“อนุทิน” ลุยศรีสะเกษหาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต 5 การันตีไม่เปิดด่านไม่ใช่นายกฯกัมพูชา อ้อนครั้งหน้าขอ ภท.ยกจังหวัด เมิน พท.เอาคืนชำแหละนโยบายรัฐบาล โวยยังไม่ได้บริหารจะอภิปรายอะไร ท้าชนในสนามเลือกตั้งให้ประชาชนตัดสิน ตอกจะขย่มปราสาทสายฟ้าคอนเนกชัน ย้อนถามคอนเนกชันฝั่งตัวเองก่อน ประกาศ 1 เดือนใช้คนละครึ่ง “ซาเล้ง” เมินฉายา “โสภณ เขากระโดง” ขอพิสูจน์ผลงานลบคำปรามาส “พท.” ยันไม่ร่วมสังฆกรรมวิปฝ่ายค้ำ ไม่เป็นนั่งร้านรัฐบาลเอ็มโอเอ ขู่ขย่มนโยบาย ลากไส้ ครม.บุรีรัมย์ “ชนินทร์” เหน็บ “ปกรณ์วุฒิ” ทำหน้าที่โฆษก ภท. จี้ ปชน.บีบ ภท.คุย สว.เปิดทางแก้ รธน. “รองโฆษกกรมราชทัณฑ์” โต้ข่าว “ทักษิณ” เดี้ยงเข้า รพ.ราชทัณฑ์ ยันอ่อนเพลีย ปวดตัวตามวัย มีคิวพบหมอตรวจในเรือนจำปกตินายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ช่วยหาเสียงให้ น.ส.จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล ลงสมัครเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ระบุไม่กังวลพรรคเพื่อไทย (พท.) เตรียมขุนพลเตรียมอภิปรายถล่มในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา พร้อมท้าให้ไปแข่งขันกันในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า“หนู” อ้อนคนศรีสะเกษเลือก “อีฟ”เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ก.ย. ที่สำนักงานเทศบาลตำบลโพธิ์กระสัง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมรมต. แกนนำพรรค และ 18 สส.ภาคอีสานพรรคภท. ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วย น.ส.จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือครูอีฟ เลือกตั้งซ่อม จ.ศรีสะเกษ เขต 5 นายอนุทินปราศรัยตอนหนึ่งว่า ทุกครั้งที่มามีแต่ความอบอุ่น ครั้งที่แล้วมาเป็น สส.ธรรมดา แต่วันนี้เป็นนายกฯ วันที่ 28 ก.ย.เรากำลังจะมีคนที่ซื่อสัตย์และภักดีกับพวกเราไปทำงานในสภาฯที่ชื่อจินณ์ตวรรณ มาที่เวทีนี้หลายครั้งแล้ว แต่พี่น้องยังไม่ให้ สส.ตนเลยสักครั้ง ครั้งนี้ขอให้ไข่แตกเลยได้ไหม นายกฯขอนะได้หรือเปล่า สัญญาแล้วนะ บ่ตั๊ว บ่จุ๊นะ หากเลือก น.ส.จินณ์ตวรรณเข้าไปเป็น สส. จะเหมาะกันพอดีที่รัฐบาลเข้าไปทำงานแล้ว โครงการคนละครึ่งกลับมาภายใน 1 เดือน จะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ รัฐบาลมีเวลาไม่นาน ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา พืชผลการเกษตรและยาเสพติด เราจะเข้าไปทำ ภท.พูดแล้วทำอยู่แล้วลั่นไม่เปิดด่าน ไม่ใช่นายกฯเขมรนายอนุทินยังพูดถึงเรื่องการเปิดด่านโดยถามชาวบ้านว่ามีใครอยากให้เปิดด่านยกมือ ก่อนจะพูดแซวว่า “อุ๊ยตาย แบบนี้ใครจะให้เปิดเล่า” เพราะชาวบ้านไม่มีใครยกมือเลย ขนาดชาวขุนหาญ-ชาวภูสิงห์ ยังบอกให้ปิดด่าน แล้วชาวไทยทั้งประเทศก็บอกให้ปิดด่าน สุนัขตัวไหนจะกล้าเปิด อย่าว่าแต่สุนัขไม่กล้าเปิดเลย หนูยิ่งไม่กล้าเปิดใหญ่เลย ตนคนไทย นายกฯของพวกท่านครับ ไม่ใช่นายกฯ ของเพื่อนบ้าน ไม่ใช่นายกฯกัมพูชา ตั้งแต่ปิดด่านชายแดน ราคามันสำปะหลังขึ้น คราวที่แล้วที่มาเปิดๆปิดๆ ราคาตกเหลือ 80 สตางค์ ตอนนี้ราคาขึ้นไปถึง 2 บาทกว่า เพราะถ้าเปิดด่านจะมีคนลักลอบเอาสินค้าพืชผลทางการเกษตรจากนอกประเทศเข้ามา ราคาพืชผลทางการเกษตรก็จะตกต่ำ มันต้องมีเอื้อนายทุนพวกเจ้าของโรงแป้งมันถูกไหม เพราะเขาจะได้ซื้อมันถูก แต่ราคาแป้งไม่ได้ลดลง เรายังซื้อแพงเหมือนเดิม เราต้องปิดด่านต่อไป ประโยชน์จะเกิดขึ้นกับใครนอกจากประชาชนทุกคนจ่อตั้ง “ไตรศุลี” เป็นเลขาฯนายกฯจากนั้นนายอนุทินแนะนำแกนนำพรรค รมต.พรรค และ สส. ช่วงหนึ่งนายอนุทินแนะนำ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล กรรมการบริหารพรรคและอดีตเลขานุการ รมว.มหาดไทย ว่า “นี่คือสุดยอดดวงใจของผม ทำงานแทนผม หัวใจคนศรีสะเกษ คนนี้มีวลีเด็ด “ถ้าอีนั่นเป็นได้ อีนี่ก็เป็นได้” นี่ไงครับ นี่คืออีนี่ของคนศรีสะเกษ ช่วงนี้ขอขโมยตัวจากพี่น้องชาวศรีสะเกษ เพราะผมทำหน้าที่นายกฯแล้ว ขอเอาคนศรีสะเกษมาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีโอเคไหม” พี่น้องชาวศรีสะเกษเห็นหรือยังว่า” ภูมิใจไทยพูดแล้วทำ เว้าแล้วเฮ็ด”ลต.หน้าขอศรีสะเกษยกจังหวัดนายอนุทินกล่าวว่า ที่พามานี่ยังไม่ถึง 1 ใน 5 ของพรรคที่มีอยู่ แต่มาวันนี้เพื่อมาพบกับพ่อแม่พี่น้อง ให้เกิดความมั่นใจว่า หลังจากนี้สภาเหลือ 4 เดือน เพราะเรามีสัญญาไว้กับทุกคนว่าเราจะให้มีการเลือกตั้งใหม่ มั่นใจว่าคนศรีสะเกษรักเรา ขอให้ชาวศรีสะเกษจุดประกายไฟเขต 5 ให้พรรคภท.ปีหน้าเลือกตั้งใหม่ขอยก จ.ศรีสะเกษ พวกเราจะได้ทำให้ฝันของพี่น้องเป็นจริงทุกอย่าง เลือกตั้งสัปดาห์หน้ามั่นใจได้ว่าจะขาวสะอาด เพราะ 2 เดือนที่แล้ว ตนเพิ่งถูกไล่ออกจากรัฐบาล ตอนนั้นเป็นรมว.มหาดไทย เขาจะเอากระทรวงคืน ขอให้ออกไปเป็นฝ่ายค้าน มีการเลือกตั้งซ่อม ตนมาแบบฝ่ายค้าน พี่น้องยังเต็มเวทีหมด แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่มาสักคน วันนี้มาเป็นรัฐบาลแล้ว พี่น้องยังมาไม่กังวลว่าใครจะมามีอิทธิพล ทำให้พ่อแม่พี่น้องเปลี่ยนใจไปได้ ตั้งใจเลือกเบอร์ 2 อยู่แล้วใช่หรือไม่ สัญญาแล้วนะหลังปราศรัยเสร็จสิ้น นายอนุทินนั่งพับเพียบบนเวที แล้วก้มลงถ่ายรูปเซลฟี่กับชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง1 เดือนเงินคนละครึ่งถึงมือแน่ต่อมาเวลา 15.30 น. นายอนุทินขึ้นเวทีปราศรัยจุด 2 ที่อาคารอเนกประสงค์ ที่ว่าการ อ.ภูสิงห์ ตอนหนึ่งว่า ก่อนมาได้ไปกราบหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ กราบสรีระร่างหลวงปู่สรวงปัญหาหนักคือปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่คิดจะยืดเยื้อถึงขนาดนี้ ขอย้ำว่าจะไม่เปิดด่าน คนไทยทั้งประเทศไม่อยากให้เปิด กลัวประชาชนมากที่สุด กลัวจะโดนกระทืบ กลัวพี่น้องคนไทยมากกว่าคนกัมพูชา เปิดด่านไม่มีแน่นอน อย่าไปฟังใครพูด ส่วนนโยบายต่างๆพูดอะไรไว้เราจะทำตามที่พูดภายใน 1 เดือนนี้คนละครึ่งจะมาถึงมือแน่นอน จากนั้นเวลา 16.30 น. นายอนุทินและ น.ส.จินณ์ตวรรณ ไปไหว้เทพารักษ์ศาลหลักเมืองประจำอำเภอ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ อ.ภูสิงห์ นายอนุทิน เปิดเผยว่า ขอพรให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข เข้มแข็ง มีแต่ชัยชนะ ประชาชนอยู่ดีกินดี ต่อมานายอนุทินเดินหาเสียงที่ตลาดภูสิงห์ ทักทายพ่อค้าแม่ค้า ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างและรถอีแต๊กหาเสียงรอบตลาดภูสิงห์เชื่อประสาน สว.ไฟเขียวแก้ รธน.ได้จากนั้นเวลา 16.05 น. นายอนุทินกล่าวถึง การเดินทางไปประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่สหรัฐฯว่า จะหารือกระทรวงการต่างประเทศ ต้องเช็กระเบียบถ้ารัฐบาลยังไม่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปปฏิบัติหน้าที่ต่างประเทศได้หรือไม่ แต่จริงๆการไปประชุมสมัชชาใหญ่ที่ UN วันที่ 26 ก.ย.ส่วนตัวควรจะไปในฐานะประเทศไทย ประเทศกัมพูชาร้องเรียนไว้เยอะต้องถือโอกาสชี้แจง ให้เข้าใจว่าไทยเราเป็นฝ่ายถูกกระทำ ทำความเข้าใจให้เขาเห็นว่าไทยไม่ได้ไปทำผิดกติกา เมื่อถามถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดูเหมือนมีเสียงสะท้อนจากพรรค ปชน.ให้นายอนุทินไปคุยกับ สว. นายอนุทินตอบว่า ประสานงานได้ อยู่ที่พวกเราที่เห็นว่า สส.บอกว่าภายในต้นเดือนนี้จะเริ่มดำเนินการแล้ว พร้อมยืนยันไม่มีหรอกไม่มีให้ไปคุยกับใคร ถ้ารัฐธรรมนูญร่างที่ยกขึ้นมามีเหตุผล ไม่ใช่แค่นายกฯคนเดียวที่จะไปคุยกับใคร ทุกคนต้องช่วยกัน ขอให้ได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่ายขอทำงานเมิน พท.ประกาศเอาคืนนายอนุทินให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ต้องคาดหวังว่าชาวศรีสะเกษจะให้ความมั่นใจในผู้สมัครของพรรค ภท.เมื่อถามว่าประกาศบนเวทีปราศรัยถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าขอ สส.ศรีสะเกษยกจังหวัด นายอนุทิน หัวเราะก่อนจะบอกว่า “คำตอบก็อยู่ในนั้นอยู่แล้ว ศรีสะเกษ ยกจังหวัด” เมื่อถามว่าเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรค พท.หาเสียงโดยบอกต้องเอาคืนกับพรรคอันดับ 3 นายอนุทินกล่าวว่า เป็นสไตล์ของพรรค พท.อะไรต้องเอาคืนๆ บ้านเมืองถึงเป็นแบบนี้ไง พรรคภท.เมื่อ 2 เดือนก่อนมาเปิดตัวผู้สมัคร ทีมตนโดนอิทธิพลข่มขู่โดนกดดันต่างๆจากฝ่ายราชการ ไม่ต้องถามว่าใครเป็นผู้สั่งมา แต่วันนี้เข้ามาแล้วทุกอย่างต้องเหมือนเดิมหมด ไม่มีการกดดันใดๆทั้งสิ้น มั่นใจในตัวคน ไม่เคยมั่นใจในเรื่องอิทธิพลและไม่เคยเชื่อเรื่องการเอาคืน คราวที่แล้วเขาเอาคืนตนเยอะแยะไปหมด เอาตนออกจากรัฐบาลแล้ว จริงๆมันน่าจะสาสมแล้วกับความไม่พอใจ แต่ออกมาแล้วยังใส่อะไรมาอีกตั้งเยอะเลย ไม่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติกับประชาชน ทำงานดีกว่าไม่หวั่น พท.ขู่ชำแหละนโยบายนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคเพื่อไทย (พท.) เตรียม 4 ขุนพลอภิปรายชำแหละนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา ว่า เป็นสิทธิ์และหน้าที่ของ สส.ที่ทำได้ ซึ่งตนก็มีข้อมูลที่จะชี้แจง หากสงสัยในเรื่องใด แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการชำแหละคืน เมื่อถามว่ารวมถึงมีการเตรียมอภิปรายคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าเป็น “ปราสาทสายฟ้าคอนเนกชัน” นายอนุทินถึงกับร้องโอ้โห พร้อมกล่าวว่า แล้วคอนเนกชันที่เกิดมาก่อนหน้านี้ ไม่กลับไปถามตัวเองก่อน ไม่ต้องถามตนหรอก เพราะตนไม่ทำในแบบที่พวกเขาทำรักกันเถิดอยู่แค่ 4 เดือนเองเมื่อถามว่าพรรค พท.ประกาศว่าจะขอเป็นพรรคฝ่ายค้านอิสระ ไม่ร่วมกับพรรคประชาชน (ปชน.) จะทำให้การทำหน้าที่ฝ่ายค้านกลายเป็นฝ่ายแค้นหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่เป็นไร เวลามีแค่ 4 เดือน หลังจากแถลงนโยบาย ยุบสภาแน่นอน เพราะฉะนั้นรักกันไว้เถิด ต้องรักกันไว้ให้มาก ส่วนการปฏิบัติหน้าที่แต่ละฝ่ายทำไป แต่ต้องมีความรักกันไว้ เราต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ยิ่งเรามีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน รบกับประเทศเพื่อนบ้านสิครับ อย่ามารบกันเองยังไม่บริหารเลย ท้าชนในศึก ลต.เมื่อถามว่าพรรค พท.เตรียมอภิปรายการบริหารราชการแผ่นดินทั้งที่ยังไม่เริ่มทำงาน นายอนุทินกล่าวว่า ยังไม่ได้บริหารราชการแผ่นดินเลยจะอภิปรายเรื่องอะไร หากผมบ้าจี้ขึ้นมาอภิปรายในสิ่งที่เขาทำบ้าง โดยเฉพาะเรื่องที่ทำให้ประเทศของเราเสียหายไปขนาดไหน ทำให้ประชาชน ทหารบาดเจ็บต้องสูญเสียชีวิต หากพวกผมอภิปรายกลับบ้าง ประเทศก็ไม่ต้องก้าวหน้าไปไหน เพราะฉะนั้นขอเถอะครับ ผมก็บอกอยู่ว่าอยู่แค่ 4 เดือน จะทำไรก็แล้วแต่ อยู่ไม่เกิน 4 เดือนหรอก และมาแข่งกันตอนเลือกตั้งให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน อย่าตัดสินเองเมินฉายา “โสภณ เขากระโดง”นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกฯและ สส.บุรีรัมย์ พรรค ภท. กล่าวถึงกรณีถูกตั้งข้อสังเกตเป็น ครม.ปราสาทสายฟ้าคอนเนกชัน ว่า หมายถึงว่าเป็นคนบุรีรัมย์ไม่เกี่ยวกันเลย กลุ่มที่มีอคติจะพูดว่าคนบุรีรัมย์จะเข้าไปทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยกลับถูกตั้งฉายาว่า “โสภณ เขากระโดง” เลือกเกิดไม่ได้ แต่เพราะอยู่บุรีรัมย์ ต้องไปดูว่าสิ่งที่จะทำในอนาคตจะเหมือนกับคำปรามาสหรือไม่ ต้องพิสูจน์ตัวเองว่า เราไม่ได้เป็นแบบที่พวกเขาคิด ถ้าเราทำในสิ่งที่ทุกคนคาดผิดหมด พวกตนเป็นพระเอก ไม่ห่วงพรรค พท.เตรียมชำแหละนโยบาย แต่ห่วงจะมีเวลาพอพิสูจน์การทำงานบนพื้นฐานความเป็นจริงหรือไม่มั่นใจไม่มีชื่อถูก ป.ป.ช.ชี้มูลนายโสภณยังกล่าวถึงภารกิจที่จะรับผิดชอบในตำแหน่งรองนายกฯ ว่า ตนไม่ถนัดเรื่องเศรษฐกิจ แต่ในเรื่องสังคม การศึกษาและยาเสพติด ตนสามารถทำได้ 2 ปีที่ตนเป็น สส.บุรีรัมย์ ได้เร่งแก้ปัญหายาเสพติดใน 6 อำเภอ ร่วมกับพระและภาคเอกชน เห็นผลสำเร็จ ขอท้าไปดูได้และที่ผ่านมาเคยเป็นรัฐมนตรีคมนาคม 3 ปี เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2 ครั้ง และในตอนนั้นต้องยื่นให้ ป.ป.ช. สอบ แต่สุดท้ายผลการสอบก็ยกหมด ยืนยันว่าตนไม่มีเรื่อง ป.ป.ช.ส่วนใน ครม.นี้ จะมีใครถูก ป.ป.ช. ตรวจสอบหรือไม่นั้น นายกฯได้ตรวจสอบอย่างเข้มข้น เพราะท่านมีอนาคตทางการเมืองอยู่ เชื่อว่านายกฯมีกำแพงพิงที่จะไม่ทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า แม้จะเป็นรัฐบาลแค่ 4 เดือน แต่ก็ไม่ควรนำชีวิตการเมืองไปผูกไว้ วันนี้ใครถูกกล่าวหาก็ต้องพิสูจน์ตามกระบวนการ แม้แต่นายกฯเอง ส่วนฝ่ายค้านจะทำอะไรก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ และหวังว่าสังคมจะให้ความยุติธรรม“พลพีร์” ทวง พท.–ปช.คืน ปธ.สภาฯวันเดียวกัน นายพลพีร์ สุวรรณฉวี สส.นครราชสีมา พรรค ภท.โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า วันนี้พรรค พท.และประชาชาติ (ปช.) เป็นฝ่ายค้านสมบูรณ์แบบแล้ว จะลาออกจากประมุขสภากี่โมง ต่อมานายพลพีร์กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นมารยาททางการเมือง ตามธรรมเนียมประมุขสภาควรเป็นบุคคลจากฝ่ายรัฐบาล“วันนอร์” ทำงานต่อจนยุบสภานายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาฯกล่าวถึงกรณีนายพลพีร์ สุวรรณฉวี สส.นครราชสีมา พรรค ภท. เรียกร้องให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ลาออกจากประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ หลังพรรค พท.และพรรค ปชน.เป็นฝ่ายค้านว่า สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯแทนรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธประธานสภาฯยังเป็นคนเดิม สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ขึ้นเป็นรัฐบาลแทนรัฐบาลพรรค พท. ประธานสภาฯยังเป็นคนเดิม ประธานสภาได้รับเลือกจาก สส.ในที่ประชุมปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ยกเว้นลาออก ขณะนี้ต้องทำหน้าที่ต่อไปอีก 4 เดือนเท่านั้น แต่คนที่คิดจะมาเป็นคงคิดแค่ต้องการได้ตำแหน่งเท่านั้น แต่ไม่ได้เข้ามาทำงานจริง“วิโรจน์” โต้ ปชน.ไร้ดีลลับซับซ้อนนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคปชน.โพสต์ข้อความตอบกลับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ว่า ขอยืนยันเพื่อให้คุณชูวิทย์สบายใจว่า เราไม่ได้มีดีลใดๆที่ลึกลับซับซ้อนเลย เราไม่ปฏิเสธว่าการเมืองไทยยังเต็มไปด้วยแรงดึงดูดและเกมการเมืองแบบเก่า แต่หากเรายิ่งซ้อนความระแวงเข้าไปในความซับซ้อน จะยิ่งทำให้เราไม่กล้าตัดสินใจอะไรเลยที่จะพาสังคมออกจากวังวนรัฐพันลึกได้ สุดท้ายจึงเลือกที่จะยึดความคิดแบบซื่อๆตรงๆ เป็นพื้นฐานการตัดสินใจ ได้ตระเตรียมกลไกการตรวจสอบผ่านสภาอย่างเข้มข้น เพื่อสกัดไม่ให้วิธีการเมืองแบบเดิมกลับมาครอบงำบ้านเมือง ในแบบที่คุณชูวิทย์กังวล ตนกังวลเช่นเดียวกัน ต่อให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการแกล้งเล่นบท จัดฉากหรืออย่างไรพร้อมน้อมรับ แต่สิ่งที่ดีที่สุดที่ทำได้คือทำหน้าที่ตรวจสอบ ครม.อนุทินอย่างเข้มข้นที่สุด ไม่ลดละปชน.ขยับจัดทัพ ลต.–รับคดี 44 สส.ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาชน (ปชน.) ว่า นายบุญเลิศ แสงพันธุ์ สส.สมุทรปราการ พรรคปชน.ไลฟ์เผยเเพร่งานกิจกรรมสภากาแฟครั้งที่ 1 “ไม่มีดีล มีแต่เดิน เดินหน้าสู่การเลือกตั้งใหม่ เตรียมพรรคพร้อมสู่การเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่ดีที่สุด” มีนายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน.เป็นผู้ตอบคำถามตอนหนึ่งถึงการรับมือคดีอดีต 44 สส.พรรคก้าวไกลถูก ป.ป.ช.ไต่สวนเอาผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีเข้าชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า ใน 44 สส.เป็น สส.ปัจจุบันอยู่ 25 คน เป็น สส.เขต 8 คนและบัญชีรายชื่อ 17 คน มี สส.เขตปัจจุบันไม่ไปต่อแล้วคือนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส. กทม.พรรค ปชน. ทำสุราก้าวหน้าจบไม่ลง อีกส่วนนายจรัส คุ้มไข่น้ำ สส.ชลบุรี นายวุฒินันท์ บุญชู สส.สมุทรปราการ กำลังตัดสินใจจะไปต่อหรือไม่ ถ้า 2 ท่านไม่ไปต่อจะเหลือ 5 คน ขณะที่ สส.บัญชีรายชื่อ 17 คน ถ้าถูกตัดสิทธิจะดันคนข้างหลังขึ้นมา ส่วนแคนดิเดตนายกฯพรรค ปชน.มีมากกว่า 1 คน น่าจะเต็ม 3 คน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นแคนดิเดตนายกฯเบอร์ 1 เบอร์ 2-3 เป็นทีมนโยบายที่เห็นหน้าอยู่ ที่ประชุม สส.จะดูใครเหมาะสม เช่น อ.ต้น นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร รองหัวหน้าพรรค ปชน. ไหม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ปชน. ฝ่ายนโยบาย เติ้ล นายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อพท.ยันไม่เป็นนั่งร้าน รบ.เอ็มโอเอที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีต สส.กทม.พรรค พท. กล่าวว่า เอ็มโอเอส้ม-น้ำเงินที่พรรค ปชน.ภาคภูมิใจ ทำให้ได้รายชื่อรัฐมนตรีที่ทุกฝ่ายร้องยี้โดยเฉพาะกลุ่มรัฐมนตรีปราสาทสายฟ้า อาจไม่มาเพื่อยุบสภาตามเอ็มโอเอ แต่มาเพื่อยุบคดีเขากระโดง คดีฮั้ว สว. ที่ผ่านมามีเสียงเตือนต่อเนื่องถึงสภาพไม่ปกติที่พรรคเสียงสูงสุดสนับสนุนจัดตั้งรัฐบาล พรรค ภท. กลับบอกว่าตัวเองจะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน พรรค พท.ยืนยันขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านในระบบรัฐสภา ด้วยความรับผิดชอบต่อประชาชน ไม่ขอร่วมเป็นฝ่ายค้านตามเอ็มโอเอส้ม-น้ำเงินเด็ดขาด ไม่เพียงมีที่มาดีลแปลกประหลาด ยังก่อเกิดกลไกไม่ปกติ พรรค พท.ไม่เข้าร่วมเป็นวิปฝ่ายค้าน ขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านแบบสุภาพบุรุษ ไม่มีอ่อนข้อ ไม่เป็นนั่งร้านหรือฝ่ายค้านตามเอ็มโอเอให้ใคร ขอให้พรรค ปชน.สนุกกับบทบาทนี้ตามสบายฉะนโยบายขย่ม ครม.ปราสาทสายฟ้านายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคพท. กล่าวว่า หวังว่ารัฐบาลใหม่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต ยึดผลประโยชน์ประชาชนและประเทศมากกว่าผลประโยชน์พวกพ้อง หรือมีเจตนามาสะสางปัญหาคดีความที่พรรค ภท.กำลังเผชิญ ประชาชนกังวลรายชื่อรัฐมนตรีเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ผลประโยชน์ทับซ้อนเชื่อมโยงกลุ่มอิทธิพลการเมือง เป็นรัฐมนตรีปราสาทสายฟ้าคอนเนกชัน อาจสร้างปัญหาการตรวจสอบและดำเนินคดีของหน่วยงานต่างๆ พรรคเตรียมทีม สส.รวบรวมข้อมูลอภิปรายแถลงนโยบายรัฐบาล 2 ประเด็น คือ 1.นโยบายการบริหารราชการแผ่นดินและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2.คุณสมบัติรัฐมนตรี ความรู้ความสามารถ การขัดกันแห่งผลประโยชน์ ทั้งคดีเขากระโดง คดีฮั้วสว. รัฐมนตรีอื่นที่มีข้อครหาไม่ซื่อสัตย์สุจริตหรือถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด แต่ได้รับตั๋วช้างสีส้มจากพรรค ปชน.เข้าสู่ตำแหน่ง พรรค ภท.ทำทุกวิถีทาง ยอมทุกอย่างเพื่อเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยในเวลา 4 เดือนเกี่ยวข้องอะไรกับคดีฮั้ว สว.และคดีที่ดินเขากระโดงหรือไม่ อาจทำให้ถึงจุดจบบางพรรคการเมืองแซะ “ปกรณ์วุฒิ”ทำหน้าที่โฆษก ภท.นายชนินทร์กล่าวว่า ประชาชนเห็นสัญญาณชัดเจนการเร่งเติมเสียงของพรรค ภท. มีนักการเมืองพรรคต่างๆเปิดตัวเข้าร่วมงานมากขึ้น น่าแปลกนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ปชน.มองไม่เห็น ยืนยันพรรคภท.ไม่ได้รวมเสียงข้างมาก ไม่เป็นสัญญาณให้เกิดเสียงเพิ่มเติมในรัฐบาล เป็นรองหัวหน้าพรรค ปชน.หรือโฆษกพรรค ภท.คนใหม่กันแน่ ข้อตกลงรัฐบาลเสียงข้างน้อยของสีส้มและสีน้ำเงิน พรรค พท.ไม่ได้ร่วมรับผิดชอบด้วย แม้มี สส.พท. 9 คนไปสนับสนุน แต่พรรค ปชน.คือคนโหวตหนุนนายอนุทินยกพรรค ต้องรับผิดชอบต่อการดำเนินการของรัฐบาลนี้ คนเริ่มครหารัฐบาลนี้ไม่ได้ตั้งมาเพื่อยุบสภา แต่ตั้งมาเพื่อยุบคดีสีน้ำเงิน รัฐบาลนี้ตั้งขึ้นด้วยกลไกประหลาด ผู้นำฝ่ายค้านหามแคนดิเดตพรรค ภท.ขึ้นเสลี่ยง มีประธานวิปฝ่ายค้านทำหน้าที่เสมือนโฆษกพรรคภท.ให้ สส.กว่า 140 คน แบกองค์ประชุมแทนรัฐบาล ขัดที่เคยประกาศว่าการรักษาองค์ประชุมเป็นหน้าที่รัฐบาล วิปตั้งขึ้นมาคือวิปฝ่ายค้านหรือวิปฝ่ายค้ำให้รัฐบาลสีน้ำเงินกันแน่บี้ ภท.คุย สว.เปิดทางแก้ รธน.ใหม่นายชนินทร์กล่าวว่า ส่วนการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สัปดาห์ที่ผ่านมาพรรค พท.และพรรคปชน.เสนอแนวทางแก้รัฐธรรมนูญหมวด 15 เปิดทางร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เห็นร่วมกันต้องเพิ่มเติมแนวทางนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พรรค พท.เตรียมร่างดังกล่าวไว้แล้ว พร้อมเข้าชื่อนำเสนอต่อรัฐสภาต่อไป แต่ที่ยังไม่ชัดเจนคือแนวทางพรรค ภท.ไม่ได้ส่งตัวแทนหรือข้อเสนอมาพิจารณา ขอเรียกร้องพรรค ภท. พรรค ปชน.ควรเร่งรัดพรรคแกนนำรัฐบาล กระตือรือร้นออกแบบแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ การได้มาซึ่ง ส.ส.ร.โดยเร็ว ถ้ายืดเยื้ออาจไม่ทันกรอบเวลา 4 เดือนตามเอ็มโอเอ การผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องได้เสียง สว. 1 ใน 3 ร่วมเห็นชอบด้วย หวังว่าพรรค ปชน.จะเจรจานายกฯให้กำกับ สว.สีน้ำเงินให้เปิดทาง“วราวุธ” ฝากการบ้านรัฐบาลใหม่ที่ จ.สุพรรณบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า พรรค ชทพ.จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านสร้างสรรค์ ไม่ใช่จะค้านไปเสียทุกเรื่อง ส่วนหน้าตา ครม.อนุทิน 1 มั่นใจว่าเป็นมืออาชีพจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจของประเทศได้ การวางโครงสร้างระยะยาวที่สำคัญสำหรับรัฐบาลต่อไป คงเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสำคัญได้หลายเรื่อง อีกปัญหาสำคัญคือ ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว ขอฝากกลุ่มเปราะบางบริเวณตะเข็บชายแดนไทย-กัมพูชาที่ได้รับผลกระทบให้รัฐบาลใหม่ดูแลเป็นพิเศษด้วย“แทน” หนุน “มาร์ค” แลกนั่งเลขาฯ ปชป.ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รักษาการรองหัวหน้าพรรคดูแลภาคใต้ เดินขอเสียง สส.ของพรรค เสนอตัวรวบรวมเสียง สส.และ กก.บห.ไปสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค เพื่อผลักดันให้เป็นหัวหน้าพรรคในการเลือกตั้งในที่ประชุมใหญ่วิสามัญพรรค พร้อมเสนอตัวขอเป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ ที่หัวหน้าพรรคจะเป็นผู้เสนอชื่อเลขาธิการพรรค โดยนายชัยชนะขอเข้าพบนายอภิสิทธิ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อรายงานสถานการณ์ในพรรคและเสียงสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ได้รับฟัง แต่ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ ขณะที่นายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการเลขาธิการพรรคเอง ที่หลบสื่อแต่ให้นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง สส.สงขลาและรองโฆษกพรรค ปชป.บุตรชาย เริ่มเดินขอเสียง สส.และ กก.บห.สนับสนุนให้เป็นหัวหน้าพรรค หลังวัดกระแสไม่มีเสียงตอบรับ จึงลดเป้าลงขอเป็นเลขาธิการพรรคภท.ดูด “อวยพรศรี” ย้ายคอกอีกรายวันเดียวกัน นางนาที รัชกิจประการ ภริยานายพิพัฒน์ รัชกิจประการ แกนนำพรรค ภท. ดูแลภาคใต้ พร้อม น.ส.วาริณ ชิณวงศ์ นายก อบจ. นครศรีธรรมราช ไปที่บ้านนางอวยพรศรี เชาวลิต สส.นครศรีธรรมราช พรรค ปชป. อ.ท่าศาลา เจรจาทาบทามให้ย้ายไปสังกัดพรรค ภท.โดยท่าทีนางอวยพรศรีและสามีคือนายอภินันท์ เชาวลิต นายก อบต.ท่าศาลา ตกปากรับคำจะย้ายไปพรรค ภท.ตามคำเชิญ“นิด้าโพล” ชี้คนหนุน “มาร์ค” คุม ปชป.นิด้าโพลเปิดเผยผลการสำรวจประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง “ประชาธิปัตย์ ผลัดใบอีกแล้ว” ระหว่างวันที่ 15-16 ก.ย. จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนต้องการให้เป็นผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ร้อยละ 32.90 ระบุว่าเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองลงมาร้อยละ 18.09 นายชวน หลีกภัย ร้อยละ 16.72 ไม่ตอบ/ไม่สนใจ เมื่อถามถึงแนวโน้มที่ประชาชนจะเลือกพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากพรรคประชาธิปัตย์เลือกผู้นำตามที่ประชาชนแนะนำ ร้อยละ 37.58 ระบุว่าไม่แน่ใจ ร้อยละ 35.75 เลือกแน่นอน และร้อยละ 26.67 ไม่เลือกแน่นอนปัดข่าว “ทักษิณ” เข้า รพ.ราชทัณฑ์วันเดียวกัน นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกระแสข่าวกรณีนายทักษิณ ชินวัตร เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ว่า ไม่ได้มีการส่งตัวนายทักษิณเข้าโรงพยาบาล ขณะนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นายทักษิณยังอยู่ในเรือนจำคลองเปรม อาการของนายทักษิณยังคงอ่อนเพลียและปวดตามร่างกายอยู่บ้างตามปกติของผู้สูงอายุ เมื่อเปิดทำการวันที่ 22 ก.ย.มีคิวนัดพบแพทย์เข้ามาตรวจที่เรือนจำปกติอยู่แล้วแดง 20 จว.อีสานชุมนุมให้กำลังใจเมื่อเวลา 09.00 น. ที่ริมฟุตปาทหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม “กลุ่มคนเสื้อแดง” ภาคตะวันออก เฉียงเหนือกว่า 20 จังหวัด แสดงพลังให้กำลังใจนายทักษิณ สวมเสื้อสีแดงถือป้ายข้อความ มีตัวแทนกล่าวปราศรัยบนรถกระบะแสดงจุดยืนสนับสนุนนายทักษิณ ยืนยันเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่สนับสนุนพรรคที่มีพฤติกรรม “ขายชาติ” หรือมีนโยบายที่ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศชาติและวิพากษ์พรรคการเมืองบางกลุ่มอย่างรุนแรง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้องและ สน.ประชาชื่น เข้าร่วมอำนวยความสะดวกการจราจร ดูแลรักษาความปลอดภัยกมธ.กาสิโนสรุปผลค้านบ่อนถูก ก.ม.ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ในการประชุมวุฒิสภา วันที่ 23 ก.ย.มีวาระพิจารณารายงานการศึกษาคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ที่มี นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย สว.เป็นประธาน กมธ.เนื้อหารายงานสรุปผลการศึกษาว่าไม่เห็นด้วยกับการผลักดันโครงการเอนเตอร์ เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีกาสิโนเป็นองค์ประกอบหลักของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ เพราะเป็นนโยบายที่ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ขาดหลักฐานเชิงประจักษ์ถึงความเหมาะสมในบริบทประเทศไทย แฝงไว้ด้วยความเสียหายหลายมิติ อาทิ เศรษฐกิจไม่ชัดเจนด้านความคุ้มค่าการลงทุน ไม่เกิดรายได้ที่แท้จริง เกิดผลกระทบเสพติดพนัน ความรุนแรงในครอบครัว เสี่ยงเป็นแหล่งฟอกเงิน องค์กรอาชญากรรมและอาจขัดแย้งรัฐธรรมนูญ ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพิจารณานโยบายสาธารณะผ่านการทำประชามติจะอนุญาตให้มีธุรกิจกาสิโนหรือไม่ กมธ.จึงไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่