สุโขทัยคลายวิกฤติหลังฝนทิ้งช่วงระดับน้ำเริ่มลดลง ถนนสายหลักเปิดการจราจรได้แล้ว เร่งซ่อม พนังกั้นน้ำพังรอรับพายุลูกใหม่ “บางระกำโมเดล” วิกฤติหนัก รับมวลน้ำจากสุโขทัยเกินเป้าหมายกว่า 130% ชลประทานต้องหน่วงน้ำไว้ยังระบายลงภาคกลาง ไม่ได้ เขื่อนเจ้าพระยาระดับน้ำทรงตัว ระบาย 2,500 ลบ.ม./วินาที ต่อเนื่องวันที่ 3 ระทึกพนังแตก 2 จุด น้ำทะลักท่วมบ้านเรือนกว่า 100 หลัง จมมิดกว่า 1.2 เมตร ชาวบ้านอพยพวุ่นหนีน้ำขึ้นไปอยู่เพิงพัก บนถนน “อิ๊งค์” นำทีมเพื่อไทยลงพื้นที่ปลอบขวัญให้กำลังใจชาวอุตรดิตถ์ รับปากช่วยเหลือผ่าน สส. เร่งเยียวยาให้เร็ว พายุไต้ฝุ่น “แมตโม” เคลื่อนขึ้น ฝั่งตอนใต้ของจีนแล้วจะอ่อนกำลังลง ส่งผลให้ไทยฝนหนักอีกรอบ 6-7 ต.ค.นี้สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ยังอ่วมหนัก ถึงแม้ว่าฝนจะทิ้งช่วงเบาบางลงแต่ยังมีมวลน้ำมหาศาลจากอิทธิพลของพายุ “บัวลอย” ที่สลายตัวไปเมื่อช่วงปลายเดือน ก.ย. กับพายุลูกใหม่ “แมตโม” ที่กำลังเคลื่อนขึ้นฝั่งจะทำให้ฝนตกหนักอีกระลอก เมื่อวันที่ 5 ต.ค. จ.สุโขทัย น้ำท่วมในตัวเมืองมีแนวโน้มเริ่มคลี่คลาย เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำยมลดลงไม่เอ่อล้นแนวพนังกั้นน้ำแล้ว ประกอบกับไม่มีฝนตกในพื้นที่ นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ผวจ.สุโขทัย สั่งการให้นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ รอง ผวจ.สุโขทัย นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหาย ซ่อมแซมจุดเสี่ยงที่ติดแม่น้ำยม โดยเฉพาะบริเวณหลังร้านอาหารเฟื่องฟ้า ต.ธานี หรือบริเวณที่ดินทรุดตัวเป็นโพรงขนาดใหญ่ ข้างประตูระบายน้ำคลองกระชงค์ พื้นที่ติดต่อระหว่างเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีกับหมู่บ้านชานเมืองพัฒน์ ต.ยางซ้ายด้าน พ.ต.อ.นราธิป คนธรรม ผกก.สภ.เมืองสุโขทัย ได้เปิดการจราจรในเส้นทางหลักที่ก่อนหน้านี้มีน้ำท่วมสูงแล้ว ประกอบด้วย ทางหลวงหมายเลข 101 (จรดวิถีถ่องสายหน้า) ตั้งแต่แยกบางแก้วถึงแยกท่าช้าง ทางหลวงหมายเลข 1195 (สุโขทัย-วังไม้ขอน สายหลัง) ตั้งแต่แยกสถานีวิทยุถึงอู่ช่างแขก และถนนสิงหวัฒน์ ช่วงตั้งแต่เชิงสะพานพระร่วงฝั่งตะวันตกถึงสี่แยกคลองโพธิ์ น้ำลดลงจนสามารถสัญจรได้ตามปกติแล้วจ.พิษณุโลก รับมวลน้ำจาก จ.สุโขทัย ไหลเข้าสู่พื้นที่บางระกำโมเดลใน อ.พรหมพิราม อ.เมืองพิษณุโลก และ อ.บางระกำ พื้นที่ 256,000 ไร่ เกินเป้าหมายที่ชลประทานกำหนดไว้ 400 ล้าน ลบ.ม. ล่าสุดหน่วงน้ำไว้ถึง 523.39 ล้าน ลบ.ม. หรือ 130.85% แล้ว ส่งผลให้ระดับน้ำท่วมขังในพื้นที่เฉลี่ย 1.63 เมตร นายชำนาญ ชูเที่ยง ชลประทานจังหวัดพิษณุโลกเผยว่า จากปริมาณน้ำที่มีจำนวนมากทำให้ปีนี้มวลน้ำที่ไหลเข้าสู่พื้นที่บางระกำโมเดลมีมากกว่าทุกปี กักเก็บไว้เกิน 130% ส่งผลกระทบต่อถนนสายหลักที่เชื่อมโยงตามหมู่บ้านต่างๆที่ต้องถูกน้ำท่วมมากขึ้น เป็นเช่นนี้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ เนื่องจากไม่สามารถระบายลงสู่ลุ่มน้ำภาคกลางได้ อีกทั้งการระบายลงสู่แม่น้ำน่านก็ทำลำบาก เนื่องจากแม่น้ำน่านยังสูงมาก ต้องให้ลดระดับลงอีกเหลือประมาณ 7 เมตรถึงจะสามารถระบายได้มากขึ้นจ.พิจิตร แม่น้ำน่านที่ไหลผ่าน อ.เมืองพิจิตร อ.ตะพานหิน และ อ.บางมูลนาก ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายพื้นที่น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนริมฝั่งแม่น้ำ นายกิติพล เวชกุล รอง ผวจ.พิจิตร นำคณะลงพื้นที่ติดตามจุดสูบระบายน้ำข้างโรงเรียนเทศบาล 5 ธันวามหาราช หลังพบว่ามีน้ำรั่วไหลทะลักเข้ามาในเขตเทศบาลเมืองพิจิตร นายกิติพลเผยว่า สถานการณ์แม่น้ำน่านยังวิกฤติ ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สั่งระดมเจ้าหน้าที่ อส. ฝ่ายปกครอง และได้รับการสนับสนุนกำลังทหารจาก มทบ.ที่ 36 นำกระสอบทรายและบิ๊กแบ็กเร่งปิดกั้นและเสริมพนังกั้นน้ำให้หนาแน่นและแข็งแรงเพื่อป้องกันมวลน้ำทะลักเข้าสู่ย่านเศรษฐกิจในตัวเมือง ส่วนพื้นที่รอบนอกคันกั้นน้ำ มีน้ำล้นตลิ่งท่วมขยายวงกว้าง ได้เข้าช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางเป็นการด่วนแล้วจ.นครสวรรค์ รับมวลน้ำจากภาคเหนือทำให้ระดับน้ำในลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำน่าน และลุ่มน้ำเจ้าพระยา สูงขึ้นต่อเนื่องจนล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนริมน้ำจำนวนมาก อาทิ ชุมชนบางปรอง วัดตะแบก ตลาดใหม่ ชุมชนสถานีรถไฟปากน้ำโพ และชุมชนชอนตะวัน นายจิตติเกษมณ์ นิโรจน์ธนรัฐ นายก เทศมนตรีนครนครสวรรค์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งนำกระสอบทรายอุดบล็อกท่อระบายน้ำและทำแนวคันกั้นน้ำป้องกันพื้นที่เขตเศรษฐกิจการค้า พร้อมแจ้งเตือนชาวบ้านในพื้นที่ต่ำ อาทิ ดาวดึงส์ หัวเมืองพัฒนา ศูนย์สาธารณสุขที่ 1 และในเมืองบางจุด ให้ยกของขึ้นที่สูงภาคอีสาน จ.อุบลราชธานี แม่น้ำมูลเอ่อล้นเข้าท่วมชุมชนท่ากอไผ่ เทศบาลเมืองวารินชำราบ อ.วารินชำราบ ชาวบ้านเร่งขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูงพร้อมอพยพออกจากบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมสูงมาพักอาศัยอยู่ลานใต้สะพานเสรีประชาธิปไตย และบางส่วนไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวที่วัดหาดสวนสุข ผู้ประสบภัยต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ขอเต็นท์ที่พักอาศัยยากเนื่องจากจำนวนผู้อพยพมีจำนวนมาก ต้องวางข้าวของไว้กลางแจ้งจนถูกฝนตกใส่เสียหาย ขณะนี้มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมแล้ว 12 ชุมชน 588 ครอบครัว 2,530 คน ต้องอพยพหนีน้ำท่วมออกมา 255 ครอบครัว 939 คนสถานการณ์เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ระดับน้ำ ทรงตัว ห่างจากตลิ่ง 40 ซม. อัตราการระบายน้ำผ่านเขื่อน 2,500 ลบ.ม./วินาที ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 จนทำให้เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 4 ต.ค. เกิดเหตุแนวคันดิน ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแตก 2 จุด บริเวณหน้าวัดสมอ หมู่ 3 ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท น้ำไหล ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 100 หลัง ระดับน้ำบางจุดสูงถึง 1.2 เมตร ชาวบ้านต้องรีบขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูงและขึ้นไปอยู่บนชั้นสองของบ้าน ส่วนบ้านชั้นเดียวไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ต้องขนข้าวของอพยพขึ้นไปพักอาศัยบนถนนสายคันคลองมหาราช สร้างเพิงพักหรือเช่าเต็นท์มากางเป็นที่อยู่อาศัยหลับนอนกันริมถนนตลอดเส้นทางยาว 5 กม.รวมกว่า 400 คนจ.อ่างทอง น้ำจากเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมบริเวณลานหน้าโบสถ์พระศรีเมืองทอง วัดต้นสน อ.เมืองอ่างทอง ระดับน้ำสูง 30-40 ซม. หลังระดับน้ำ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและเครื่องสูบน้ำเกิดปัญหาทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมภายในวัดอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ เทศบาลเมืองอ่างทองเร่งเจาะพื้นเตรียมวางท่อสูบน้ำ ระบายออก ส่วนที่ถนนเทศบาล 8 ริมเขื่อนแม่น้ำเจ้าพระยา ต.ตลาดหลวง เป็นจุดแอ่งกระทะมีบ้านเรือน 3 หลัง อยู่ในสภาพวิกฤติหนักน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านอยู่ด้วยความยากลำบากจ.ปทุมธานี แม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมบริเวณชุมชนหน้าวัดบางหลวง หมู่ 4 ต.บ้านฉาง และ ชุมชนคลองบางโพธิ์ใต้ หมู่ 3 ต.บางหลวง อ.เมือง ปทุมธานี วันนี้น้ำท่วมสูงกว่าทุกวันบางจุดเกือบ 2 เมตร น.ส.สุกาญญา ดีสวัสดิ์ หรือนายกเจี๊ยบ นายกเทศมนตรีตำบลบางหลวง นำทีมงานลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้านในชุมชนหน้าวัด บางหลวง มีบ้านเรือนกว่า 150 หลัง ได้รับความเดือดร้อน ทางเทศบาลได้สร้างสะพานทางเดินในชุมชน ระยะทางร่วม 300 เมตร ส่วนชุมชนบ้านคลองบางโพธิ์ใต้ มีบ้านเรือนกว่า 20 หลัง ชาวบ้านต้องการเรือ หรือโฟม ในการสัญจรเข้าออก ทางเทศบาล จะเร่งจัดหาให้ต่อไปวันเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำคณะเดินทาง ไปที่บ้านวังปรากฏ ต.ป่าคาย อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ ตรวจสอบความเสียหายและผลกระทบจากน้ำท่วม มีกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่รายงานว่า เป็นน้ำที่มาเร็ว และไปเร็ว แม้จะได้รับการแจ้งเตือนแต่ไม่ทันได้ตั้งตัว น้ำท่วมบ้านบางหลังมิดหลังคา จากนั้นเข้าเยี่ยมบ้านเรือนชาวบ้านผู้ประสบภัย ก่อนจะเดินทางต่อไป ยังวัดคีรีวงกต ต.ป่าคาย ให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพ บรรเทาทุกข์ให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนน.ส.แพทองธารกล่าวว่า ดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเจอประชาชน หลังพ้นจากตำแหน่งนายกฯ รู้สึกอบอุ่นเสมอทุกครั้งที่ได้มาลงพื้นที่ เป็นความรู้สึกตั้งแต่ก่อนรับตำแหน่งนายกฯว่า การได้มาเจอ พี่น้องทุกครั้งจะได้รับกำลังใจทุกครั้ง เมื่อสักครู่ตอนลงพื้นที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หมดเลยไม่เหลืออะไรเลย เห็นใจจริงๆ แต่ถึงไม่เหลืออะไรยังเหลือกำลังใจ เหลือกันและกันคอยช่วยเหลือ ตนจะคอยช่วยเหลือผ่าน สส. เร่งการช่วยเยียวยาให้ได้ โดยเร็ว ขอให้ทุกคนมีสุขภาพกายและสุขภาพใจแข็งแรง ช่วงนี้อาจจะหนักหน่อยแต่ขอให้กำลังใจทุกคนจากนั้น น.ส.แพทองธารนำคณะเดินทางไปมอบถุงยังชีพให้กำลังใจชาวบ้านที่วัดศรีสะอาด ต.น้ำอ่าง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ เดินเท้าลงพื้นที่ไปหา ชาวบ้านแต่ละหลังไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบอย่างเป็นกันเอง มีชาวบ้านเข้ามาสวมกอดพร้อมชี้ให้เห็นร่องรอยน้ำท่วมที่ทิ้งไว้บริเวณผนังบ้านสูงระดับมิดชั้นหนึ่งของตัวบ้าน จากนั้นไปพูดคุยกับชาวบ้านที่ มารอต้อนรับที่ศาลาการเปรียญวัดศรีสะอาด น.ส.แพทองธารกล่าวว่า มาพร้อม สส.เพื่อไทย อยากมา ให้กำลังใจพี่น้องด้วยตัวเอง เท่าที่คุยทราบว่าเป็นปัญหาที่หนักมาก ขอส่งกำลังใจให้ทุกคน ถึงวันนี้จะเป็นฝ่ายค้าน แต่มีกำลังใจทำเพื่อพี่น้องประชาชน อยากให้ทุกคนมีหวัง จากนั้นทั้งหมดร่วมกันมอบถุงยังชีพพูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นเต็มไปด้วยกำลังใจด้านนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่มอบเครื่องอุปโภคบริโภคบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยที่วัดศรีสะอาด ต.น้ำอ่าง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ และที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก นายศักดิ์ดากล่าวว่า นายกฯและ ครม.ห่วงใยประชาชน ได้ตั้งคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (คอภ.) เป็นกลไกหนุนเสริมการบริหารจัดการสาธารณภัย พร้อมกันนี้ ครม.และหัวหน้าส่วนราชการ กระจายกำลังกันลงพื้นที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ รัฐบาลมอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ปภ. กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านวิชาการ ระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วนแสวงหาแนวทางการป้องกันน้ำท่วมในอนาคตประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาเรื่องพายุ “แมตโม” ฉบับที่ 9 ระบุว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 5 ต.ค. พายุไต้ฝุ่น “แมตโม” ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งตอนใต้ของมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนแล้ว ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กม.ต่อ ชม. กำลังเคลื่อนตัว ทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็วประมาณ 20 กม.ต่อ ชม. คาดว่าจะเคลื่อนลงสู่อ่าวตังเกี๋ยตอนบนในคืนวันนี้ และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรงก่อนเคลื่อนขึ้นฝั่งตอนใต้ของมณฑลกว่างซี ประเทศจีน หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วตามลำดับ โดยไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย จากอิทธิพลของพายุ “แมตโม” ส่งผลให้ช่วงวันที่ 6-7 ต.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเล อันดามัน และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งด้านรับมรสุมของภาคตะวันออกอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่