ตำรวจ ปอท. แถลงผลปฏิบัติการ “9.9 Fake Company” ลุยค้น 13 จุด 4 จังหวัด ทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตุ๋นเทรดหุ้น รวบนายทุนจีนหัวหน้าแก๊งและพวกมีคนไทยร่วมด้วยอีก 14 ราย เผยขั้นตอนลวงอ้างเป็นเลขาฯนักลงทุนเซียนหุ้นชื่อดังในไทยมาพูดคุย รวมทั้งยังใช้ไลน์ปลอมมาพูดคุยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เสียหาย พบสร้างความเสียหายกว่า 600 ล้านปอท.ทลายแก๊งตุ๋นเทรดหุ้นทุนจีนเทา เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 ก.ย. ที่ ห้องแถลงข่าว ชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาลัย ผบก.ปอท. พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.2 บก.ปอท. พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ปอท. พ.ต.ต.ลัทธพล อัครปัญญา สว.(สอบสวน) กก.2 บก. ปอท. ร่วมกันแถลงข่าวผลปฏิบัติการ “9.9 Fake Company” นำกำลังตรวจค้นเป้าหมาย 13 จุด ใน กทม. จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี และ จ.เชียงใหม่ กวาดล้างจับกุมขบวนการหลอกลงทุนเทรดหุ้นผ่านเว็บไซต์ปลอมผลตรวจค้นจับกุมนายหวัง เหยียนบิน อายุ 40 ปี ชาวจีน หัวหน้าขบวนการได้ที่คอนโดฯย่านทาวน์อินทาวน์ แขวงพลับพลา เขตบางกะปิ กทม.พร้อมผู้ร่วมขบวนการอีก 14 ราย อายัดตัวผู้ต้องหาในเรือนจำดำเนินคดีเพิ่มอีก 1 ราย ตามหมายจับ ศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น นำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ, สมคบฟอกเงิน และร่วมกันเป็นอั้งยี่” ยึดของกลาง รถยนต์หรู 9 คัน กระเป๋าและเครื่องประดับแบรนด์เนม อีก 40 รายการ เงินสดหลายสกุล มูลค่ารวมประมาณ 300,000 บาท โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 29 รายการ สมุดบัญชีธนาคาร บัตร ATM กว่า 100 รายการ ซิมการ์ด 10 ซิม และพระเครื่อง 23 องค์ รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดกว่า 21 ล้านบาทพล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาลัย ผบก.ปอท. กล่าวว่า แผนประทุษกรรมของผู้ต้องหาจะเริ่มจากเปิดเพจเฟซบุ๊กโพสต์ข้อความโฆษณาชักชวนให้นำเงินมาร่วมลงทุนเทรดหุ้นผ่านเว็บไซต์ FINNIXMAX และ CGS International เป็นเว็บไซต์ปลอมที่ทำขึ้นมา เมื่อมีผู้สนใจจะถูกดึงเข้ากลุ่ม LINE OPENCHAT จากนั้นจะให้กดลิงก์โฆษณาดังกล่าว พร้อมให้ผู้เสียหายกรอกเบอร์โทร และไอดีไลน์เพื่อร่วมลงทุน ต่อมาจะมีคนร้ายใช้ไลน์ติดต่อมาหาอ้างว่าเป็นเลขาฯนักลงทุนซึ่งเป็นเซียนหุ้นชื่อดังในไทยมาพูดคุย รวมทั้งยังใช้ไลน์ปลอมเป็นนักลงทุนรายนี้มาพูดคุยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เสียหาย ภายในกลุ่มจะมีหน้าม้าแฝงตัวกว่า 100 คน เข้ามาพูดคุย แนะนำการลงทุนหุ้นตัวต่างๆ สร้างความน่าเชื่อถือ ว่าสามารถจะทำกำไรได้อยู่ที่ประมาณ 10-20% ภายในระยะเวลา 2-3 วัน ช่วงแรกผู้เสียหายจะถอนเงินได้จริงเพื่อสร้างความมั่นใจ แต่หลังจากโอนเงินลงทุนเพิ่มไม่สามารถถอนออกได้ รวมถึงไม่สามารถติดต่อผู้ดูแลกลุ่มได้ รวมมูลค่าความเสียหายที่โอนให้กลุ่มผู้ต้องหา 5 ครั้ง เป็นเงิน 1.2 ล้านบาทพล.ต.ต.อธิปกล่าวว่า กลุ่มผู้ต้องหาแบ่งหน้างานหลายหน้าที่ อาทิ กลุ่มจัดหาบัญชีม้า, นิติบุคคล, รับโอนเงินจากเหยื่อกลุ่มถอนเงินสดจากธนาคาร นำไปส่งต่อให้หัวหน้าขบวนการ, กลุ่มล่ามและประสานงานกับชาวจีนผู้บงการ สุดท้ายคือกลุ่มฟอกเงิน ดูแลเส้นทางการเงินและการเบิกถอน ในส่วนของค่าจ้างจะได้รับเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดเบิกถอน หรือเป็นค่าตอบแทนต่อครั้ง 1,000-10,000 บาท ขึ้นอยู่กับหน้าที่ ที่ผ่านมามีผู้ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกเงินหลายราย เฉพาะข้อมูลในระบบแจ้งความออนไลน์ พบว่าเครือข่ายนี้เกี่ยวข้องกับ 265 คดี ความเสียหายรวมกว่า 654 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการหลอกลงทุนเทรดหุ้นออนไลน์ และมีการแอบอ้างชื่อบุคคลผู้มีชื่อเสียงหลายรายขณะที่ พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.2 บก.ปอท. กล่าวว่า สอบสวนนายหวัง เบื้องต้นให้การปฏิเสธ แต่ยอมรับว่าเคยไปรับเงินสดตามคำสั่งชายชาวจีนอีกคนหนึ่ง แต่เมื่อเค้นสอบไม่สามารถบอกได้ว่าชายชาวจีนที่ส่งเงินให้เป็นใคร ส่วนผู้ต้องหาคนไทยหลายรายยอมรับข้อเท็จจริงบางส่วน เช่น เบิกถอนเงินสด และส่งมอบให้เครือข่ายจริง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเงินอะไร คดีนี้เวลาผู้เสียหายโอนเงินแล้ว จะนัดหมายให้คนถือบัญชีส่วนบุคคลไปรอที่ห้างสรรพสินค้า จากนั้นจะส่งสัญญาณให้โอนเงินตามนัด เมื่อเงินเข้าบัญชีแล้วจะถอนออกใน 2 นาที และนำเงินสดไปส่งมอบให้ผู้ร่วมขบวนการรายอื่น นำไปแปลงเป็นคริปโตส่งต่อนายทุน จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่ง กก.2.บก.ปอท.ดำเนินคดี ขยายผลจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่เหลือทั้งหมดต่อไปรายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้เสียหายมาจากกลุ่มผู้ต้องหาจะไปกว้านซื้อบริษัทนิติบุคคลที่เลิกกิจการไปแล้ว เพื่อให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นบริษัทที่มีตัวตนจริง แต่เมื่อตรวจสอบแล้วจะพบว่า เป็นบริษัทเกี่ยวกับการก่อสร้างไม่ใช่บริษัทการเงินการลงทุนอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่