกับนายสุริยะว่า “เยี่ยม ดีใจ และมีกำลังใจเลยค่ะ”“สมศักดิ์” ลั่นยังปักหลักฐานที่มั่นเดิมที่พรรคเพื่อไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรค พท. กล่าวว่า เท่าที่ดูภาคเหนือตอนล่าง จ.สุโขทัย มาครบเป็นคนเก่า จ.สุโขทัย พรรค พท.ได้ สส.ครบ 4 เขต วันนี้ยังประเมินไม่ได้จะได้ผู้แทนฯเท่าใด แต่ไม่ประมาท เชื่อว่าบางพรรคที่เคยได้คะแนนมากจะลดลงจากที่ดูโพล แต่ไม่ได้เชื่อโพลทั้งหมด พรรค พท.ตอนแรกมองว่าจะลดลง แต่มาเทียบกับสัดส่วนผลกระทบที่ออกมากลับไม่ใช่ เมื่อถามว่าสส.ภาคเหนือตอนล่างรวมถึงนายสมศักดิ์จะยังอยู่กับพรรค พท.ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบว่า เปิดตัววันนี้ชัดเจนแล้ว ไม่ได้หายไป แต่มีงานซ้อนงานอาจหายไปบ้าง ช่วยหาเสียงก็ไป ยกเว้น จ.กาญจนบุรีคนละโซนกัน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคพท. ยังยืนยันอยู่กับพรรค พท.ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ที่ผ่านมาสื่อคาดการณ์ผิดหมด ตนไม่ได้ย้ายไปไหน แต่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค“สุทิน–สมคิด” ยืนมั่นคงไม่ทิ้งพรรคนายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.กล่าวถึงกระแสข่าวย้ายพรรคว่าไม่เคยคิดเลย ยอมรับมีคนติดต่อมาบ้าง ถ้าจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นไปได้มากที่สุดคือตั้งพรรคเอง กรณีพรรค พท.เดินไม่ได้จริงๆ หรือพรรคไม่ให้เราอยู่ ยืนยันยังมั่นคงอยู่กับพรรคพท. สส.มหาสารคาม หรือ สส.กลุ่มอีสานช่วงนี้ชวนย้ายพรรคมีเยอะ จ.มหาสารคามมีหลายคน แต่เชื่อว่ายังมั่นคงกันทุกคน ความนิยมพรรค พท. จ.มหาสารคามเหนียวแน่น ไม่อ่อนไหวนายสมคิด เชื้อคง อดีต สส.อุบลราชธานี พรรค พท. กล่าวว่า จ.อุบลราชธานี มีว่าที่ผู้สมัคร สส.มาร่วมงานทั้งคนใหม่คนเก่า ข่าวจะย้ายออกไม่มี แต่ให้ลูกชายลง สส.เขต ตนจะลง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. จ.อุบลราชธานี ยังเหนียวแน่น แม้นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ อดีต สส.อุบลราชธานี ลาออกไป ไม่เป็นไรยังเป็นเพื่อนกัน สส.กลุ่มอีสานใต้ได้คุยเฉพาะ จ.อำนาจเจริญ ไม่มีปัญหากมธ.เรียก “ไชยชนก” แจงสินบน 40 ล้านอีกเรื่องนายสยาม หัตถสงเคราะห์ สส.หนองบัวลำภู พรรค พท. ประธาน กมธ.การสื่อสารโทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สภาฯกล่าวถึงกรณีนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดีอี ระบุมีคนติดต่อเสนอเงินให้เดือนละ 40 ล้านบาท ไม่ให้จับคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์และเว็บพนันว่า เป็นการพูดที่รัฐมนตรีต้องรับผิดชอบ ต้องตรวจสอบดำเนินคดีคนที่มาให้สินบน ต้องไม่เงียบหาย กมธ.จะติดตามใกล้ชิด กังวลหลังเปลี่ยนรัฐบาล อาชญากรรมไซเบอร์จะกลับมา แค่ช่วงรอยต่อระหว่างรัฐบาลเก่าสู่รัฐบาลใหม่ อาชญากรรมไซเบอร์ฟื้นตัวกลับมาสร้างความเสียหายให้เศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้น เกิดคดีหลอกลวงโอนเงินไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ต่ำกว่าวันละ 90 ล้านบาท มูลค่าเสียหายทั้งระบบไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทต่อเดือน วันที่ 9 ต.ค. กมธ.เชิญนายไชยชนก และปลัดกระทรวงดีอี ตำรวจไซเบอร์มาชี้แจงการติดตามคนเสนอให้สินบน และแผนงานปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ของรัฐบาล น่าตกใจรัฐบาลใหม่ยังไม่มีนโยบายแก้อาชญากรรมไซเบอร์ที่ชัดเจน ต่างจากรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ปกป้องทรัพย์สินประชาชนหลายหมื่นล้านบาทต่อปี“ไชยชนก” ดอดแจ้งความกองปราบฯผู้สื่อข่าวรายงานจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ว่า เมื่อค่ำวันที่ 6 ต.ค. นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดีอี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.เผ่าภูมิ สมหมาย รอง ผกก. (สอบสวน) กก.1 บก.ป. กรณีการอภิปรายในสภาฯแถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่ามีผู้มาติดสินบน 40 ล้านบาท แลกไม่ให้เร่งปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ และพนันออนไลน์ ต้องการให้ตำรวจกองปราบปรามสืบสวนตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี เพราะการติดสินบนเป็นการกระทำความผิดกฎหมายอาญามาตรา 144 ผู้ใดให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัดหรือสมาชิกสภาเทศบาล จูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับบช.ก.ชง ป.ป.ช.ฟันผิดติดสินบน จนท.รัฐมีรายงานว่าพนักงานสอบสวนกองปราบฯสอบ ปากคำนายไชยชนกนานกว่า 6 ชั่วโมงได้ข้อเท็จจริงว่าปลายเดือน ก.ย.มีนายภูวศิษฐ์ ไชยอรุณโรจน์ หรือ ดิว ไปพบนายฉัตรมงคล รุ่งสัมพันธ์ ผู้ชำนาญการส่วนตัวของ น.ส.พิมพฤดา ตันจรารักษ์ หรือพิมพ์ สส.อยุธยา พรรค ภท.ที่บริษัทรับตกแต่งภายใน ย่านยานนาวา นายภูวศิษฐ์บอกกับนายฉัตรมงคลว่าจะจ่ายเงิน 40 ล้านบาทต่อเดือนให้นายไชยชนกแลกกับการไม่ให้เร่งปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมออนไลน์ ต่อมานายฉัตรมงคลนำเรื่องไปบอกนายวรศิษฐ์ เสียงประสิทธิ์ หรือโกแพ สส.สตูล พรรค ภท.กระทั่งวันที่ 30 ก.ย. นายวรศิษฐ์นำเรื่องมาบอกให้นายไชยชนกทราบ ก่อนนำไปแถลงในสภาฯ เมื่อนายไชยชนกทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมาย จึงนำเรื่องเข้าแจ้งกับ พงส.กองปราบปราม เพื่อให้จับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี พล.ต.ต.พัฒศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ป. รายงานผู้ บังคับบัญชาระดับสูงใน บช.ก.ทราบ ก่อน พงส.กองปราบฯจะเร่งรวบรวมหลักฐาน ก่อนส่งสำนวนสอบสวนให้ ป.ป.ช.พิจารณาวันที่ 8 ต.ค. เป็นการกระทำความผิดต่อเจ้าหน้าที่รัฐและผิดกฎหมายอาญามาตรา 144 กำหนดไว้ตาม พ.ร.ป. ป.ป.ช.มาตรา 176 ให้ส่งสำนวนสอบสวนให้คณะกรรมการป.ป.ช.พิจารณาสั่งการต่อไป“โรม” เย้ย “ผู้กองนัส” กลับลำ 360 องศาที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน.ประธานคณะ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ กล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และ รมว.เกษตรฯ ประกาศพร้อมให้ข้อมูลกับ กมธ.เรื่องที่รู้จักกับนายเบน สมิท หรือเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ นักธุรกิจชาวต่างชาติ ว่า เชิญไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เชิญนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการด้วย และเชิญนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดีอี ประเด็นสินบน 40 ล้านบาท ไม่ได้เรียกเพราะเกลียดชัง ผลประโยชน์ทับซ้อนหรือแกล้งใคร ร.อ.ธรรมนัสพยายามจะเล่นใหญ่ แล้วอยู่ๆกลับตัว 360 องศา ไม่ดำเนินคดี แย่มากที่รองนายกฯไปฟ้องร้องดำเนินคดีสื่อ ไปดำเนินคดี 200-300 กรณีตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ต้องตอบคำถามสังคมเป็นลูกไม้ลูกมือ ร.อ.ธรรมนัสหรือไม่เพื่อฟ้องปิดปากเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบได้ข้อมูลอีก 48 หน้าจ่อสาวต่อจีนเทา“หลังเปิดเรื่องที่ปรึกษาสมเด็จฮุน เซน อาจเกี่ยวพันกับเส้นเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และหากดูสิ่งที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อภิปราย ค่อนข้างชัดเจนว่าเงินดำต้องสงสัยว่าเป็นของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชากำลังมายึดประเทศเรา เราควรให้ความสำคัญใส่ใจมากกว่านี้ คนระดับรองนายกฯควรตรวจสอบ ไม่ใช่มาดำเนินการทางกฎหมายแล้วมาปิดปากผม ไม่รู้ว่าจุดยืน ร.อ.ธรรมมนัสเรื่องนี้คืออะไร หลังเปิดเรื่องนี้มีคนส่งข้อมูลมาเยอะ เมื่อวานเพิ่งได้ข้อมูลมา 48 หน้า เกี่ยวกับที่ปรึกษาสมเด็จฮุน เซน มีแถมมาว่าให้ไปถามข้อมูลจาก ร.อ.ธรรมนัสเรื่องจีนเทา ท่านน่าจะมีข้อมูลเหล่านี้อยู่เยอะ เดี๋ยวคงได้มีการดำเนินการต่อไป” นายรังสิมันต์กล่าว“ธรรมนัส” ส่งทีม ก.ม.แจง กมธ.มั่นคงฯที่พรรคกล้าธรรม (กธ.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและ รมว.เกษตรฯ กล่าวถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.พรรค ปชน. ประธาน กมธ. ความมั่นคงแห่งรัฐฯ เชิญ ร.อ.ธรรมนัสเข้าไปชี้แจงต่อ กมธ.กรณีนายเบน สมิท นักธุรกิจชาวต่างชาติ ว่า ตนเป็น สส.และวันที่ 8 ต.ค. ตนมีประชุมสภา จากนั้นจะลงพื้นที่ไปช่วยเหลือประชาชนจากเหตุอุทกภัยที่ จ.นครสวรรค์และ จ.ตาก ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปชี้แจงแทน ส่วนตัวไม่ต้องไปชี้แจงต่อ กมธ. สิ่งที่ทุกคนอยากรู้ตนได้แถลงกับสำนักข่าวแห่งหนึ่งไปหมดแล้วจี้ สว.ชะลอคัด กก.องค์กรอิสระเมื่อเวลา 09.30น. ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส พร้อม นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ และนายเศรณี อนิลบล สว. ร่วมแถลงข่าวคัดค้านการตั้งคณะ กมธ.ตรวจสอบประวัติผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) 2 ตำแหน่งว่า ตั้งแต่ สว.เสียงข้างมากถูกแจ้งข้อหาฮั้ว สว.กลุ่มสว.อิสระเรียกร้องให้ชะลอลงมติเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระไปจนกว่าคดีจะเสร็จสิ้นกระบวนการ เพราะเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน เหมือนเลือกผู้ไปตัดสินคดีตัวเอง แต่เมื่อพรรค ภท.เป็นรัฐบาล แต่งตั้งรมว.ยุติธรรมสายตรงบุรีรัมย์ ยิ่งสร้างความกังวลใจต่อสังคมที่จับตาคดีฮั้ว สว. คดีจะพลิกผันหรือถูกเป่าหรือไม่ หากปล่อยให้แต่งตั้งองค์กรอิสระต่อเนื่อง กมธ.ตรวจสอบคุณสมบัติเป็นคนเดิมวนเวียนกันในกลุ่ม สว.ข้างมากแฉล็อก กก.สอบคุณสมบัติหน้าซ้ำน.ส.นันทนากล่าวต่อว่า สถิติ กมธ.ตรวจสอบคุณสมบัติเต็งหนึ่งนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร เป็น 11 ครั้ง นายวิรัตน์ รักพันธุ์ สว. 8 ครั้ง นายเอนก วีรพจน์ 7 ครั้ง พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ และนายอภิชาติ งามกมล 6 ครั้ง ตั้งแบบวนเวียนไม่เป็นธรรม เหตุผลง่ายๆ กระบวนการตรวจสอบและคัดเลือกทั้งหมดเป็นความลับ จะกล่าวหาใครหรือยกย่องใคร แล้วแต่ กมธ.หยิบยกหรือขุดขึ้นมา ไม่ต่างกับปิดประตูตีแมวหรือไม่ หากกระบวนการคัดเลือกคนเข้าสู่องค์กรอิสระ ใช้วิธีเวียนเทียนอยู่กับกลุ่มคนเดิมๆที่รู้กัน ไม่สนใจความรู้ ความสามารถ จะได้แต่เครือข่ายพวกเดียวกัน ไม่โปร่งใส ตนยังถูกสกัดกั้นเมื่ออภิปรายตั้งข้อสังเกตระหว่างประชุมวุฒิสภา ถูกให้ร้ายประท้วงไล่ออกนอกห้องประชุม ถูกกล่าวหาเป็นโรคจิต ยืนยันจะไม่หยุดการต่อสู้ เพื่อผลประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติ จะไม่ยอมให้กินรวบองค์กรอิสระ เพราะคือหายนะของประเทศ“หมอเปรม” จับตาเฟ้น กกต.คนของใครด้าน นพ.เปรมศักดิ์กล่าวว่า 3 เดือนนี้จะเป็นวิกฤติมาก เพราะสรรหาอย่างเร่งรีบให้ทันการเลือกตั้ง พรรคต่างๆหวั่นไหวว่าแม้ชนะเลือกตั้ง แต่จะได้เข้ามาเป็น สส.ได้หรือไม่ ต้องต่อสู้กับ กกต.ที่อาจไม่เป็นกลาง อย่าเพิ่งมอง 4 เดือนจะยุบสภาหรือไม่ ต้องมองว่า 4 เดือนจากนี้จะสรรหา กกต.เป็นคนของใคร ส่งผลต่อพรรคใด อย่างน้อยถ้าจะเลือกตั้งทั่วไปในปี 69 จะบริสุทธิ์ยุติธรรมหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่โฉมหน้ากกต.ว่าเป็นสีใดเหน็บ “สภาวุฒิชาติ” ไม่ใช่วุฒิสภานายเศรณี อนิลบล สว. กล่าวว่า สภายุคนี้เป็น สภาวิบัติ กินร่วม เห็นแก่ตัว พวกตนเคยลงชื่อ 21 คน ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า สว.ทั้ง 138 คนสมควรจะดำรงตำแหน่งอยู่หรือไม่ ชะตากรรมที่พวกตนได้รับคือสมุดปกดำหรือเดดล็อก มีรายชื่อ สว.21 คน แจกจ่ายไปในกลุ่ม สว.สีน้ำเงิน ห้ามปฏิสัมพันธ์ ห้ามแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใดๆ ใครคิดต่างหรือคิดตรงกันข้ามจะเป็นแบบนี้ เห็นชัดการแต่งตั้ง กมธ.ต่างๆ วนเวียนอยู่แค่ 30-40 กว่าคน ทั้งที่มี สว.กว่า 200 คน หรือคนอื่นทำงานไม่เป็นหรือไม่ สว.สีน้ำเงิน 1 คนเป็น กมธ.เกือบ 20 คณะ ไม่ได้ตั้งคนตามความรู้ ความสามารถ สว.อิสระถูกเสนอชื่อผ่าน กมธ. แต่เมื่อไปถึงวิปวุฒิสภาถูกเขี่ยออกไม่ให้เป็น วิปวุฒิใหญ่มาก โดยเฉพาะนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร หลายคนเรียกสภาฯนี้ว่าสภาวุฒิชาติ ไม่ใช่วุฒิสภาแล้ว วันนี้ สว.สีน้ำเงินพับสนามกินรวบ ทำทุกวิธีที่จะให้ตัวเองมีอำนาจเท่านั้น“นิกร” ชี้ร่างแก้ รธน.สีส้มส่อขัดศาล รธน.ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง ผอ.พรรคชาติไทยพัฒนา เลขานุการ กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติแถลงถึงกรณีที่ประชุมรัฐสภานัดประชุมวันที่ 14-15 ต.ค.พิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระแรกที่มี 3 พรรคเสนอว่า อาจมีประเด็นปัญหา โดยเฉพาะเนื้อหาร่างแก้ไขเพิ่มเติมของพรรค ปชน.ที่ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) 100 คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน ส่ออาจขัดกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญล่าสุดได้ ยังมีเงื่อนไขเวลาที่อาจทำให้ไม่สามารถทำประชามติเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่พร้อมการเลือกตั้ง สส.ทั่วไปหลังยุบสภาในเดือน ม.ค.69 ได้ เพราะมีกฎหมาย 4 ฉบับที่ไม่สอดคล้องกัน 1.รัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อ 10 ก.ย. ให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เริ่มต้นจากรัฐสภา กระบวนการต้องมาจากรัฐสภาไม่ใช่เริ่มจากรัฐบาล 2.กฎหมายเลือกตั้ง สส.ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ใน 45-60 วัน หากยุบสภาวันที่ 31 ม.ค.69 วันเลือกตั้ง สส.ทั่วไปอาจเกิดวันอาทิตย์ที่ 29 มี.ค.69 3.กฎหมายประชามติที่ยังเป็นเนื้อหาฉบับเก่า ต้องมีระยะเวลาก่อนทำประชามติไม่น้อยกว่า 90 วัน ไม่สามารถทำในวันเดียวกันกับการเลือกตั้ง สส.ได้ แม้ว่าร่างกฎหมายประชามติฉบับแก้ไข จะปรับเนื้อหาให้ทำพร้อมกับการเลือกตั้งและปรับระยะเวลาที่ต้องทำภายใน 60-150 วันได้ แต่ร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติยังไม่มีผลบังคับใช้ และ 4.ข้อบังคับการประชุมรัฐสภาว่าด้วยประชุมเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญชงเปิดสภาวิสามัญหวั่นยุบสภาไม่ได้นายนิกรกล่าวว่า หากรัฐสภานัดประชุมวาระแรกพิจารณาแก้รัฐธรรมนูญ 14-15 ต.ค. ต้องลงมติวันที่ 15 ต.ค.จะรับหลักการหรือไม่ และตั้ง กมธ. เชื่อว่า กมธ.จะมีเวลาทำงานช่วงเดือน พ.ย.ถึง 12 ธ.ค. ที่จะเปิดสมัยประชุม รัฐสภาจะประชุมนัดแรกหลังเปิดสมัยได้ในวันที่ 17 ธ.ค. พิจารณาวาระสอง จากนั้นต้องพักไว้ 15 วันเพื่อลงมติจะเห็นชอบทั้งฉบับหรือไม่ คาดว่าจะช่วงปลายเดือน ธ.ค.แม้จะผ่านการนำไปทำประชามติได้ตามกฎหมายฉบับเดิมต้องมีเวลาไม่น้อยกว่า 90 วัน หากยุบสภาเวลาที่ใช้ทำประชามติเพื่อถามประชาชนต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามคำถามแรก และคำถามที่ 2 จะ ไม่สามารถทำได้ แต่มีทางออกอาจต้องให้รัฐสภาเปิดสมัยประชุมวิสามัญกลางเดือน พ.ย.เพื่อพิจารณาวาระสอง ขณะที่วาระสามทำได้ช่วงเปิดสมัยประชุม จะทำให้มีเวลาพอทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญพร้อมกับการเลือกตั้ง สส.ทั่วไปในเดือน มี.ค.69 ได้ ประเด็นทางกฎหมายที่ขัดกัน ถ้าไม่หาวิธีแก้ไขให้ดี อาจทำให้กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญล้มทั้งยืน อาจมีผู้ไปยื่นร้องว่าทำผิดได้ และจะผิดเอ็มโอเอพรรค ภท.กับพรรค ปชน.ต้องขยับเงื่อนไขยุบสภาตามที่ข้อตกลงทางการเมืองระบุไว้จำคุก 5 แกนนำ นปช.ศาลให้ประกันตัวเมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณา 909 ที่ศาลอาญา ศาลนัดฟังคำพิพากษาครั้งที่ 2 คดี หมายเลขดำ อ.968/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้องนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายสิระ หรือสรวิชญ์ พิมพ์กลาง แกนนำคนเสื้อแดง จ.สกลนคร นายณรงศักดิ์ มณี นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์, นายพายัพ ปั้นเกตุ นายพงศ์พิเชษฐ์ หรือ พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง นายอดิศร เพียงเกษ นายพีระ พริ้งกลาง (เสียชีวิต) และนายเมธี อมรวุฒิกุล อดีต นักแสดงชื่อดังเป็นจำเลย 1-13 ฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป สร้างความกระด้างกระเดื่องก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548 กรณีชุมนุมปิดทำเนียบฯขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อวันที่ 31 ม.ค.-9 เม.ย.52 ศาลพิพากษาจำคุกนายวีระกานต์ นายจตุพร นายณัฐวุฒิ นพ.เหวง และนายอดิศร คนละ 6 ปีคำเบิกความจำเลยทั้งห้าเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้างลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ 4 ปี 4 เดือนไม่รอลงอาญา ต่อมาศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว มีหลักทรัพย์ประกันคนละ 2 แสนบาทอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่