“จิ้งจก” ทักยังต้องฟัง โบราณท่านว่าไว้อย่างนั้น นี่เลขาธิการกฤษฎีกาที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลได้บอกเตือนมาหลายรอบแล้วว่ารักษาการนายกรัฐมนตรีนั้นไม่มีอำนาจ “ยุบสภา” อำนาจนี้เป็นเรื่องเฉพาะตัวของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวเท่านั้นดังนั้นการที่ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้ทูลเกล้าฯพระราชกฤษฎีกาเพื่อถวายคำแนะนำให้ “ยุบสภา” ไปแล้วนั้นจึงยังเป็นเรื่องที่กังขาไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่?เพราะเป็นเรื่องที่ยังขัดต่อข้อกฎหมายที่จะต้องมีการพิจารณาให้รอบคอบรอบด้านและเป็นพระราชวินิจฉัยของพระองค์ที่ไม่มีใครบังคับได้ก็เป็นประเด็นขึ้นมาเพราะถ้าไม่โปรดเกล้าฯและส่งคืนเรื่องนี้ลงมาให้รัฐบาลก็ต้องไปดำเนินการและอาจจะมีการร้องเอาผิดได้ถือเป็นการกระทำที่ระคายเคืองพระยุคลบาท“ภูมิธรรม” ก็ต้องรับผิดชอบไป!ความจริงเรื่องนี้มีแง่มุมที่สะท้อนภาพให้เห็นว่านักการเมืองนั้นทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง เมื่อไม่ได้ตามที่ต้องการก็หาวิธีการที่จะล้มกระดานว่างั้นเถอะถ้ารัฐบาลโดย “เพื่อไทย” ไม่ไปเจรจาเพื่อขอให้พรรคประชาชนสนับสนุนในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีก็ว่าไปอย่างแต่นี่พรรคประชาชนมีมติสนับสนุนให้ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีก็เลยคว่ำโต๊ะทันทีดังนั้นการอ้างเหตุผลต่างๆเพื่อ “ยุบสภา” ก็เลยไม่มีน้ำหนักกลายเป็น “ขี้แพ้” ชวนตีมากกว่าสถานการณ์ทางการเมืองวันนี้จึงยังไม่มีอะไรแน่นอนจะพลิกซ้ายพลิกขวาได้ทั้งนั้นด้านสภาที่จะทำหน้าที่โหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ก็ต้องดำเนินการต่อไป เพราะเป็นหน้าที่แม้ยังไม่มีอะไรแน่นอนก็ตามคาดว่าวันที่ 5 ก.ย.2568 จะมีการประชุมเพื่อลงมติโหวตนายกรัฐมนตรี โดยมี “อนุทิน” เป็นตัวยืน โดยมีเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชน 143 เสียง และพรรคการเมืองอื่นๆอีกจำนวนหนึ่งไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะได้มีการเรียงหน้าออกมาแถลงเปิดตัวกันชัดเจนไปแล้ว“เพื่อไทย” ที่แม้จะหนุน “ชัยเกษม นิติสิริ” เป็นคู่ชิง แต่ก็มีอะไรแปลกๆชวนให้สงสัยว่าจะเป็นตัวจริงหรือเปล่าก็เพราะเรื่องสุขภาพก็เพราะที่ผ่านมา “เพื่อไทย” ไม่ได้ส่งตัวแทนไปพูดคุยว่าจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีพูดง่ายๆว่าลับๆล่อๆเหมือนจะแอบแฝงอะไรอยู่ก็ต้องไปดูวันจริงว่า “เพื่อไทย” จะเสนอชื่อใครจากแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่เหลืออยู่จากพรรคการเมืองอื่นประเด็นมันก็คือ “เพื่อไทย” นั้นต้องการที่จะถือดุลอำนาจการเมืองต่อไปแม้แคนดิเดตของพรรคไม่ได้ก็ขอคนอื่นที่ “เพื่อไทย” เป็นหุ้นส่วนด้วยขนาดว่าพรรคประชาชนที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาแต่เพื่อต้องการ เสียงสนับสนุนก็ยังต้องเดินเข้าหาเพื่อขอเสียงสนับสนุนตัดทางอีกพรรคหนึ่งเพียงเพื่อกุมอำนาจก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้ง!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม