ไม่ได้นิ่งนอนใจปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนผู้บริสุทธิ์ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ห่วงผู้รับผลกระทบบัญชีถูกอายัด หรือระงับธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางไซเบอร์นัดประชุมตำรวจทั่วประเทศแก้ไขปัญหา หลังพบเพียง 2 วันรับคำร้องขอปลดบัญชีธนาคารทั่วประเทศกว่า 600 บัญชีที่ผู้เสียหายสามารถแจ้งความได้ทุกโรงพัก และสายด่วน 1599แต่ต้องยืนยันข้อมูลตัวตน 5 ข้อ ประกอบด้วย ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัญชีธนาคาร และชื่อธนาคารเพื่อป้องกันมิจฉาชีพการแอบอ้างตัวตนเป็นผู้บริสุทธิ์สาเหตุที่ขอปลดระงับมากสุดคือ เป็นบัญชีส่วนตัว 359 บัญชี บัญชีร้านค้า 78 บัญชี บัญชีเงินเดือน 74 บัญชี และอื่นๆ 90 บัญชีอย่างไรก็ตาม ได้มอบหมาย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญา กรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับฟังข้อมูลอย่างละเอียดรอบด้านประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดแนวทางการปฏิบัติของตำรวจให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ให้กระทบกับแนวปฏิบัติตามข้อกฎหมายย้ำไม่ผลักภาระให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งให้รับผิดชอบทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มีความเข้าใจในประชาชนที่ใช้ “บัญชีที่สุจริต” ในการทำอาชีพ ใช้จ่ายตามปกติเจ้าตัวยืนยันพยายามบูรณาการทุกหน่วยร่วมกันป้องกันปราบปรามไม่ให้ “มิจฉาชีพ” อาศัย “ช่องโหว่” นำมาเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดสร้างผลเสียหายร้ายแรงต่อประชาชน."สหบาท"คลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม