ไม่ต่างวัวสันหลังหวะ...ก็ต้องถูกแซะอย่างช่วยไม่ได้ เพราะทั้ง 2 เรื่องล้วนเป็นเรื่องใหญ่พัวพันคนมาก โดยเฉพาะระดับ “แม่เหล็ก” การเมือง ที่ดินเขากระโดง-ฮั้ว สว. ถามว่าเรื่องใหญ่มั้ย คำตอบก็คือโคตรใหญ่...ถึงขั้นนั้นเชียวจึงไม่แปลกที่การแถลงนโยบายของรัฐบาล “อนุทิน ชาญวีรกูล” จึงถูกฝ่ายค้านและฝ่ายค้านลูกครึ่งรุมถล่มแบบไม่ไว้หน้าแม้ไม่ใช่ศึกซักฟอก แต่ก็ถือโอกาสต้อนรับ “น้องใหม่” เสียเลยเสร็จเรียบร้อยไปแล้วจากนี้ต่อไปก็สามารถบริหารประเทศอย่างเป็นทางการได้อย่างเต็มตัว อะไรที่ทำไม่ได้ก่อนหน้านี้ก็ทำได้ทุกอย่างเว้นแต่ในส่วนที่ไม่ทำให้เสียคะแนนเท่านั้นเพราะเวลาน้อยพลาดไปเรียกคืนลำบาก!นายกรัฐมนตรีประกาศกลางสภาสื่อสารไปถึง “หัวหน้าพรรคประชาชน” ว่ารัฐบาลเริ่มนับหนึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.68 เป็นต้นไปจากนั้นอีก 120 วัน (4 เดือน) คือวันที่ 31 ม.ค.2569จะ “ยุบสภา” ตามที่ได้ตกลงไว้อย่างแน่นอนนี่เป็นสัจจะในหมู่คนการเมืองที่สัญญาอะไรไว้แล้ว “ต้องทำ”หลัง “ยุบสภา” แล้วภายใน 45 วัน ก็ต้องประกาศวัน ลงคะแนนเลือกตั้ง ซึ่งเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะเข้ามารับผิดชอบเมื่อหย่อนบัตรลงคะแนนแล้วก็รอ กกต.ประกาศผลการ เลือกตั้ง สอบได้-สอบตก พรรคการเมืองไหนมาที่ 1 ก็จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใหม่ถ้าได้เสียงเกินครึ่งก็จัดการง่ายหน่อยแต่ถ้าไม่ถึงกึ่งหนึ่งก็ต้องเจรจาพรรคการเมืองอื่นเพื่อรวบรวมเสียงให้ได้มากที่สุดจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นรัฐบาลผสมเพราะการเมืองในปัจจุบันนั้น!การที่พรรคหนึ่งพรรคใดจะได้เสียงเกินกึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆยิ่งวันนี้มีพรรคการเมืองระดับหัวแถวหลายพรรคที่ต้องต่อสู้กัน คะแนนที่จะได้จึงต้องเฉลี่ยกันไป แต่ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะการเป็นรัฐบาลนั้นทุกพรรคก็ชอบอยู่แล้วเพียงแต่จะประสานประโยชน์กันได้แค่ไหนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จับกันก็คือพรรคการเมืองไหนจะจับมือกันเป็นรัฐบาล โดยเฉพาะ “ภูมิใจไทย”-“เพื่อไทย”-“ประชาชน”ซึ่งเป็นพรรคระดับหัวแถว!เพียงแต่จะร่วมกันได้หรือไม่ โดยเฉพาะ “ประชาชน” นั้น เป็นพรรคที่มีแนวทางยึด “อุดมการณ์” จึงมีเงื่อนไขหลายอย่างที่พรรคการเมืองอื่นไม่อยากสุงสิงมากนักจึงตั้งเป้าที่จะได้ สส.เกินกึ่งหนึ่ง เพื่อเป็นรัฐบาลพรรคเดียวซึ่งเป็นเรื่องยาก“ภูมิใจไทย” กับ “เพื่อไทย” นั้นแนวทางไม่ต่างกันมากนักเพียงแต่ระยะหลังเกิดปัญหาขัดแย้งกันค่อนข้างสูงเพื่อแย่งชิงความเป็นที่ 1แต่การเมืองอย่างที่พูดกันก็คือ “ไม่มีมิตรแท้ ศัตรูถาวร” ถ้าสมประโยชน์กันได้ก็ไม่มีปัญหาพร้อมที่จะกลืนเลือดเพื่อผลประโยชน์ที่ใหญ่กว่าเท่านั้นเพียงแต่ว่า “เพื่อไทย” ยามตกต่ำอย่างนี้จะได้ สส.เข้ามากี่คนเท่านั้นดีไม่ดีไม่มีราคาเลยก็ว่าได้!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม