นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวในงาน FutureEd Fest 2025 ภายใต้ธีมงาน The Future of Learning A1-Driven, Human-Centered, and Equitable for All ว่า การศึกษายุคใหม่ มีความซับซ้อนมากขึ้นจากการเติบโตของเทคโนโลยี แต่ต้องตั้งคำถามด้วย ว่าความก้าวหน้านี้ทำให้การศึกษาดีขึ้นหรือไม่ โดยเฉพาะ AI ต้องช่วยสนับสนุนการเรียนรู้และการคิดของเด็ก ขณะเดียวกัน เด็กยังคงต้องมีพื้นฐาน ความรู้ และทักษะการคิด เพื่อใช้เทคโนโลยีได้อย่างสมดุล หากประเทศใด ละเลยการศึกษา ประเทศนั้นก็ยากที่จะเจริญก้าวหน้า ดังนั้น ประเทศไทยต้องเร่งลงทุนและลงมือทำให้การศึกษาเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. ร่วมเสวนาในหัวข้อ From Schooling to Learning โรงเรียนต้องเปลี่ยนอย่างไรในโลกแห่งความไม่แน่นอน ว่า วันนี้ได้รวมภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องมาช่วยกันเพื่อ ทำลายกำแพงความท้าทาย 4 ข้อ คือ 1.กรุงเทพฯ เด็กหลุดออกจากนอกระบบเยอะที่สุดในประเทศ คือ 130,000 คน 20% คือ เด็กเล็ก 2.เด็กเกิดน้อยลง 3.เรามีชนชั้นแรงงานมากขึ้นจากประเทศอื่น และ 4.เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นทุกวันรองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวอีกว่าสำหรับโรงเรียนสังกัด กทม. ที่เดินหน้าตาม นโยบายอย่างแรกคือทำให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยของครู เช่นยกเลิกการ อยู่เวรและลดภาระเอกสาร สำหรับพื้นที่ปลอดภัยเด็ก คือทำให้เด็กรู้สึกมีความสุข อยากมาเรียน ลดระเบียบทรงผม การแต่งกาย อย่างที่สองคือเน้นเรื่องการสอน ทักษะมากกว่าความรู้ เพราะความรู้มีอยู่ทั่วไป แต่เด็กต้องมีทักษะในการค้นหา รู้จักตั้งคำถามได้จินตนาการ ได้สร้างสรรค์ สิ่งนี้เป็นรากฐานการศึกษาที่จะเปลี่ยน จาก Education ไปสู่ Learning และเป็นทักษะการเรียนรู้สู่อนาคต.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่