เมื่อวันที่ 29 ก.ย. นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวในการตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ ในพื้นที่โบราณสถาน จ. พระนครศรีอยุธยา ว่า ตนได้มาติดตามสถานการณ์น้ำ ตามข้อสั่งการ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม โดยขอให้กรมศิลปากรดูแลโบราณสถานในพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะใน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเมื่อปี 2554 น้ำท่วมเยอะที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ ระดับน้ำสูงประมาณ 1.70-1.80 เมตร รองลงมาก็คือปี 2565 ซึ่งปีนี้คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำปีนี้ไม่น้อยกว่าปี 2565 หรืออาจจะมากกว่ากันเล็กน้อย โดยขณะนี้ ในส่วนวัดไชยวัฒนาราม ได้มีการตั้งแผงเหล็กกั้นตลอดแนวแม่น้ำ สูงประมาณ 160 ซม.แล้ว แต่เท่าที่มาตรวจครั้งนี้ พบว่า น้ำยังไม่ได้อยู่ในระดับที่สูงสุดโดยระดับน้ำยังต่ำกว่าแผงกั้นอยู่ประมาณ 1 เมตร แต่ถ้าระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50 ซม. ก็จะต่อแผงกั้นขึ้นไปได้อีกจนถึง 2.40 เมตร และนอกจากแผงเหล็กกั้นน้ำฝั่งหนึ่งแล้ว อีกฝั่งหนึ่งยังใช้กำแพงแนวกั้นร่วมกับทำคันดินกั้นด้วย เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะท่วมเข้าภายในวัดไชยวัฒนารามคงเป็นไปได้น้อยมาก ยืนยันว่าจะป้องกันอย่างดีที่สุดนายพนมบุตร กล่าวต่อว่า ขณะที่มีความห่วงใยโบราณสถานป้อมเพชร ซึ่งน้ำท่วมเป็นประจำนั้น ต้องเข้าใจว่าป้อมเพชรได้ซ่อมแซมส่วนใหญ่เป็นอิฐใหม่แล้ว เมื่อน้ำลงเราจะสำรวจอิฐโบราณที่เสื่อม และทำการปูหรือก่อซ่อมใหม่เป็นจุดๆไป และจากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับรายงานว่า อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย จ.นครราชสีมา มีน้ำท่วมพื้นที่ประสาทแต่ตอนนี้สูบน้ำออกหมด และกลับมาเหมือนเดิมแล้ว ส่วนพื้นที่อื่นๆยังไม่ได้รับรายงานความเสียหายจากสำนักศิลปากร ส่วนภูมิภาคเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามปัจจุบันกรมศิลปากรมีการบูรณาการร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง และสำนักบรรเทาสาธารณภัย เช็กสถานการณ์น้ำทุกวัน เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง จึงทำงานได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ได้มีการเตรียมงบประมาณ ปี 69 และงบฉุกเฉินในการบูรณะโบราณสถานภาคเหนือเต็มรูปแบบ ทั้งวางแผนในการซ่อมระยะยาวด้วย.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่