หลายจังหวัดเจอพิษพายุ “บัวลอย” ฝนตกหนัก น้ำท่วม โรงเรียนและตลาดสดพิมาย จ.นครราชสีมา จมบาดาลรอบที่ 5 ที่สังขะ จ.สุรินทร์ น้ำป่าเทือกเขาพนมดงรักไหลทะลักท่วมศูนย์ปฏิบัติธรรมพระสงฆ์ออกบิณฑบาตไม่ได้ ส่วนชาวนาดี จ.ปราจีนบุรี อ่วม น้ำสูงเกือบหลังคาบ้าน ชาวบ้านลอยคอขอความช่วยเหลือ ด้านเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ปรับเพิ่มระบายน้ำอีกรอบเป็น 2,300 ลบ.ม./วินาที กระทบพื้นที่ท้ายเขื่อนน้ำสูงขึ้นอีก 25 ซม.ฝนถล่มน้ำท่วมหลายจังหวัด เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ จ.นครราชสีมา เกิดฝนตกหนักตั้งแต่กลางดึกวันที่ 28 ก.ย. ทำให้น้ำป่าจากพื้นที่สูงใน อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา รวมถึงอ่างเก็บน้ำนิคมสร้างตนเอง และอ่างเก็บน้ำหนองโทน ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ไหลบ่าท่วมถนนสายพิมาย-ชุมพวง บริเวณด้านหน้าโรงเรียนพิมายสามัคคี 1 ไปถึงบ้านช่องโค ต.รังกาใหญ่ ระยะทางกว่า 2 กม. รถเล็กต้องเลี่ยงใช้เส้นทางอื่น สำหรับน้ำท่วมครั้งนี้นับเป็นรอบที่ 5 แล้วและหนักกว่าทุกครั้งถนนทางเข้าบ้านพิมายอุดมสุข หมู่ 3 บ้านช่องโค ต.รังกาใหญ่ ถูกกระแสน้ำไหลเซาะผิวถนนทรุดเป็นหลุมลึกกว่า 2 เมตร ไม่สามารถใช้เส้นทางได้ ส่วนตลาดสดพิมายเมืองใหม่ หมู่ 14 ต.ในเมือง อ.พิมาย น้ำท่วมพื้นที่ตลาดและลานจอดรถสูงกว่า 30 ซม. พ่อค้าแม่ค้าต้องยืนแช่น้ำขายของอย่างทุลักทุเล ส่วนโรงเรียนกุลโน ต.ในเมือง น้ำไหลท่วมกว่า 20 ซม. ครูต้องประกาศให้นักเรียนชั้นอนุบาลหยุดเรียนชั่วคราว ส่วนนักเรียนชั้นอื่นๆยังเปิดตามปกติ เนื่องจากเป็นช่วงสอบปลายภาคเรียนจ.สุรินทร์ น้ำป่าเทือกเขาพนมดงรักไหลหลากตามลำห้วยทับทันเอ่อท่วมศูนย์ปฏิบัติธรรมสติภาวนาภิรตาราม บ้านขามพัฒนา หมู่ 12 ต.ทับทัน อ.สังขะ พระสงฆ์ออกไปบิณฑบาตไม่ได้ ชาวบ้านต้องนำอาหารใส่เรือไปถวาย นายพิมลบัวบาน อายุ 65 ปี ไวยาวัจกรเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติธรรมสติภาวนาภิรตารามตั้งอยู่ในที่ลุ่มมักถูกน้ำท่วมเป็นประจำทุกปีปีนี้หนักกว่าทุกปี น้ำท่วมเป็นครั้ง ที่สองแล้ว คาดว่าน่าจะใช้เวลาราวครึ่งเดือนกว่าน้ำจะแห้ง เรื่องภัตตาหารพระไม่น่าห่วง เพราะชาวบ้านนำมาถวาย ช่วงมีกิจนิมนต์พระก็ใช้เรือพายออกไป เป็นห่วงเรื่องพายุลูกใหม่จะทำให้น้ำเพิ่มขึ้น หากท่วมหนักกว่านี้พระอาจต้องย้ายไปจำวัดอยู่ศาลากลางหมู่บ้าน ขณะเดียวกัน ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยตาปาด แหล่งกักเก็บน้ำที่สำคัญของ อ.สังขะ ตั้งอยู่พื้นที่ ต.ตาตุม มีน้ำไหลเข้าปริมาณมากจนล้นปากอ่างไหลทะลักท่วมบ้านปวงตึกและบ้านขนาดมอญน้อย ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนหลายสิบหลัง โรงเรียนบ้านปวงตึก ต.ตาตุม ถูกน้ำท่วมหนัก คอสะพานทางหลวงสาย 2328 เส้นทางบ้านสะเดาพัฒนา-บ้านชำเบง ต.เทพรักษา อ.สังขะ ถูกน้ำเซาะชำรุด การสัญจรถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิง น้ำยังไหลหลากท่วมนาข้าวเสียหายเป็นบริเวณกว้างที่ จ.พิษณุโลก อาสาสมัครกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถานนำเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์บรรทุกเครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสารอาหารแห้งและน้ำดื่มกว่า 500 ชุด ไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบอุทกภัยในชุมชนโรงเลื่อย ชุมชนปากคลอง ชุมชนคลองปลากราย ชุมชนศรีสุนทร ชุมชนบ้านเหนือ บ้านกรุงกัก บ้านท่านางงาม และบ้านใหม่กรุงทอง อ.บางระกำ ที่ถูกน้ำท่วมขังมานานกว่า 1 เดือน ขณะที่สถานการณ์น่าเป็นห่วง เนื่องจากแม่น้ำยมยังสูงกว่าตลิ่ง 3.35 เมตร มีแนวโน้มว่าน้ำจะเพิ่มขึ้นอีกจากอิทธิของพายุบัวลอยจ.ปราจีนบุรี น้ำป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน ไหลท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่หมู่ 1, 2, 3, 4 และหมู่ 9 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี โดยเฉพาะบ้านบุกล้วย หมู่ 4 น้ำในคลองโสมงเอ่อท่วมสูงจนเกือบถึง หลังคาบ้าน เจ้าหน้าที่นำเรือท้องแบนไปช่วยอพยพนางทองปน อินทร์รอด อายุ 60 ปี ที่ลอยคอขอความช่วยเหลืออยู่ในบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัย ส่วน อ.ประจัตตคาม น้ำไหลหลากท่วมทางหลวงสาย 33 หรือถนนสุวรรณศร หน้าสำนักงาน ปภ.เขต 3 ต.คำโตนด สูงกว่า 60 ซม. มีรถยนต์ขับลุยน้ำเครื่องยนต์ดับ 2 คันจ.สระแก้ว ชาวบ้านหมู่ 6 บ้านคลองบุหรี่ ต.หนองบอน อ.เมืองสระแก้ว ต่างตื่นมาขนข้าวของหนีน้ำกลางดึก หลังเกิดฝนตกหนักน้ำป่าไหลบ่าท่วมบ้านอย่างรวดเร็ว บางจุดน้ำสูงเกือบ 1 เมตร นายมงคล พิมพ์ศิริ ผู้ใหญ่บ้านบ้านคลองบุหรี่ประสานเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยย้ายไปอยู่วัดคลองบุหรี่ชั่วคราว นายมงคลกล่าวว่า บ้านคลองบุหรี่ตั้งอยู่ใกล้แนวเขตอุทยานแห่งชาติปางสีดา และคลองสาขาลุ่มน้ำท้ายอ่างเก็บน้ำคลองพระปรง เวลาเกิดฝนตกหนัก น้ำป่าไม่สามารถระบายออกได้ทัน เอ่อท่วมฉับพลัน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนราว 20 หลังส่วนสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา หลังเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ปรับเพิ่มการระบายน้ำอีกครั้งจากอัตรา 2,200 ลบ.ม./วินาที เป็น 2,300 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่เวลา 13.00 น.วันที่ 29 ก.ย. เพื่อรองรับปริมาณน้ำเหนือที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนสูงขึ้นจากเดิมอีก 25 ซม. นายมนตรี คุ้มเขตร์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลโพนางดำออก อ.สรรพยา นำเจ้าหน้าที่ร่วมกับทหารกองบิน 4 เร่งเสริมคันดินและแนวกระสอบทรายในพื้นที่เสี่ยงบ้านท่าไทร หมู่ 1 ต.โพนางดำออก ป้องกันน้ำล้นท่วมหมู่บ้านจ.สิงห์บุรี ผลพวงจากการระบายน้ำเพิ่มของเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่หมู่ 1, 2, 3 และ 4 ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี ถนนในหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสัญจรไม่ได้ ส่วนที่บ้านเกาะบางพระนอน หมู่ 1 ต.ทับยา อ.อินทร์บุรี น้ำเอ่อท่วมหมู่บ้านเต็มพื้นที่ เช่นเดียวกับที่ จ.อ่างทอง ได้รับผลกระทบจากคลองโผงเผงเอ่อท่วมหมู่ 4 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก สูงกว่า 30 ซม. บางจุดเกือบ 50 ซม. ร้านค้าต้องนำโต๊ะมาตั้งวางสินค้าขายของกลางน้ำเวลา 17.00 น.วันที่ 29 ก.ย.กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเรื่องพายุ “บัวลอย” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยฉบับที่ 12 ว่า เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 29 ก.ย.พายุโซนร้อนกำลังแรง “บัวลอย” (BUALOI) อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว เวลา 16.00 น.มีศูนย์กลางอยู่บริเวณแขวงเชียงขวาง ประเทศลาว หรือละติจูด 19.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 103.4 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กม./ชม. กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 20 กม./ชม. พายุนี้มีแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงอย่างรวดเร็ว คาดว่าจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนในช่วงวันที่ 29-30 ก.ย. พายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยอิทธิพลของพายุ “บัวลอย” ส่งผลให้ช่วงวันที่ 29-30 ก.ย. ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่กับมีลมแรงและฝนตกหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามแนวขอบของพายุ รวมถึงด้านรับมรสุมในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่