การศึกษาของหลายสถาบันพบว่า การเติบโตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้นที่เรียกกันว่า CAGR ของมูลค่าตลาดและปริมาณการผลิตโปรตีนจากพืช อาหารวีแกน และเนื้อทางเลือก อยู่ที่ร้อยละ 15-20 และใน ค.ศ.2034 มูลค่าตลาดจะเพิ่มไปจนถึง 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (1.64 ล้านล้านบาท)ปัจจุบันคนที่ลด ละ เลิก การทานเนื้อสัตว์เพิ่มเป็นจำนวนมาก แถมยังแบ่งย่อยออกเป็นหลายกลุ่ม ถ้าพูดถึง Vegetarian หรือมังสวิรัติ ก็ยังแบ่งเป็น Lacto-vegetarian (ไม่กินเนื้อและไข่ แต่ยังดื่มนม) Ovo-vegetarian (ไม่กินเนื้อและนม แต่กินไข่) Lacto-ovo vegetarian (ไม่กินเนื้อ แต่กินทั้งนมและไข่) และ Pescatarian (ไม่กินเนื้อสัตว์บก แต่กินปลาและอาหารทะเล)ที่เพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วคือ Vegan (งดเนื้อและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทุกชนิด ทั้งนม ไข่ น้ำผึ้ง เจลาติน ฯลฯ ไม่ใช้สินค้าจากสัตว์ เช่น หนัง ขนสัตว์ น้ำผึ้ง) ส่วน Plant-based eater หรือ Plant-based diet (กินอาหารจากพืชเป็นหลัก แต่ไม่เคร่งเท่าวีแกน ยังกินสัตว์เล็กน้อย เน้นสุขภาพและสิ่งแวดล้อมกว่าอุดมการณ์)Flexitarian หรือ Semi–vegetarian (กินอาหารมังสวิรัติเป็นหลักแต่ยังทานเนื้อสัตว์เป็นบางครั้ง พวกนี้จะใช้คำว่า ‘ลดการทานเนื้อสัตว์’) ส่วน Reducetarian (ตั้งใจลดการกินเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ด้วยเหตุผลทางสุขภาพ สิ่งแวดล้อมหรือจริยธรรม ไม่ได้เป็นมังสวิรัติเต็มตัว) เดี๋ยวนี้ไปภัตตาคารบางแห่งจะเจอคำว่า Meat–free หรือ Non–meat eater (งดเนื้อสัตว์)อินเดียมีประชากรมากที่สุดในโลกคือ 1,463 ล้านคน (ค.ศ.2025) จากการสำรวจของ Pew Research Center พบว่าร้อยละ 39 หรือ 570 ล้านของผู้ใหญ่ในอินเดียไม่ทานเนื้อสัตว์ จีนมีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลก 1,416 ล้านคน มีการศึกษาพบว่าประชากรร้อยละ 5 หรือ 70 ล้านของชาวจีนไม่ทานเนื้อสัตว์ประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างเวียดนาม มีประชากร 101.6 ล้านคน (2025) มีคนไม่ทานเนื้อสัตว์ร้อยละ 10 หรือ 10.1 ล้าน ผมเพิ่งไปสำรวจภัตตาคารอาหารเจและวีแกนในเมืองเว้และโฮจิมินห์ซิตี้เมื่อปีที่แล้ว (2024) พบว่า ภัตตาคารเจและวีแกนของเวียดนามโตไวมาก ลงทุนกันอย่างอลังการ และเวียดนามมีชื่อเสียงด้านการผลิตวัตถุดิบอาหารวีแกนและมังสวิรัติของโลกจำนวนผู้ยึดการดำเนินชีวิตแบบวีแกนกำลังเติบโต แม้แต่ในไทยเอง งานมงคลจำนวนไม่น้อยเริ่มหันมาเป็นงานที่เลี้ยงอาหารปราศจากเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น นม ไข่ น้ำผึ้ง อย่างเด็ดขาดได้รับการติดต่อจากคุณธนิตย์พงศ์ เจริญพงศ์ (เจ้าบ่าว) และคุณจิติพร ศิริพงษ์ (เจ้าสาว) ขอให้ขึ้นอวยพรในงานมงคลสมรสของทั้งสองท่านในวันที่ 5 ตุลาคม 2025 ที่โรงแรมโฟร์พ้อยท์บายเชอราตัน สุขุมวิท 15 กรุงเทพฯผมถามว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวและญาติว่า ทำไมถึงมาเชิญผมขึ้นอวยพร ทุกท่านบอกว่าเชิญเพราะผมเป็นวีแกน เจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นวีแกน ญาติฝ่ายเจ้าบ่าวเป็นวีแกน ผู้มาร่วมงานเกือบทั้งหมดเป็นวีแกน แม้ภารกิจผมเยอะ แต่พอรู้ว่าเป็นงานของวีแกน ผมเลื่อนภารกิจอื่นและรับเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอวยพรบ่าวสาววีแกนคู่นี้อนาคตการผลิตแบบแมสที่ผลิตจำนวนมากและขายให้คนทั่วไปจะทำได้ยากขึ้น ผู้ผลิตจะต้องเปลี่ยนมาผลิตแบบ Customization (เฉพาะกลุ่ม) หรือ Niche production (ตลาดเฉพาะ) จึงจะอยู่รอด รัฐควรส่งเสริมการผลิตสำหรับตลาดเฉพาะของอาหารและเครื่องดื่มสำหรับวีแกน เจ หรือมังสวิรัติได้สนทนากับเจ้าของภัตตาคารและอาหารเจและวีแกนหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯ พัทยา จันทบุรี เกาะสมุย ภูเก็ต ฯลฯ พบว่าตลาดโตอย่างไวมากโดยไม่มีคู่แข่ง แต่ละภัตตาคารร่วมมือกันเพื่อช่วยเหลือกันเพื่อสร้างกลุ่มลูกค้าวีแกนให้เพิ่มขึ้นอย่างเป็นระบบและอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่แข่งขันกันบ้าเลือดเหมือนภัตตาคารประเภทอื่นผู้อ่านท่านผู้เจริญ งานมงคลควรเว้นการเบียดเบียนชีวิตสัตว์ ไม่ฆ่า ไม่ทำร้าย ไม่มีเสียงโอดครวญด้วยความเจ็บปวดของชีวิตสัตว์ ไม่ว่าจะงานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ งานแต่งงาน หรืองานเฉลิมฉลองอื่น ควรดำเนินไปด้วยความเมตตา ความดีงาม ควรเป็นงานสิริมงคลอย่างสมบูรณ์และบริสุทธิ์อย่างแท้จริง.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม