กัมพูชาวอนโดนไม่เลิก ป่วนไทย ตลอดเวลา ล่าสุดก่อกวนด้วยเสียงระเบิดที่หน้าเนิน 350 พื้นที่ปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ และยังยิงปืนเล็กอีก 5-6 นัด ทหารไทยปลอดภัย พร้อมยิงสวนกลับไป 3 นัด ขณะที่แม่ทัพภาค 2 รับมีกัมพูชายิงระเบิดที่เนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เร่งตรวจสอบเก็บหลักฐานนำประท้วงกับคณะผู้สังเกตการณ์ ชาวสุรินทร์ชายแดนอพยพครอบครัวหนีภัย แม่คลอดลูกได้ 7 วัน ยังต้องหอบลูกน้อยหนีขอปลอดภัยไว้ก่อน กองทัพบกจัดพิธีรำลึก 16 วีรชนทหารกล้า ที่พลีชีพในสมรภูมิรบไทย-กัมพูชา เมื่อเดือน ก.ค.68 จารึกชื่อสถิตนามบนกำแพงเกียรติยศ “เมมโมเรียลวอลล์” เป็นเกียรติภูมิ อยู่คู่แผ่นดินไทยตลอดไปกัมพูชายังยั่วยุก่อกวนป่วนไทยอยู่ตลอดเวลาในหลายพื้นที่ทั้งมีการเคลื่อนกำลังพลพร้อมทั้งอาวุธเข้ามาประชิดชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณ จ.ศรีสะเกษและ จ.สุรินทร์ ในห้วงวันสองวันที่ผ่านมา ล่าสุดกองทัพภาคที่ 2 ตรวจพบโดรนบริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย 2 ลำ พื้นที่ปราสาทตาเมือน 1 ลำ ฝ่ายไทยจัดกำลังพลประจำจุดเฝ้าตรวจตามเหตุการณ์ติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามและเตรียมความพร้อมอยู่ในที่ตั้ง ในการปฏิบัติตอบโต้ตามสถานการณ์ ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนไม่ทน พากันอพยพครอบครัวไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กเล็กและผู้ป่วยติดเตียงทบ.จัดรำลึกยกย่อง 16 ทหารกล้าที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนินนอก แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กทม. เมื่อเช้าวันที่ 26 ก.ย. มีพิธีสดุดีกำลังพลที่เสียชีวิตจากสถานการณ์สู้รบกรณีพิพาทชายแดนไทย—กัมพูชา เพื่อรำลึกและยกย่องวีรกรรมกล้าหาญของทหารผู้เสียสละที่บริเวณหน้ากำแพงอนุสรณ์กองทัพบกหรือเมมโมเรียล วอลล์ สถานที่สถิตนามวีรชนกองทัพบก ที่สละชีพเพื่อชาติปกป้องแผ่นดินไทยในสมรภูมิสู้รบต่างๆ มี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. เป็นประธาน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ท.ไพบูลย์ พุ่มพิเชฏฐ์ ผบ.หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก พล.ท.ณรงฤทธิ์ คำภีระ ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ผู้บังคับบัญชาชั้นสูงกองทัพบก บิดา-มารดากับครอบครัวและทายาทกำลังพลที่พลีชีพในสมรภูมิรบ รวมถึงกำลังพลกองทัพบกเข้าร่วมพิธีจารึกชื่อวีรบุรุษที่ “เมมโมเรียล วอลล์”พิธีการเริ่มต้นด้วยการทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลแด่วีรชนทหารผู้ล่วงลับ กองทหารเกียรติยศแสดงความเคารพพร้อมทั้งกล่าวคำสดุดี จากนั้นผบ.ทบ.ประดับแผ่นป้ายจารึกรายนามทหารกล้า16 นายที่สละชีพจากสมรภูมิชายแดนไทย—กัมพูชา ลงบนแท่นประทับบนกำแพงอนุสรณ์กองทัพบก พลแตรเดี่ยวเป่าเพลงเคารพพร้อมยิงสลุตเป็นเกียรติแก่กำลังพลที่เสียชีวิต จากนั้นวางพวงมาลาแสดงความอาลัย มีครอบครัวของเหล่าวีรบุรุษที่พลีชีพเพื่อชาติ หลั่งน้ำตาด้วยความอาลัย ขณะที่มีการเปิดเพลง “คนดีไม่มีวันตาย” ระหว่างทำพิธีสร้างบรรยากาศเศร้าสะเทือนใจยิ่งขึ้นหลวงพ่อศิลาร่วมพิธีทำบุญนอกจากนี้ยังมีการจัดพิธีสงฆ์อุทิศส่วนกุศลแด่กำลังพลที่เสียชีวิต ที่หอประชุมกิตติขจร มีพระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา) วัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ ประกอบพิธีสงฆ์ จากนั้น ผบ.ทบ. มอบเงินช่วยเหลือแก่ทายาทของกำลังพลที่เสียชีวิต หลวงปู่ศิลากล่าวตอนหนึ่งในพิธีสงฆ์ฯ ว่า พิจารณาแล้วสนามบินเตโช เป็นการขยายสนามบินของจีน มีขยายลำน้ำคลองฟูนันเตโช เพื่อให้จีนปล่อยน้ำลงมาเพราะเกรงว่าน้ำจะท่วมโลก มีเขื่อนสร้างอ่าง เก็บน้ำดังกำเบต ป้องกันน้ำท่วมโลกที่มีแต่แนวการสร้างโดยจีน เหมือนเป็นการเก็บภาษีโลก หวังที่จะรวยหรือไม่สวดส่งวิญญาณนักรบไทย 3 กรุงจากนั้นหลวงปู่ศิลาได้กล่าวขออนุโมทนากับวิญญาณตั้งแต่ทักษิณสยาม ที่มีคนตายเป็นร้อยตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย สมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ขอให้วิญญาณเหล่านั้นเสวยความสุขทุกหมู่ทุกคนไปผุดไปเกิด สิงหาคมปีหน้าขอให้ญาติโยมเจริญด้วยทรัพย์สินเงินทองทุกหมู่ทุกคน ปรารถนาอะไร ขอให้สำเร็จเร็ววัน ใครไม่มีหนี้ ก็อย่าไปสร้างหนี้ ขอให้มีอายุ วัณโณ สุขัง พลัง ก่อนที่หลวงปู่ศิลาจะลุกออกจากอาสนะเดินทางกลับ โดยมี ผบ.ทบ.พาเดินออกนอกหอประชุม“บิ๊กปู”สดุดีเชิดชูวีรกรรมขณะที่ พล.อ.พนากล่าวสดุดีและเชิดชูเกียรติกำลังพลที่เสียชีวิตว่า เหล่าทหารหาญได้อุทิศกำลังกาย กำลังใจ ยืนหยัดต่อสู้ ยอมสละชีพ ปกป้องเอกราช อธิปไตยชาติ ด้วยความองอาจ สมศักดิ์ศรีชายชาติทหาร เป็นแนวหน้าต่อต้านผู้รุกราน รักษาบูรณภาพแห่งดินแดนให้ชนในชาติได้มีแผ่นดินอยู่อาศัย กองทัพบกขอสดุดีเชิดชูวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของเหล่าวีรชนทหารกล้าที่ทำหน้าที่ทหารของชาติอย่างสมบูรณ์ กองทัพบกจะดูแลครอบครัวเหล่าทหารกล้าให้ดีที่สุด เพื่อเชิดชูเกียรติและตอบแทนความเสียสละ คุณงามความดี ความกล้าหาญเสียสละทุกท่านจะไม่มีวันสูญเปล่า จะเป็นเกียรติภูมิสถิตอยู่คู่แผ่นดินไทยตลอดไป“บิ๊กกุ้ง” ปัดข้อเสนอหลายพรรครุมจีบต่อมา พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ได้พบ พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 26 รมช.กลาโหมยังไม่ได้ชวนมาเป็นที่ปรึกษา แต่ถ้าเชิญมาขอปฏิเสธ เพราะจะไม่ยุ่งการเมืองแน่นอน ความเป็นเพื่อนยังพูดคุยตามปกติ หลังเกษียณแล้วคงช่วยงานกองทัพตามที่กองทัพเห็นสมควร ผบ.ทบ.จะให้เป็นที่ปรึกษาและเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้าเชิญเป็นที่ปรึกษา ผอ.หลักสูตรเสริมสร้างสังคมสันติสุข สถาบันพระปกเกล้าฯ มีพรรค การเมืองมาทาบทามหลายพรรค แต่ยืนยันคำเดิม ไม่ขอยุ่งเกี่ยวทางการเมืองซัดกัมพูชาป่วนช่วงรอยต่ออำนาจพล.ท.บุญสินกล่าวว่า ส่วนความเคลื่อนไหวทหารกัมพูชา ที่เคลื่อนย้ายกำลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าพื้นที่ว่ารับทราบข้อมูลแล้ว ถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่มีการถอนกำลัง และไม่ทราบว่า ในอนาคตจะมีอะไรเกิดขึ้น ทหารต้องเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ส่วนการปรากฏภาพเคลื่อนย้ายจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้าพื้นที่นั้นเป็นสิ่งบอกเหตุ อะไรก็เกิดขึ้นได้ในอนาคต เรื่องความขัดแย้งด้วยอาวุธถือว่าผิดข้อตกลงอยู่แล้ว ก็ประท้วงไป เป็นการก่อกวนในช่วงที่จะมีการรับมอบตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 และตำแหน่งสำคัญอื่นๆ ในกองทัพ เชื่อว่าคงไม่มีผล รอยต่อต่างๆ ไม่มีผลกระทบต่อไทยให้รัฐบาล–ทหาร ตัดสินใจร่วมตอบโต้เมื่อถามว่า การตอบโต้เป็นอำนาจการตัดสินใจของทหารหรือรัฐบาล พล.ท.บุญสินตอบว่า เป็นการตัดสินใจร่วมกัน ต้องพิจารณาให้ครบถ้วนถึงข้อดี ข้อเสียที่จะเกิดขึ้นต่อประเทศ และความมั่นคง รวมถึงสิ่งที่จะได้มาคุ้มค่าหรือไม่ หากการปะทะมีเหตุผลน้อย ไม่เพียงพอ อาจส่งผลเสียต่อประเทศ แต่ถ้ามีเหตุผลเราพร้อมปกป้องอธิปไตย เมื่อถามย้ำว่า ทหารมีอำนาจเต็มใช่หรือไม่ พล.ท.บุญสินตอบว่า ถ้าเป็นเหตุการณ์ซึ่งหน้า มีอำนาจเต็มอยู่แล้วเตือนระวังโพสต์รูปชายแดนเมื่อถามถึงกรณีพนักงานขนส่งพัสดุบริษัทแห่งหนึ่ง โพสต์ภาพที่ตั้งรถถังที่ประจำอยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา พล.ท.บุญสินตอบว่า ขอความร่วมมือในการเผยแพร่ภาพการเคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์ หรือพิกัดทางการทหาร ในห้วงนี้ไม่ได้เคลื่อนย้ายอะไร อาจเป็นภาพเก่า เราหยุดการเคลื่อนไหวตามข้อตกลงหยุดยิง เป็นภาพเก่าที่นำมารีวิวใหม่ ฝากประชาชนให้ลดการโพสต์ เพื่อรักษาความลับทางราชการ ส่วนข่าวมีระเบิดลงที่เนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราช ธานี ยอมรับว่าถูกยิงระเบิดจริง กำลังเร่งตรวจสอบและเก็บหลักฐานนำไปประท้วงกับคณะผู้สังเกตการณ์วอนทหารจัดการกัมพูชาให้จบๆไปวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวไทยรัฐจ.สุรินทร์ ไปที่วัดเพชรบุรี สุสานทุ่งมน หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ อ.ปราสาท พบ เจ้าหน้าที่ อสม.มาตั้งโต๊ะลงทะเบียนชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่ติดชายแดนและอพยพหนีภัยสู้รบมาร่วม 89 คน เป็นชาวบ้าน ต.ตาเมียง ต.บักได ต.จีกแดด อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ มีทั้งเด็ก คนชรา ผู้ป่วยติดเตียงและหญิงคนหนึ่งที่คลอดบุตรมาได้เพียง 7วัน คาดว่าจะทยอยกันมาเรื่อยๆ ชาวบ้านที่อพยพพูดเสียงเดียวกันว่าทำตามทหารบอก เสียสละเพื่อเปิดทางให้ทางทหาร แต่อยากให้ทหารจัดการให้จบๆไป ชาวบ้านจะได้ทำมาหากินได้และกลับไปใช้ชีวิตปกติ ฝากบอกถึงนายกรัฐมนตรีด้วยว่าให้เร่งดำเนินการเรื่องเงินเยียวยาอีกด้วยคลอดลูก 7 วันต้องหอบหนีภัยนางอ่อน เมินดี อายุ 60 ปี ชาว อ.พนมดงรัก เผยว่า ได้อพยพมากับครอบครัวและลูกสาวที่เพิ่งคลอดลูกได้เพียง 7 วัน มาอยู่ที่ศูนย์พักพิงเพราะเกรงว่าถ้ามีการปะทะกันแล้วจะอพยพออกจากพื้นที่ไม่ทัน เพราะมีหลานตัวเล็กและคนแก่หลายคน พวกตนไม่ไว้ใจฝั่งกัมพูชา อยากฝากถึงผู้เกี่ยวข้องอยากให้เหตุการณ์นี้จบลงเร็วๆ ถ้าจะหยุดก็หยุดไปเลย ถ้าจะยิงก็ให้ยิงกันไปเลย ประชาชนจะได้ไม่เดือดร้อนจะได้ไม่ต้องคอยวิ่งหนีวิ่งบ่อยลำบากไม่ได้ทำมาหากินอะไร ขอให้การปะทะครั้งที่ 2 นี้จบลงอย่างเด็ดขาด ไม่อยากให้มีครั้งที่ 3 หรือ 4 อีกต่อไปคนชายแดนสุรินทร์สุดเครียดส่วนสถานการณ์ชายแดนด้าน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังคงตึงเครียดนับวันยิ่งสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดสงครามรอบสองได้ทุกเมื่อ ทำให้การดำเนินชีวิตของประชาชนชายแดนยิ่งวิตกกังวลมากขึ้น แต่ยังไม่มีคำสั่งให้อพยพ แม้บางครอบครัวจะเดินทางไปพักอาศัยบ้านญาติในพื้นที่ปลอดภัยบ้างแล้วก็ตาม ขณะเดียวกัน ชาวกัมพูชาในพื้นที่ชายแดนตรงข้ามชายแดน อ.พนมดงรัก และ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ถูกทางการกัมพูชาสั่งให้อพยพออกนอกพื้นที่ไปเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า ทางการกัมพูชามีการเคลื่อน ไหวและสั่งอพยพชาวบ้านเป็นหลักฐานที่มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าอย่างชัดเจนกัมพูชาเงียบหลังทหารไทยเข้มขณะที่สถานการณ์บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เมื่อเช้าวันที่ 26 ก.ย. ทางการกัมพูชาได้พาคณะทำงานประสานงานชายแดน (IOT) ประมาณ 50-60 คน ลงพื้นที่บริเวณใกล้จุดผ่านแดน มาสำรวจและสังเกตการณ์ในรัศมีไม่ไกลจากแนวเขตสแลนตรงจุดพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จากการตรวจสอบพบว่า ขณะที่คณะ IOT อยู่ในพื้นที่ ไม่พบการรวมตัวของกลุ่มมวลชนกัมพูชาเหมือนกับก่อนหน้านี้ ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่า หลังจากคณะผู้แทนเดินทางกลับไปแล้ว อาจมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนเกิดขึ้นอีก เนื่องจากมีความพยายามปลุกปั่นให้เกิดการรวมตัวในหลายครั้งที่ผ่านมา ส่วนบริเวณแนวชายแดนฝั่งไทย มีเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด จัดกำลังลาดตระเวน เสริมจุดเฝ้าสังเกตการณ์และเพิ่มกำลังพลในพื้นที่เสี่ยง ป้องกันเหตุไม่คาดคิดและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ชายแดนหนองจาน–หนองหญ้าแก้วสงบลงชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า ตลอดหลายวันที่ผ่านมา บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้วและหนองจาน มีกระแสข่าวลือเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของชาวกัมพูชา บริเวณแนวชายแดนอยู่เป็นระยะ ทำให้ชาวบ้านบางส่วนเกิดความกังวล แต่อีกส่วนหนึ่งยังคงใช้ชีวิตตามปกติ อาศัยความอุ่นใจจากการที่มีทหารไทยตรึงกำลังดูแลพื้นที่ต่อเนื่อง ด้าน จนท.ฝ่ายความมั่นคงยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น แต่ได้มีการกำชับให้ทุกหน่วยงานเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งติดตามข่าวกรองและภาพจากโดรน มุมสูงอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถรับมือได้ทันที หากเกิดความพยายามรวมตัวหรือเคลื่อนไหวปลุกปั่นจากฝั่งกัมพูชา สถานการณ์ในขณะนี้ยังถือว่าค่อนข้างสงบ แต่บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด เนื่องจากฝ่ายไทยและกัมพูชาต่างมีการขยับกำลังในพื้นที่ชายแดนต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่คณะ IOT ลงพื้นที่ ถือเป็นอีกจุดที่ต้องจับตามองว่าจะมีความเคลื่อนไหวตามมาหรือไม่ในช่วงค่ำและวันถัดไปโยนทำประชามติยกเลิก MOU 43-44ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงจุดยืนรัฐบาลต่อการยกเลิกบันทึกข้อตกลงเอ็มโอยู 43 และ 44 ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า อยู่ในนโยบายเราก็ทำ เพื่อไม่ให้มีข้อขัดแย้งเพิ่มขึ้นมาอีก ขณะนี้ ให้สภาผู้แทนราษฎรตั้ง กมธ.มาศึกษาเรื่องนี้ ในส่วนนโยบายรัฐบาลจะเสนอให้ทำประชามติเรื่องนี้ เมื่อถามว่า เหตุใดรัฐบาลให้ทำประชามติ ทั้งที่สามารถใช้มติ ครม.ตัดสินใจได้ นายอนุทินตอบว่า ไม่ต้องการให้มีความเห็นต่างใดๆ เมื่อถามว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาเริ่มปะทุขึ้นมาอีกครั้ง นายอนุทินตอบว่า มีการยั่วยุตลอดเวลา กองทัพไทยอดทนเป็นอย่างมาก และมีความพร้อมตรึงกำลัง ไม่ให้ล่วงล้ำอธิปไตย รัฐบาลให้กองทัพตัดสินใจเองได้ ยืนยันกับ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม และ พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช. กลาโหม ถึงท่าทีของรัฐบาลชุดนี้ ท่านรับทราบแล้วปิดด่านจนกว่าจะหมดภัยนายกฯกล่าวอีกว่า ได้มีโอกาสคุยโทรศัพท์กับ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ทำให้มั่นใจว่าทุกคนเข้าใจการทำงานและปฏิบัติการที่ตรงกัน เรื่องรายละเอียดการดำเนินการให้กองทัพเป็นคนอธิบาย เมื่อถามว่าหลังแถลงนโยบายรัฐบาลจะยกหูคุยกับผู้นำกัมพูชาหรือไม่ เพื่อคลี่คลายปัญหา นายอนุทินตอบว่า เรื่องการรักษาดินแดน อธิปไตย การรักษาความปลอดภัยให้ประเทศ เรื่องนี้กองทัพมีอำนาจเต็มที่ ส่วนการเปิดด่านยืนยันว่าไม่มีจนกว่าความเป็นภัยของกัมพูชาต่อประเทศไทยจะหมดไป ส่วนการทูตได้มอบนโยบายให้นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ที่เชี่ยวชาญด้านต่างประเทศและการทูต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันหรือการบริหารสถานการณ์ที่มีความขัดแย้ง จะหารือ รมว.ต่างประเทศ การจะมีมาตรการใดๆจะใช้ดุลพินิจตัดสินใจเป็นช่วงๆไปทบ.รับแจ้งเสียงระเบิดพื้นที่ตาควายเวลา 18.00น. พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกระแสข่าวมีเสียงระเบิดที่หน้าเนิน 350 แต่ทหารไทยไม่ได้รับบาดเจ็บและได้ยิงสวนไป 3 นัดว่า เมื่อเวลา 16.40 น. วันที่ 26 ก.ย.รับแจ้งจากหน่วยในพื้นที่ว่าพื้นที่ตาควาย อ.พนมดงรักษ์ จ.สุรินทร์ พบเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่จุ๊บอั่งกุย ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด ปัจจุบันเหตุการณ์ปกติ ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมกำลังตรวจสอบ ทหารไทยไม่ประมาทเฝ้าติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อม 24 ชั่วโมง ขณะที่ เฟซบุ๊กเพจ “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ข้อความว่า ยืนยันไม่มีการปะทะ เสียงระเบิดที่ได้ยินทหารไทยปลอดภัย คาดว่ากัมพูชาเหยียบกับระเบิดตัวเอง“มาลี” มุกเดิมตวัดลิ้นโกหกชาวโลกวันเดียวกัน พล.ท.มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อรายงานบนโซเชียลมีเดียและสำนักข่าวของไทยกล่าวหาว่า กัมพูชาได้ระดมกำลังทหารและอาวุธ โดยระบุว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นเท็จ ภาพที่นำมาใช้รายงานเป็นภาพเก่า โฆษกฯยังย้ำว่า กองทัพกัมพูชาไม่ได้ดำเนินการยั่วยุหรือดำเนินกิจกรรมใดๆ ที่จะเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ยืนยันว่ากองทัพกัมพูชามีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการเคารพและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชากับไทยอย่างเต็มที่และจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในทุกระดับต่อไปเพื่อเสริมสร้างสันติภาพและเสถียรภาพระหว่างสองประเทศก่อนหน้านี้ พล.ท.มาลี เผยรายงานของกองกำลังกัมพูชาที่ประจำการอยู่แนวหน้าระบุเสียงปืนที่ดังตลอดทั้งคืนมาจากฝ่ายไทย และยังมีรายงานการยิงปืนจนถึงช่วงเช้า ต่างจากรายงานของกองทัพไทยและรายงานของสื่อไทยบางฉบับกล่าวอ้างว่า กองกำลังกัมพูชาก่อความวุ่นวายตลอดทั้งคืน รวมถึงการยิงปืน เสียงระเบิด การเข้าใกล้พื้นที่ลวดหนาม และการยิงเพื่อประเมินระยะห่าง พล.ท.มาลียังย้ำว่ากองทัพกัมพูชาไม่ได้ริเริ่มการยั่วยุหรือกระทำการใดๆที่ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงดังที่ฝ่ายไทยกล่าวหาอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่