สัญญาณดีเลย์ คลื่นสะดุดกระท่อนกระแท่นตั้งแต่ออกตัว ตามอัตภาพของรัฐบาลสูตรพิสดาร ครม.คลอดยากกว่าลูกกรอก แกะรอยความเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ “นายกฯหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่ยืนยันกับสื่อมวลชนภายหลังพิธีรับโปรดเกล้าฯ นายกรัฐมนตรียิ้มกระหยิ่ม ฟุ้งโผรัฐมนตรีเรียบร้อยไปแล้ว 99.75 เปอร์เซ็นต์แต่นับจากนาทีนั้นก็เจอปัญหาต้องชักเข้าชักออกปาเข้าไปกว่า 2 สัปดาห์ กว่าจะคลอดอย่างเป็นทางการเมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 19 กันยายน เป็นไปตามโพยที่ออกมาก่อนหน้า ไม่มีเซอร์ไพรส์หลุดนาทีสุดท้าย“ครม.เซราะกราว โปะหน้าเค้กกลบไส้เน่าใน”โดยเงื่อนเวลาบ่งบอกความไม่ปกติ สะท้อนจังหวะติดด่าน แบบที่กรองคุณสมบัติหลายชั้น เช็กประวัติกันยิบยังไงก็มี “เศษหยาบ” หลุดเข้าไปจนได้เรื่องที่ต้องคิดหนัก สถานการณ์ล้อไปกับเสียงยี้ เสียงโห่ เสียงทักดักคอทั้งสื่อกระแสหลัก นักวิชาการ ภาคประชาชน กระแสสังคมพากันรุมชี้เป้าแคนดิเดตรัฐมนตรี “ขาใหญ่” บางคน ที่มองด้วยตาเปล่ายังเห็นโปะแป้ง “สีเทา” เป็นคราบชัดๆ ส่อขัด “จริยธรรม” จังๆ“ความซื่อสัตย์สุจริตไม่เป็นที่ประจักษ์” รู้กันทั้งเมืองไทยและออสเตรเลียโดยเฉพาะรายของนายสมชาย แสวงการ อดีต สว. “จอมสอยมืออาชีพ” โพสต์ขู่ดักทางล่วงหน้า เสียดาย ครม. หนู 1 อาจอายุสั้น ถ้าชื่อรัฐมนตรีตรงตามโผสื่อ รธน.160 (5) อาจจบด้วย #ยุบสภา หนีคำวินิจฉัยศาล รธน. ปิดเกม MOA ก่อนกำหนด 4 เดือนเตือนออกอากาศ กระตุกต่อมผวา “นายกฯหนู” เสี่ยงย่ำรอยนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ที่ตกเก้าอี้ เพราะตั้งรัฐมนตรี มีคดี เคยติดคุกติดตะรางและอีกจุดชนวนความร้อนที่ “ล่อขีปนาวุธค่ายส้ม” ตามล็อกเป้า “เสี่ยเฮ้ง”นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ โดยคู่กัดอย่าง “น้องไอซ์” รักชนก ศรีนอก สส.บัญชีรายชื่อ ตัวกลั่นของพรรคประชาชน นำทีมสกัด ตั้งด่านขวาง “นายกฯหนู” ไม่ให้ตั้งตัวปัญหายุ่มย่ามกับกระทรวงแรงงานป้องกันการกลบทำลายหลักฐานตึก SKYY9 ของประกันสังคม เหมาเป็นปมเชื่อมโยงกันพอดีกับคิวของนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข อดีตเจ้าของตึก SKYY9 ที่เข้ามาเคลมโควตาแทนพ่อ นายสันติ พร้อมพัฒน์ ขาใหญ่ก๊วนเพชรบูรณ์ ที่ไม่พร้อมเป็นรัฐมนตรีเพราะติดเงี่ยงกฎหมาย“ยี้” ยึดโควตาพรรคร่วมรัฐบาล “นายกฯหนู” ต้องกลั้นหายใจ “อุ้มระเบิดพลีชีพติดตัว”พร้อมย้อนมา “ทำลายล้างตัวเอง” ได้ในยามหมดโปรฯอำนาจในสภาพที่ป้อมค่ายของตัวเองก็หาหล่อสวยไม่เจอเหมือนกัน อันตรายยี่ห้อภูมิใจไทยอยู่ที่รัฐมนตรี ก๊วน “ปราสาทสายฟ้า” ที่เป็น “สายล่อฟ้า” มาแบบไม่สนกระแส ไม่แคร์เสียงยี้ไล่ตั้งแต่หัวขบวนแก๊งลูกเทพ “เสี่ยนก” นายไชยชนก ชิดชอบ ที่ประเดิมเก้าอี้รัฐมนตรีด้วยเก้าอี้ รมว.ดิจิทัลฯ ด้วยโปรไฟล์ความรู้ความสามารถไม่ชัดแต่ชัวร์แค่มาด้วยตั๋วทางด่วนของพ่อ “เนวิน ชิดชอบ” เจ้าอาณาจักรเขากระโดงอีกช็อตที่สะท้อนปาฏิหาริย์มนต์เขมรขลังๆ ก็คือชื่อของบิ๊กตำรวจภูธร อย่าง พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ที่โผล่พรวดมายึดแท่น รมว.ยุติธรรม เหมือนส่งมาเก็บกวาดคดีร้อนๆ ทั้งที่ดินเขากระโดงและ “โพยฮั้ว สว.”แบบที่ไม่ทันไร กรมที่ดินสั่งเบรกการเพิกถอนโฉนดที่ดินตระกูลชิดชอบ นำร่องกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่หนาวๆร้อนๆ รู้ชะตาโดนถอนรากถอนโคนกราวรูดแน่“ยุทธการกลบแผล” เอาคืนคู่แค้น สไตล์บิ๊กบราเธอร์ภูมิใจไทยตามเงื่อนไขสถานการณ์มันก็ชัด รัฐบาลเซราะกราวเน้นเคลียร์ดินแดนด้านเขากระโดง เป็นภารกิจด่วนจี๋ ในขณะที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ด้านสระแก้ว กำลังประจันหน้ากับเขมรรุกแผ่นดินไทยซึ่งนั่นก็เป็นจุดที่ “นายกฯหนู” โดนจับพิรุธ เริ่มเบิกเกินงบที่ทีมส้ม “ตีเช็กเปล่า”เข้าเงี่ยงดักโค่นกระดานด้วยเกมสภา ตามจังหวะนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ ตัวจี๊ดของค่ายประชาชน ประกาศล่วงหน้า ถ้าตั้ง รมว.ยุติธรรม ในปีกบุรีรัมย์คอนเนกชัน มาปิดคดีเขากระโดงฝ่ายค้านจะลุยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ปิดเกมรัฐบาลเสียงข้างน้อยทันทีตามรูปการณ์รัฐบาลสูตรพิสดาร มาด้วยท่ายาก แต่ส่อจบง่าย หนีไม่พ้นเงื่อนไขย้อนแย้ง โดนดักทั้งเกมในสภา กระแสภายนอกสภา สภาพ ครม. “เซราะกราว” ภายใต้การนำของ “นายกฯหนู” ต่อให้ถือตั๋วช้างใบใหญ่“เส้นกวยจั๊บพิเศษ” ยังไง ก็ลากไปไม่ได้กี่อึดใจการยุบสภาต้องเกิดขึ้นภายใน 4 เดือนข้างหน้า บวกลบไม่เท่าไหร่จับสัญญาณ เกาะติดความเคลื่อนไหวของ “นักเลือกตั้งอาชีพ” ทุกป้อมค่าย ต่างมุ่งไปที่การแต่งตัวออกศึกใหญ่ เตรียมพร้อมลงสนามเลือกตั้งใหญ่โฟกัสพรรคประชาชน ค่ายส้ม “ยืนหนึ่ง” ในปีกเสรีนิยมที่ยึดแท่น “เต็งหนึ่ง”สารพัดโพลสำนักมาตรฐานยกเป็นแชมป์ นำโด่ง ตามฟอร์มแบบที่ “กุมารเท้ง” นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรค แสดงความปึ้กในแบบฉบับพรรคของนักการเมืองรุ่นใหม่ประกาศวางแคนดิเดตนายกฯ 3 คน จัด ครม.แบบฟูลทีมครบหมดแล้วแนวโน้มเปิดเรียกแต้ม กวาดคะแนนนิยมได้ทันที ที่เข้าโหมดเลือกตั้งใหญ่ค่ายส้มตีกินกระแส เคลมเป็นผู้รับเหมาคะแนนนิยม “ฝ่ายเสรีนิยม” ได้แบบไม่ตะขิดตะขวงใจ ในขณะคู่แข่งที่เคยบี้กันมาใน “เลนซ้าย” อย่างพรรคเพื่อไทย ที่ยังครึ่งบกครึ่งน้ำ ก้ำกึ่งไม่รู้จะเลือกอยู่ปีกเสรีนิยมหรือเป็นพวกโหนขบวนอนุรักษ์นิยม ในอารมณ์ยังไล่จิกด่าเด็กส้มไม่เลิก โทษฐานหักดิบไปโหวตให้ “นายกฯหนู”แต่เพื่อไทยกลับไม่ด่าก๊วนเซราะกราว เหมือนไว้ไมตรีรอผสมพันธุ์ในวันข้างหน้าที่แน่ๆโดยสถานการณ์บริษัทจำกัดของ “เถ้าแก่ใหญ่” ยังไม่ทิ้ง “กิจการกงสี” ตามจังหวะที่ “นายหญิงจันทร์ส่องหล้า” โผล่ไปส่งสัญญาณ “สู้ สู้” ปลุกขวัญ สส.พรรคเพื่อไทยรีบเบรกเลือดไหลออก เบรกนกแลแห่บินหนี “นายใหญ่” ที่เป็นพยัคฆ์ในกรงขังในจังหวะแง้มไพ่ตายมาลุยเดิมพัน ลีลาพ่อบ้านใหญ่จันทร์ส่องหล้าอย่าง “เสี่ยอ้วน” นายภูมิธรรม เวชยชัย งัดมุกโคตรเซียนการตลาด แบะท่าเป็นเชิงโยนหิน ทีเล่นแต่เอาจริงเปิดชื่อนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ บอสใหญ่ค่ายเอสซีแอสเสทฯ สามี “เอม” พินทองทา ชินวัตร บุตรสาวคนรอง “ทักษิณ ชินวัตร” มาจ่อเป็นแม่ทัพใหญ่ แคนดิเดตนายกฯในบัญชีของพรรคเพื่อไทยถึงคิวแห่ลูกเขย “นายใหญ่–นายหญิง” มาลุยไฟและเมื่อไม่ทิ้งสไตล์การเมืองแบบบริษัทจำกัด ก็ต้องลุ้นนักเลือกตั้งอาชีพ กลุ่มของ “เดอะซัน” นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่มีสิทธิเลือกทางเดินที่ไม่เสี่ยงสหบาทา หากตีชิ่งจากนายใหญ่ ก็เหลือแค่นกแล ตามสถานการณ์ค่ายเพื่อไทยอยู่ในโหมดขาลง หมดสภาพหัวขั้วอำนาจ ไร้แรงแย่งธงนำขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยมกับคู่แข่งขั้วน้ำเงินที่กำลังเป็นจุดศูนย์กลาง“พลังดูดช้างสาร” แบบที่ก๊วนการเมืองบ้านใหญ่ไหลเข้าเป็นพรวน“นายฮ้อยเขากระโดง” ได้จังหวะกวาดต้อนไพร่พลที่แตกทัพมาจากค่ายรวมไทยสร้างชาติ สมบัติชิ้นสุดท้ายของ “ลุงตู่” บ้านแตกสาแหรกขาด เช่นเดียวกับสภาพก๊วนพลังประชารัฐที่ชิ่งหนี “ลุงบ้านป่าฯ”ยกระดับ “ค่ายน้ำเงิน” ถือธงฝ่ายขวา ลุยบี้กับฝ่ายซ้าย “ค่ายส้ม”ในสภาพค่ายแดง เพื่อไทย ลดชั้นเป็นแค่ตัวแปรที่วนไม่พ้นตระกูลชินวัตร โดยสถานการณ์ภายใต้ข้อจำกัดคล้ายกัน กำลังดิ้นสลัดวังวนเก่าไม่พ้นเหมือนกัน ไฮไลต์จับจ้องไปที่ “ม้านอกสายตา” อย่างค่ายสีฟ้า พรรคประชาธิปัตย์ ที่กำลังลุ้นจุดเปลี่ยนสำคัญ ภายหลัง “เสี่ยต่อ” นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ไขก๊อกทิ้งเก้าอี้หัวหน้าพรรค หนีภาวะทำพรรคตกต่ำสุดในประวัติศาสตร์สถาบันการเมืองไทยและก็เป็นชื่อของ “เดอะมาร์ค” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ที่ถูกเชียร์อัป แม่ยก พ่อยก รวมไปถึงในสายคนนอกที่ไม่ใช่แฟนคลับ ปชป.ฟันธงเป็นตัวเลือกเหมาะเจาะสุดในการรีเทิร์นกลับมากู้ป้อมค่ายรีโนเวตค่ายสีฟ้าที่เป็นหุ้นรอการฟื้นกิจการ ทำกำไรใหม่ได้ทำให้มีสัญญาณกลุ่มทุนใหญ่ สปอนเซอร์ที่ถอนสมอจากค่ายมรดกลุง 3 ป.จ้อง “เทกโอเวอร์” อีกทางก็ยังติดด่านขาใหญ่อย่างนายเดชอิศม์ ขาวทอง บ้านใหญ่สงขลา กับนายชัยชนะ เดชเดโช บ้านใหญ่นครศรีธรรมราช ที่ไม่ยอมปล่อยอำนาจในพรรคง่ายๆ“อภิสิทธิ์” เลยยังกั๊กๆไม่รับโดดขึ้นเทียบหามกลับ เพราะไม่ชัวร์กลัวเสียเชิงแต่ที่น่าจับตา กับฟอร์มใหม่ภายใต้แรงขับเคลื่อน “สหพัฒน์คอนเนกชัน” จากสถานะของนายอภิสิทธิ์ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรองประธานบอร์ดยักษ์ใหญ่คอนซูเมอร์ นั่นทำให้เชื่อมโยงไปถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯมือเศรษฐกิจ ที่เป็นผู้บริหารในกลุ่มเดียวกัน เหมือนเติมเต็มเชิงบริหารที่ “เดอะมาร์ค” ขาดไปวันนี้ของ “อภิสิทธิ์” จึงมีโอกาสที่จะสลัดทิ้งวังวนเดิม กลับมาเป็นทางเลือกที่เหมาะกับสถานการณ์ลุ้นดึงแต้ม “กองกลาง” เก็บตกคะแนนนิยมที่ผิดหวังจากการเทใจให้ “ลุงตู่”.“ทีมการเมือง”คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม