ตำรวจคุมตัวมือปืนฆ่าโหดหนุ่มกู้ภัยไปทำแผนฯ ชี้จุดสังหาร สารภาพผู้ใหญ่บ้านเป็นคนว่าจ้าง หวังเงินประกันชีวิต และเป็นคนจัดหาปืน วางแผนทำทีรถ จยย.น้ำมันหมด รอเหยื่อขี่รถ จยย.ออกจากบ้านลงไปดู สบโอกาสชักปืนซัลโวท้ายทอย แล้วเผ่นหนีกลับบ้านต่างจังหวัด ถูกตามลากคอซัดทอดคนบงการ ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านหลังถูกจับยืนกรานปฏิเสธ ชุดสืบสวนสอบขยายผล หลังพบชาวบ้านที่ทำประกันเสียชีวิตแล้ว 3 รายกรณีมือปืนจ่อยิงนายศรายุทธ หรือเก่ง นกจั่น อายุ 24 ปี กู้ภัยสมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา จุดบ้านแพรก (รหัส 318) เสียชีวิตค่ำวันที่ 11 ก.ย. บริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน หมู่ 5 ต.คลองน้อย อ.บ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนตามจับกุมนายวชรวิทย์ หรือโจ้ สร้อยคำ อายุ 31 ปี เมื่อเย็นวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะหลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.อ่างทอง ให้การซัดทอดนายภานุพงษ์ ทองแผ่ หรือผู้ใหญ่ปอนด์ อายุ 31 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.คลองน้อย อ.บ้านแพรก จ.พระนคร ศรีอยุธยา เป็นผู้จ้างวานและจัดหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ตำรวจคุมตัวมาสอบสวนให้การปฏิเสธความคืบหน้า สายวันที่ 20 ก.ย. พ.ต.อ.ชนะ ธีรศรัณยานนท์ ผกก.สภ.บ้านแพรก นำตัวนายวชรวิทย์ หรือโจ้ มือปืนออกจากห้องขังไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณจุดเกิดเหตุ เริ่มจากนายโจ้นำรถ จยย.ไปดักรอห่างจากทางเข้าบ้านของนายเก่งเล็กน้อย จังหวะผู้ตายขี่รถ จยย.ออกมา ผู้ต้องหาจูงรถโบกมือ ทำทีขอความช่วยเหลือ อ้างว่าน้ำมันหมด หลังนายเก่งจอดรถไปดู นายโจ้ใช้ปืนลูกซองไทยประดิษฐ์จ่อยิงท้ายทอย ผู้ตายพยายามกระเสือกกระสนหนีก่อนล้มฟุบ ต่อมาตำรวจคุมตัวไปชี้จุดหน้าบ้านผู้ใหญ่ปอนด์และหลบซ่อนตัวอยู่ในรถกระบะ รอจนรุ่งเช้ารีบหลบหนีกลับบ้านที่ จ.อ่างทอง กระทั่งถูกตำรวจตามจับกุมนายศรายุทธ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า รู้จักกับนายภานุพงษ์ หรือผู้ใหญ่ปอนด์ เพราะเป็นเพื่อนเรียนรุ่นเดียวกันและได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ปอนด์หลายเรื่อง ให้ทำงานที่บ้านและงานสาธารณประโยชน์ต่างๆ ต่อมาตนและเมียมาตกงานพร้อมกัน ไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกและจ่ายค่าน้ำค่าไฟก็ได้ผู้ใหญ่ปอนด์คอยช่วยเหลือ ก่อนเกิดเหตุนายภานุพงษ์เรียกไปใช้งานบอกว่าช่วยเล่นนายเก่งให้หน่อยและเตรียมปืนให้ วันเกิดเหตุนายเก่งมาที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน จึงจดจำหน้าไว้ เพราะส่วนตัวไม่รู้จักผู้ตายมาก่อน หลังก่อเหตุไม่ได้ติดต่อผู้ใหญ่ปอนด์เลย เพื่อป้องกันถูกดักฟังโทรศัพท์ ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ผู้ใหญ่ปอนด์วางไว้ผู้ต้องหาให้การอีกว่า ตอนที่รับงานคิดว่าผู้ใหญ่ปอนด์ที่เป็นอาสากู้ภัยเหมือนกันน่าจะมีปัญหาขัดแย้งกันในที่ทำงาน จึงยอมทำเพื่อตอบแทนที่เคยช่วยเหลือ ก่อนก่อเหตุได้เสพยาบ้าจำนวนหนึ่งเพื่อให้เกิดความกล้า ตนไม่ทราบมาก่อนว่าสาเหตุมาจากปัญหาเรื่องส่วนแบ่งเงินประกันชีวิต ถ้าทราบว่าเป็นเรื่องนี้ก็จะไม่ทำ อย่างไรก็ตามก่อนหน้าที่ตนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ผู้ใหญ่ปอนด์มาชักชวนให้ภรรยาตนทำประกันชีวิต แต่เมียปฏิเสธไป ช่วงนั้นก็เริ่มรู้สึกกังวลว่าอาจถูกผู้ใหญ่ปอนด์ปิดปากหลังทำแผนฯเสร็จตำรวจคุมตัวนายโจ้ มือปืนกลับโรงพัก จากนั้นนำไปฝากขังศาลจังหวัดพระนคร ศรีอยุธยา ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน, พกพาอาวุธปืน ไปในเมืองหมู่บ้าน ใช้อาวุธปืน ก่อนนำตัวขึ้นรถภรรยานายโจ้พาลูกชายวัย 2 ขวบมาขอเยี่ยมผู้ต้องหา ส่วนนายภานุพงษ์ หรือผู้ใหญ่ปอนด์ ยังคงให้การปฏิเสธ ขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ตำรวจนำตัวไปฝากขังศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในข้อหาให้ผู้อื่นกระทำความผิด ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาด้วยการใช้ จ้างวานหรือยุยงส่งเสริมหรือด้วยวิธีการอื่นใด สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิด ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองเจตนา โดยแยกรถไปคนละคันกับนายโจ้ ศาลอนุญาติ ฝากขังและไม่ให้ประกันตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่คุมตัวทั้งคู่ส่งเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีรายงานจากชุดสืบสวนว่า ที่ผ่านมานายภานุพงษ์ หรือผู้ใหญ่ปอนด์ ชักชวนชาวบ้านทำประกันชีวิตหลายคน ส่วนใหญ่ทำให้กับคนยากจนผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยติดเตียง ให้เหตุผลในการชักชวนว่าหากเสียชีวิตจะได้เงินทำศพและเก็บไว้ใช้จ่ายให้กับคนในครอบครัว มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 3 ราย บางรายจมน้ำตาย เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้งว่าทั้ง 3 ศพมีการเรียกรับประโยชน์ส่วนแบ่งเงินประกันจากครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยหรือไม่อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่