"ทนายอุ้ม" เข้าพบตำรวจกองปราบฯ มอบพยานหลักฐานเพิ่มเติม แฉพระนักเทศน์ดังใน จ. ปทุมธานี 12.2 ล้านบาท เมื่อปี 61 อ้างนำไปใช้จัดตั้งมูลนิธิด้านพุทธศาสนาที่เมืองเบียร์ เจ้าตัวเผยรับมอบอำนาจจากสีกาเป็นคนเดินเรื่องเอาผิดพระดัง ตรวจสอบทุจริตเงินวัดใช้บัญชีสีกาเป็นทางผ่าน ยืนยันแจ้งความไม่เกี่ยวเรื่องขัดผลประโยชน์หรือความสัมพันธ์ส่วนตัว พร้อมให้การผ่านช่องทางออนไลน์จากเยอรมนี ด้านวัดนาป่าพงตั้งทีมทนายวัดชี้แจงทันควัน ระบุ พระอาจารย์คึกฤทธิ์โอนเงินเพื่อใช้จัดตั้งมูลนิธิพุทธวจนเยอรมนี และโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารมูลนิธิเงินอยู่ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ไม่ได้ยักยอกทรัพย์หรือฟอกเงินตามที่กล่าวหากรณีทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ และประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ออกมาเปิดโปงพระนักเทศน์ชื่อดังใน จ.ปทุมธานี มีพฤติกรรมต้องสงสัยโอนเงินเข้าบัญชีของสีกาคนหนึ่งที่ประเทศเยอรมนี จำนวนกว่า 12.2 ล้านบาท พระอยากให้สีกาโอนเงินกลับเข้าบัญชีส่วนตัวของพระจำนวน 13 ล้านบาท แต่สีกาไม่โอนคืน มีการฟ้องร้องแจ้งความคดีแพ่ง ฝ่ายพระอ้างว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินค่าเดินทาง เงินเดือน และค่าอาหารแมว ต่อมาสีการู้ว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินวัดไม่ใช่เงินส่วนตัวของพระ ลักษณะเป็นการฟอกเงินทุจริตเบียดบังเงินวัด จากนั้นได้ปรึกษาทนายความก่อนเข้าแจ้งความที่กองปราบปราม คดีอยู่ระหว่างการพิจารณารวบรวมพยานหลักฐานความคืบหน้าที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 ก.ย. น.ส.ทองใหม่ ขวัญหมื่น หรือทนายอุ้ม ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากสีกาพลอย (นามสมมติ) จากประเทศเยอรมนี เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. เพื่อให้ปากคำและมอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมทั้งหมด ทนายอุ้มเปิดเผยถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า เมื่อปี 2561 คุณพลอยเลื่อมใสและศรัทธาในตัวหลวงพ่อวัดแห่งนี้ ทางวัดต้องการที่จะให้จดทะเบียนจัดตั้งสมาคมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาที่ประเทศเยอรมนี ลักษณะของสมาคมเป็นสาขาของวัด เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา และยังแอบอ้างด้วยว่า หลวงพ่อเป็นพระอรหันต์อีกด้วย ต่อมาหลวงพ่อทยอยโอนเงินให้คุณพลอย ตามที่ปรากฏพยานหลักฐาน 4 ครั้ง ครั้งที่ 1 จำนวน 6 ล้านบาท ครั้งที่ 2 จำนวน 2.7 ล้านบาท ครั้งที่ 3 จำนวน 2 ล้านบาท และครั้งที่ 4 จำนวน 1.5 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 12.2 ล้านบาท จากนั้นคุณพลอยได้โอนเงินเข้าไปที่สมาคมดังกล่าว ตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งเอาไว้ ลักษณะเป็นการว่าจ้างให้คุณพลอยเป็นผู้รับเงินจากประเทศไทย ก่อนโอนส่งต่อไปยังบัญชีของสมาคม ส่วนจะได้รับเงินค่าจ้างเท่าใดอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล น.ส.ทองใหม่กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นคุณพลอยมารู้เรื่องว่า เงินที่รับโอนผ่านเข้าไปยังสมาคม กลับถูกโอนต่อไปยังบัญชีของพระรูปหนึ่ง ขอสงวนชื่อไว้ก่อน หลังจากที่คุณพลอยทราบเรื่องทำให้เสียความรู้สึก เห็นว่าเป็นเพียงแค่ทางผ่าน ทั้งที่เข้าใจในตอนแรกว่าจะช่วยส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา แต่กลายเป็นว่าเหมือนถูกหลอกใช้ทำให้ตัวคุณพลอยตกเป็นแพะอีกด้วย จากนั้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว คุณพลอยเดินทางมาที่ไทยเพื่อทำหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ทั้ง บก.ปปป. ป.ป.ช. และ ปปง. และมาพบกับตนให้เดินเรื่องและรับผิดชอบ คดี จนนำมาสู่การแจ้งความกับพนักงานสอบสวนบก.ป. เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่วนข้อหาที่จะดำเนินคดีเอาผิดขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่า พนักงานสอบสวนจะพิจารณาข้อหามีอะไรบ้าง เบื้องต้นได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนพิจารณาความผิดเกี่ยวกับเรื่องเงินของวัด และความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานด้วยต่อมาเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน ที่ลานปฏิบัติธรรม วัดนาป่าพง ต.บึงทองหลาง อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นายนันทน อินทนนท์ ทนายความ สำนักงานกฎหมายเล็กซ์เพอร์ติส พร้อมด้วยทนายอีก 3 คน แถลงข่าวชี้แจงกระแสข่าวพระดังโอนเงินให้สีกาที่เยอรมนีเกี่ยวพันวัดนาป่าพง และพระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล โดยนายนันทนกล่าวว่า ในฐานะตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจากวัดนาป่าพง และพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ขอชี้แจงกระแสข่าวที่ปรากฏในสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ทำนองว่า มีพระภิกษุเป็นเจ้าอาวาสวัดชื่อดังในจังหวัดปทุมธานียักยอกทรัพย์สินของวัด โดยแสดงหลักฐานการโอนเงินให้แก่สีกาคนหนึ่งจำนวน 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 12,200,000 บาท และต่อมาได้มีการโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปยังประเทศเยอรมนีจำนวน 29 ครั้ง อีกทั้งยังกล่าวอ้างต่อไปว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของพระอาจารย์คึกฤทธิ์ในประเทศเยอรมนี เป็นการยักยอกทรัพย์สินและเป็นการฟอกเงินนั้น เมื่อปี 61 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ได้ริเริ่มจัดตั้งมูลนิธิพุทธวจนเยอรมนี เพื่อเป็นองค์กรการกุศลในเยอรมนี ตามกฎหมายแห่งประเทศเยอรมนีต้องจัดให้มีแหล่งเงินทุนเบื้องต้น จึงมีการแต่งตั้งผู้รับมอบอำนาจรายหนึ่งในประเทศเยอรมนีเพื่อเป็นตัวแทนดำเนินการต่างๆให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งมูลนิธิดังกล่าว นายนันทนกล่าวต่อว่า ดังนั้นการโอนเงินดังกล่าวเป็นไปเพื่อจัดตั้งมูลนิธิโดยเฉพาะ ต่อมาได้จัดตั้งมูลนิธิแล้วเสร็จใช้ชื่อว่า Stiftung Buddhawaiana Germany เป็นองค์กรการกุศลที่ได้รับการรับรองและอนุญาตจัดตั้งโดยประธานาธิบดี รัฐบาวาเรียตอนล่าง เมื่อวันที่ 19 ก.พ.62 ปัจจุบันมีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีเลขที่ 132/110/9000 จากสำนักงานสรรพากรจังหวัดลันทช์ฮูท (Landshut) ต่อมาได้มีการโอนเงินเข้าบัญชีมูลนิธิพุทธวจนเยอรมนี ที่ธนาคาร SozialBank หมายเลขบัญชี DE05 3702 0500 0009 8469 00 ตั้งแต่จัดตั้งมูลนิธิเป็นที่เรียบร้อย เงินจำนวนดังกล่าวยังคงอยู่ในบัญชีธนาคารต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน จึงไม่มีการยักยอกทรัพย์หรือการฟอกเงินตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใดแต่เดิมพระอาจารย์คึกฤทธิ์ได้เคยแต่งตั้งตัวแทนผู้รับมอบอำนาจในการดำเนินธุรกรรมทางการเงินเพื่อประโยชน์ในการจัดตั้งมูลนิธิ โดยมีอำนาจในการเบิกถอนเงินด้วย นับตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.61 ต่อมาได้มีข้อพิพาทเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของตัวแทนในประเทศเยอรมนี พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ได้เพิกถอนการมอบอำนาจดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค.64 และได้มีการฟ้องร้องบุคคลดังกล่าวเป็นคดีต่อศาลภูมิภาคเดกเกนดอร์ฟ (Deggendorf Regional Court) เป็นคดีเลขที่ AZ: 010832/23 ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล วัดนาป่าพงยังคงมุ่งมั่นในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ด้วยความตั้งใจบริสุทธิ์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ขอให้ญาติโยมและประชาชนทุกท่านเชื่อมั่นในความสุจริตใจและความถูกต้องอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่